นักวิจัยมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง คิดค้นนวัตกรรมข้าวอัลตร้าซาวด์ เจลข้าวสำหรับช่วยตรวจอวัยวะภายในร่างกายด้วยเครื่องอัลตร้าซาวด์ เพิ่มมูลค่าให้กับข้าวไทย ล่าสุดคว้ารางวัลการวิจัยแห่งชาติ รางวัลผลงานสิ่งประดิษฐ์คิดค้น ประจำปี 2564 ระดับดี สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ จากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
ประเทศไทยเป็นผู้นำเข้าเครื่องมือแพทย์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในอาเซียน อุปกรณ์การแพทย์ที่นำเข้าส่วนใหญ่เป็นประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง ซึ่งรวมถึงเจลอัลตร้าซาวด์ ที่แพทย์นำมาใช้ตรวจในช่องท้อง ปัญหานี้เอง นักวิจัยจึงได้คิดค้นเจลข้าวสำหรับช่วยตรวจอวัยวะภายในร่างกายด้วยเครื่องอัลตร้าซาวด์ จนเป็นผลสำเร็จ วช. ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จึงได้มอบรางวัลการวิจัยแห่งชาติ : รางวัลผลงานสิ่งประดิษฐ์คิดค้น ประจำปี 2564 ระดับดี สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ แก่ผลงานสิ่งประดิษฐ์ “ข้าวอัลตร้าซาวด์” เจลข้าวสำหรับช่วยตรวจอวัยวะภายในร่างกายด้วยเครื่องอัลตร้าซาวด์ แก่นายแพทย์สิทธิพร บุณยนิตย์ อาจารย์สังกัดสำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย และคณะ
นายแพทย์สิทธิพร บุณยนิตย์ เปิดเผยว่า ข้าวอัลตร้าซาวด์ เป็นเจลทางการแพทย์ ที่ใช้เป็นตัวกลางส่งผ่านคลื่นเสียงความถี่สูงของคลื่นอัลตร้าซาวด์ เพื่อตรวจวิเคราะห์อวัยวะภายในร่างกายผู้ป่วย โดยเจลทำหน้าที่เป็นสารหล่อลื่นระหว่างหัวตรวจที่โค้งมนของเครื่องอัลตราซาวด์กับผิวหนังของผู้ป่วย
ข้าวอัลตร้าซาวด์ เกิดจากการนำข้าวเจ้ามาเป็นวัตถุดิบหลัก ในการผสมร่วมกับสารละลายกลีเซอรีน สารโซเดียมไฮดรอกไซด์ สารเมทธิลพาราเบน และน้ำตาลซูโครส ผลปรากฏว่าค่าความเป็นกรด-ด่าง ความชื้นสัมพัทธ์ กับความหนืด ความเหลวของเจลตรงตามมาตรฐานเครื่องมือแพทย์ แต่สามารถทำความสะอาดผิวได้ด้วยน้ำเปล่า กลิ่นก็ไม่ฉุน คุณภาพของภาพอัลตร้าซาวด์ เมื่อได้นำไปทดสอบใช้งานจริงในมนุษย์ พบว่าเจลอัลตร้าซาวด์จากข้าวเจ้ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ สร้างภาพจำลองได้คมชัดมากกว่าเจลอัลตร้าซาวด์จากต่างประเทศ
แนวคิดที่เลือกข้าวเจ้ามาเป็นวัตถุดิบ เนื่องจากข้าวเจ้า เป็นสารอินทรีย์ เมื่อมีความชื้นปนอยู่มากจะเกิดปฏิกิริยาเคมีไปส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลชีพและมอดแมลง ทำให้องค์ประกอบข้าวทุกส่วนบูดเน่าได้โดยเร็ว การลดความชื้นในข้าวเปลือกจะเป็นวิธีพื้นฐาน เพื่อช่วยถนอมข้าวให้เก็บรักษาได้นานขึ้น อีกทั้งการแปรรูปข้าวไปเป็นเครื่องมือแพทย์ ก็จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้าวได้อีกหลายสิบเท่าตัว
สำหรับการต่อยอดทางนักวิจัยได้ร่วมมือกับภาคเอกชน เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต มีการขึ้นทะเบียนสินค้าทางการแพทย์ ที่ออกโดย กองควบคุมเครื่องมือแพทย์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาไทย และในขณะนี้ ได้เริ่มผลิตสินค้าต้นแบบตามระเบียบเครื่องมือแพทย์ไทย และดำเนินการทางการตลาด โดยทดลองจำหน่าย จ่ายและแจกผลิตภัณฑ์สิ่งประดิษฐ์คิดค้นให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศได้ทดลองใช้
ด้านดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวว่า วช. มอบรางวัลการวิจัยแห่งชาติ ประจำปี 2564 ให้ข้าวอัลตร้าซาวด์ เนื่องจากเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ทำขึ้นจากข้าวเจ้ารายแรกของประเทศไทยและของโลก ที่ได้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติทางกายภาพทางเคมี และทางชีวภาพตามมาตรฐาน ISO 13485 ว่ามีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยเท่าเทียมกับเจลอัลตร้าซาวด์ ของต่างประเทศ สามารถผลิตและจัดจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ตามกฎระเบียบกระทรวงสาธารณสุขไทย และช่วยลดการนำเข้า เพิ่มการส่งออกเครื่องมือแพทย์ ซึ่งเป็นการยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันเชิงวิจัยพัฒนาวิชาการของนักวิทยาศาสตร์ไทยไปสู่แนวหน้าของโลก อีกด้วย