อว. รวบรวมสถิติสำคัญ ในวันที่ทั่วโลกได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 รวมกันกว่า 1,000 ล้านโดส เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยว่า "ขณะนี้ได้มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลก แล้วถึงระดับ 1,000 ล้านโดส ใน 191 ประเทศ/เขตปกครอง ใช้เวลาเพียง 138 วัน เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยความเร็วในการฉีดรวดเร็วเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง 500 ล้านโดสแรกใช้เวลา 108 วัน ในขณะที่ 500 ล้านโดสหลัง ใช้เวลาเร็วขึ้น 3 เท่า เพียง 30 วันเท่านั้น” ในขณะนี้ อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 18.3 ล้านโดสต่อวัน โดยอิสราเอล มัลดีฟส์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฉีดวัคซีนครอบคลุมเฉลี่ยกว่าครึ่งของประชากร ในขณะที่สหรัฐอเมริกาฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมากที่สุด รองลงมาคือประเทศจีน โดยจีนได้เร่งฉีดวัคซีนได้ถึงวันละ 4.1 ล้านโดส และสหรัฐอเมริกาฉีดวันละ 2.8 ล้านโดส คาดว่าจีนน่าจะเป็นประเทศที่ฉีดวัคซีนจำนวนมากที่สุดในโลกภายในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้สหรัฐอเมริกาและจีน ได้ฉีดวัคซีนรวมกันคิดเป็นเกือบครึ่งของจำนวนการฉีดทั่วโลก "สำหรับประเทศไทย ได้ฉีดวัคซีนแล้วรวม 1,124,153 โดส ซึ่งมีผู้ที่ฉีดครบสองเข็มแล้ว 175,029 คน" จังหวัดที่ฉีดวัคซีนมากที่สุด คือ กรุงเทพมหานคร และมี 31 จังหวัดที่ฉีดวัคซีนเข็มที่สองแล้ว ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 52 เป็นบุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข และ อสม. รองลงมาอีก 28% เป็นประชากรในพื้นที่เสี่ยง” "ทั้งนี้มีผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส จำนวน 949,124 คน หรือเท่ากับประมาณ 1.43% ของประชากร" ปลัดกระทรวง อว. สรุป ในขณะที่ทุกประเทศในอาเซียนได้ฉีดวัคซีนแล้วรวมกันมากกว่า 28 ล้านโดส โดยสิงคโปร์เป็นประเทศที่ฉีดวัคซีนในสัดส่วนมากที่สุดครอบคลุมเกือบ 1 ใน 5 ของประชากร ส่วนอินโดนีเซียฉีดวัคซีนจำนวนมากที่สุดถึง 18.5 ล้านโดส ในการฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวน 1,000 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ 1.ระยะเวลาที่ใช้เวลาในการฉีดวัคซีนถึง 500 ล้านโดสแรก ในเวลา 108 วัน ในขณะที่ 500 ล้านโดสหลัง ใช้เวลา 30 วัน (เร็วขึ้น 3 เท่า) -แตะ 200 ล้านโดส ในเวลา 75 วัน 400 ล้านโดส ในเวลาอีก 25 วัน 600 ล้านโดส ในเวลาอีก 14 วัน 800 ล้านโดส ในเวลาอีก 12 วัน และ 1,000 ล้านโดส ในเวลาอีกเพียง 12 วัน 2.ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด มี 4 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส ได้แก่ 1.สหรัฐอเมริกา จำนวน 225.64 ล้านโดส (22.4% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก) 2.จีน จำนวน 216.08 ล้านโดส (21.4%) 3.อินเดีย จำนวน 140.80 ล้านโดส (14%) 4.สหภาพยุโรป จำนวน 126.34 ล้านโดส (12.5%) 3.ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 3 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรมากกว่า 40% แล้ว ได้แก่ 1.อิสราเอล (ครอบคลุมอย่างน้อย 57.4% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna) 2.มัลดีฟส์ (48.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford) 3.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (47.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya) 4.ความเร็วในการฉีดวัคซีน สูงที่สุด 10 อันดับแรก (เฉลี่ยล่าสุด) 1.จีน (เฉลี่ยวันละ 4.1 ล้านโดส) 2.สหรัฐอเมริกา (วันละ 2.8 ล้านโดส) 3.อินเดีย (วันละ 2.6 ล้านโดส) 4.สหภาพยุโรป (วันละ 2.4 ล้านโดส) 5.บราซิล (วันละ 1 ล้านโดส) 6.รัสเซีย (วันละ 0.7 ล้านโดส) 7.เยอรมนี (วันละ 0.5 ล้านโดส) 8.สหราชอาณาจักร (วันละ 0.5 ล้านโดส) 9.คาซัคสถาน (วันละ 0.4 ล้านโดส) 10.เม็กซิโก (วันละ 0.4 ล้านโดส) ทั้งนี้มี 5 ประเทศ/ภูมิภาค ที่ฉีดวัคซีนประมาณวันละ 1 ล้านโดสหรือมากกว่า ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกา อินเดีย สหภาพยุโรป และบราซิล 5.จำนวนการฉีดวัคซีน แยกตามภูมิภาค 1.เอเชียและตะวันออกกลาง 47.74% 2.อเมริกาเหนือ 25.44% 3.ยุโรป 17.89% 4.ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.02% 5.แอฟริกา 1.69% 6.โอเชียเนีย 0.22% 6.ยอดการจองวัคซีนทั่วโลก รวมกันประมาณ 9,600 ล้านโดส -ประเทศที่มียอดการจองวัคซีนจำนวนมากที่สุด ได้แก่ อินเดีย -วัคซีนที่ได้รับการจองมากที่สุดคือวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford -ประเทศที่มีการจองวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดคือ สหราชอาณาจักร 7.ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วในทุกประเทศ รวมกัน 28,133,888 โดส ได้แก่ 1.สิงคโปร์ จำนวน 2,213,888 โดส (ครอบคลุมประชากรอย่างน้อย 19.5% ของประชากร) โดยฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderna 2.กัมพูชา จำนวน 1,915,966 โดส (5.7% ของประชากร) โดยฉีดวัคซีนของ Sinopharm Sinovac และ AstraZeneca 3.อินโดนีเซีย จำนวน 18,556,227 โดส (3.5% ของประชากร) โดยฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca 4.มาเลเซีย จำนวน 1,290,414 โดส (2% ของประชากร) โดยฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Sinovac 5.ลาว จำนวน 179,525 โดส (1.2% ของประชากร) โดยฉีดวัคซีนของ Sinopharm และ Sputnik V 6.พม่า จำนวน 1,040,000 โดส (1% ของประชากร) โดยฉีดวัคซีนของ AstraZeneca 7.ไทย จำนวน 1,124,153 โดส (0.8% ของประชากร) โดยฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca 8.ฟิลิปปินส์ จำนวน 1,612,420 โดส (0.7% ของประชากร) โดยฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca 9.บรูไน จำนวน 2,323 โดส (0.3% ของประชากร) โดยฉีดวัคซีนของ Sinopharm และ AstraZeneca 10.เวียดนาม จำนวน 198,972 โดส (0.1% ของประชากร) โดยฉีดวัคซีนของ AstraZeneca 8.ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ได้จัดส่งวัคซีนแล้วจำนวน 2,003,846 โดส จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 1,124,153 โดส ณ วันที่ 25 เมษายน 2564 แบ่งเป็นเข็มแรก 949,124 โดส และเข็มสอง 175,029 โดส โดยฉีดแล้วครบทุกจังหวัด หากพิจารณาจากผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส จะมีจำนวน 949,124 คน หรือเท่ากับ 1.43% ของประชากร 8.1 สัดส่วนการฉีดวัคซีนแบ่งตามกลุ่มเป้าหมาย - บุคลากรการแพทย์ สาธารณสุขและ อสม. 52% - ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 28% - เจ้าหน้าที่อื่นๆที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 13% - บุคคลที่มีโรคประจำตัว 4% - ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 3% 8.2 จังหวัดที่มีการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 สูงสุด 10 อันดับแรก - กรุงเทพมหานคร - สมุทรสาคร - ภูเก็ต - สุราษฎร์ธานี - ตาก - ชลบุรี - นนทบุรี - สมุทรปราการ - ปทุมธานี - นครราชสีมา แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, Covidvax, กระทรวงสาธารณสุข ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)