มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน พ.ศ. 2563 เดินหน้าขับเคลื่อน “โครงการนวัตกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เพื่อพลังงานสะอาด” จัดกิจกรรม “School Partner Orientation” นำเสนอแนวคิดกลุ่มนักศึกษา เตรียมความพร้อมสู่การเป็นสคูลพาร์ทเนอร์ร่วมกับครู 50 ทีม พร้อมจุดประกายไอเดียครู ม.ปลายหลากสาขา จากทั่วประเทศ ดีไซน์สื่อการเรียนรู้พลังงานสะอาด “Clean Energy for Life” ผลักดันการใช้พลังงานสะอาดในทุกภาคส่วน สร้างความมั่นคงด้านพลังงาน เชื่อมโยงเป้าหมายสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้จัดกิจกรรม “School Partner Orientation” ภายใต้การดำเนิน “โครงการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เพื่อพลังงานสะอาด” ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน พ.ศ. 2563 เพื่อนำเสนอแนวคิดของนักศึกษาและเตรียมความพร้อมในการเป็นผู้อำนวยการเรียนรู้ (School Partner) ร่วมกับครูระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายทุกสาขาวิชาและอาชีวศึกษาทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการฯ ณ ห้องอเนกประสงค์ 103 อาคารสิริวิทยลักษณ์ คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ไปเมื่อเร็วๆนี้ที่เข้าร่วมโครงการที่ห้องอเนกประสงค์ 103 อาคารสิริวิทยลักษณ์ คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ไปเมื่อเร็วๆ นี้
มธ. กับพันธกิจโดยตรงในการพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านพลังงานสะอาด
รองศาสตราจารย์ ดร.อนุชาติ พวงสำลี คณบดีคณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มุ่งเน้นการเรียนรู้ในลักษณะผสมผสาน ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติในรูปแบบที่ผู้เรียนมีส่วนร่วมเป็นสำคัญ(Active Learning) ตลอดจนร่วมขับเคลื่อนการเรียนรู้กับสถาบันการศึกษา ครู นักเรียน และสังคมการเรียนรู้ต่างๆอย่างต่อเนื่อง จากปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ทำให้ค้นพบว่าหัวใจสำคัญของการพัฒนาครูคือ “การพัฒนาสื่อการเรียนรู้ที่ดี” สร้างกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นได้จริง ยั่งยืน และดำรงอยู่ได้ด้วยตัวของครูเอง” ซึ่งพลังงานสะอาดเป็นอีกหนึ่งประเด็นทางสังคมที่ผู้คนต่างหันมาให้ความสนใจมากขึ้นผ่านสื่อ และช่องทางต่าง ๆ แต่ยังไม่ตรงกลุ่มเป้าหมายเท่าที่ควร โดยเฉพาะในบริบทของภาคการศึกษา
โดยคณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งมีพันธกิจโดยตรงในการพัฒนาสื่อการเรียนรู้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน พ.ศ.2563 ให้เป็นผู้ดำเนินโครงการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เพื่อพลังงานสะอาดโดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการศึกษา อาทิ ครูระดับมัธยมศึกษาทุกสาขา นักศึกษาในระดับอุดมศึกษา ให้มีศักยภาพในการผลิตนวัตกรรมการเรียนรู้ด้านพลังงานสะอาดอย่างสร้างสรรค์ในการพัฒนาสื่อนวัตกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการรู้เท่าทันพลังงาน (Energy Literacy) ให้เด็กและเยาวชนไทย
School Partner เพื่อนคู่คิด มิตรคู่ครู สร้างความตระหนักรู้ด้านพลังงาน
รองศาสตราจารย์ ดร.อนุชาติ กล่าวอีกว่า กิจกรรม “School Partner Orientation” เป็นการนำเสนอแนวคิดของกลุ่มนักศึกษา 40 คน เพื่อแสดงความพร้อมในการเป็นผู้อำนวยการเรียนรู้ร่วมกับครู 50 ทีมที่เข้าร่วมโครงการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เพื่อพลังงานสะอาด ให้สามารถนำไปพัฒนาสื่อการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับนักเรียนในแต่ละช่วงวัย และสามารถประเมินผลการเรียนรู้จากสื่อที่พัฒนาและต่อยอดได้ในอนาคต ซึ่งนอกจากนักศึกษาจะมีบทบาทในการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการฯ แล้ว ยังถือเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ให้นักศึกษาที่ต้องผ่านการอบรม กระบวนการเรียนรู้ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเข้มข้น
สำหรับโครงการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เพื่อพลังงานสะอาด มีระยะเวลาดำเนินโครงการ18 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 – เดือนเมษายน 2565 โดยเริ่มเปิดรับสมัครครูระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและอาชีวศึกษาทั่วประเทศ จากนั้นทำการคัดเลือกเหลือ 50 ทีม ควบคู่ไปกับการพัฒนาสื่อต้นแบบและเตรียมความพร้อมนักศึกษา 40 คนให้เป็น School Partner เมื่อครูและนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการบนฐานการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ รวมทั้งลงมือออกแบบและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านพลังงานสะอาดแบบสร้างสรรค์ ซึ่งกระบวนการต่างๆ เหล่านี้จะก่อให้เกิดการสร้างนวัตกรรมทางความคิด ทั้งในรูปแบบงานวิจัย บทเรียนออนไลน์ และระบบฐานข้อมูลคลังความรู้ออนไลน์ที่จะช่วยแพร่กระจายนวัตกรรมนี้สู่ชุมชน ครูในพื้นที่อื่นๆ และนำไปสู่การสร้างความยั่งยืนด้านการรู้เท่าทันพลังงานในกลุ่มเด็กและเยาวชน
กองทุนพัฒนาไฟฟ้า มาตรา 97(5) ชูแคมเปญ “Clean Energy for Life” เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน
ดร.บัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า กกพ. ในฐานะองค์กรกำกับดูแลกิจการพลังงานด้านกิจการไฟฟ้าและกิจการก๊าซธรรมชาติ มีพันธกิจโดยตรงในการส่งเสริมสังคมและประชาชนให้มีความรู้และความตระหนักด้านพลังงาน รวมถึงส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ การใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสื่อสาร เพื่อกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมอย่างจริงจังในการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ภายใต้แคมเปญ “Clean Energy for Life” หรือ “ใช้พลังงานสะอาดเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน” โดยมีกองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.)เป็นหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงาน
สำหรับการส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องพลังงานสะอาดในภาคการศึกษา ถือเป็นอีกหนึ่งบทบาทของ กกพ. เนื่องจากการศึกษาเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะนำไปสู่การใช้พลังงานสะอาดเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นคนไทยจากการใช้และผลิตพลังงานสะอาดที่ไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และนำไปสู่การเข้าถึงพลังงานสะอาดในราคาที่เข้าถึงได้ สร้างผลประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนในสังคมไทยจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์ และในท้ายที่สุดแล้ว การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกนี้จะช่วยพัฒนาสังคมไทยให้เกิดสมดุลในทุกมิติ และเชื่อมโยงสังคมทุกระดับจากครัวเรือนสู่ชุมชน สังคมโดยรวม และในระดับโลก บนเส้นทางสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ขององค์การสหประชาชาติ
วาดหวังเด็กไทยเพิ่มอัตราเร่งเปลี่ยนผ่านสังคมสู่การใช้พลังงานสะอาด
ในฐานะหนึ่งในคณะที่ปรึกษาของโครงการ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลากล่าวเสริมในตอนท้ายว่า ภาคการศึกษามีภารกิจที่ชัดเจนในการสร้างกระบวนการเรียนรู้เกี่ยวกับพลังงานสะอาดให้กับเด็กและเยาวชน เนื่องจากโลกในอนาคตจะต้องพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปสู่ทิศทางของการใช้พลังงานสะอาด ไม่ว่าจะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานชีวภาพ พลังงานชีวมวลเพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และการให้ความสำคัญกับสุขภาพ ซึ่งพลังงานสะอาดสามารถตอบโจทย์ได้ครบทุกมิติ คาดหวังว่าเด็กและเยาวชนที่ได้รับการปลูกฝังความคิด และองค์ความรู้ด้านพลังงานสะอาดที่จะเติบโตเป็นคนรุ่นใหม่ จะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะเพิ่มอัตราเร่งในการปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานของสังคมไทยไปสู่การใช้พลังงานสะอาดได้เร็วขึ้น
ขณะเดียวกันยกตัวอย่างการใช้ประโยชน์จากพลังงานสะอาดเช่น การติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ของโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา ที่สามารถลดภาระค่าไฟฟ้าอย่างเห็นได้ชัด โดยในปี 2559 ค่าไฟฟ้าโรงพยาบาลจะนะสูงถึง 3.31 ล้านบาท แต่หลังจากติดตั้งโซลาร์เซลล์ ขนาด 20 กิโลวัตต์ ในปี 2560 และเพิ่มเป็น 72 กิโลวัตต์ ในปี 2562 ควบคู่ไปกับมาตรการอื่นๆเช่น การเปลี่ยนมาใช้หลอด LED การติดฟิล์มอาคาร การเหลื่อมเวลาการใช้ไฟ ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าในปี 2563 ลดลงเหลือ 2.32 ล้านบาท สร้างการเปลี่ยนแปลงที่เห็นผลชัดเจน และปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้นำโมเดลดังกล่าวไปใช้ในองค์กร ชุมชน และครัวเรือนซึ่งจะเป็นการเสริมความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ