อว. เผยฉีดวัคซีนทั่วโลกแล้ว 944 ล้านโดส ใน 188 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 26.9 ล้านโดส ไทยฉีดแล้วมากกว่า 8 แสนโดส เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 944 ล้านโดส ใน 188 ประเทศ/เขตปกครอง (ข้อมูล ณ วันที่ 22 เม.ย.64) โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 15.9 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณารายประเทศพบว่า อิสราเอลได้ฉีดวัคซีนครอบคลุมเกินครึ่งของประชากรแล้ว ในขณะที่สหรัฐอเมริกา มีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 216 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 87.6 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว ด้านอาเซียนขณะนี้ ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 26.9 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (19.5% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซีย ฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 17.9 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 22 เมษายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 864,840 โดส โดยฉีดให้กับบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 47% ในการฉีดวัคซีน จำนวน 944 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ 1.ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 3 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 60% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก 1.สหรัฐอเมริกา จำนวน 215.95 ล้านโดส (33.7% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก) 2.จีน จำนวน 198.97 ล้านโดส (7.1%) 3.อินเดีย จำนวน 132.24 ล้านโดส (4.8%) 2.ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 8 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน) 1.อิสราเอล (57.3% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna) 2.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (46,1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya) 3.มัลดีฟส์ (46%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm ) 4.บาห์เรน (37.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley) 5.ชิลี (34.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Sinovac) 6.สหรัฐอเมริกา (33.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Johnson&Johnson) 7.สหราชอาณาจักร (32.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Pfizer/BioNTech) 8.ภูฏาน (32.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford) 3.จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค 1.เอเชียและตะวันออกกลาง 47.12% 2.อเมริกาเหนือ 25.93% 3.ยุโรป 18.01% 4.ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.99% 5.แอฟริกา 1.74% 6.โอเชียเนีย 0.21% 4.ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 22,984,902 โดส ได้แก่ 1.สิงคโปร์ จำนวน 2,213,888 โดส (19.5% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderna 2.กัมพูชา จำนวน 1,775,364 โดส (5.2% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm 3.อินโดนีเซีย จำนวน 17,920,908 โดส (3.3% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac 4.มาเลเซีย จำนวน 1,231,760 โดส (1.9% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Sinovac 5.พม่า จำนวน 1,040,000 โดส (1% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca 6.ลาว จำนวน 156,818 โดส (1% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm 7.ฟิลิปปินส์ จำนวน 1,812,420 โดส (0.7% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca 8.ไทย จำนวน 864,840 โดส (0.7% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca 9.บรูไน จำนวน 2,323 โดส (0.3% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca 10.เวียดนาม จำนวน 108,897 โดส (<0.1% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca 5.ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 22 เมษายน 2564 จัดสรรวัคซีนแล้วทั้งหมด 2,159,319 โดส จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 864,840 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น -เข็มแรก 746,617 โดส -เข็มสอง 118,223 โดส กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการฉีดวัคซีน เรียงตามสัดส่วนมากที่สุด ได้แก่ -บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข และ อสม. 47% -ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 31.5% -เจ้าหน้าที่อื่นๆที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 14% -ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป 3.5% -บุคคลที่มีโรคประจำตัว อย่างละ 4% แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)