นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2564 นี้ บริษัท ทิปโก้ฯ ดำเนินธุรกิจครบ 45 ปี และเป็นปีแรกในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ธุรกิจปัจจุบันของทิปโก้มีสินค้าหลักที่สำคัญ คือ น้ำผลไม้ทิปโก้ และน้ำแร่ออรา ในส่วนของตลาดน้ำผลไม้นั้นโดยรวมอยู่ในสภาพที่ถดถอยเพราะผู้บริโภคบางกลุ่มมีความกังวลความหวานของน้ำผลไม้ และผลกระทบการจัดเก็บภาษีความหวาน ทำให้ต้นทุนของผลิตภัณฑ์สูงขึ้น ขณะที่สภาพเศรษฐกิจทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลง และปี 2563 ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีการประกาศล็อคดาวน์ ร้านขายปลีกปิด ปัจจัยต่างๆเหล่านี้ส่งผลถึงผลการดำเนินงานของทิปโก้ และเป็นโจทย์สำคัญที่ต้องเร่งเข้ามาปรับปรุง
นายยงสิทธิ์เปิดเผยต่อไปว่า สภาพตลาดในภาวะถดถอยนี้ ถือเป็นความท้าทายอย่างมาก แต่เห็นว่าสามารถสร้างโอกาสใหม่ๆ ที่ผลักดันให้ธุรกิจเติบโตได้ จึงได้วางยุทธศาสตร์และปรับแนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจใหม่ เช่น การปรับประเด็นการสื่อสารกับผู้บริโภค เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการบริโภคน้ำผลไม้เพราะข้อเท็จจริงการดื่มน้ำผลไม้มีคุณค่าเทียบเท่ากับการบริโภคผลไม้สดและความหวานก็ไม่ได้มากอยู่แล้ว ทั้งน้ำผลไม้เช่นของทิปโก้ มีกระบวนการผลิตที่คุณภาพสูง มั่นใจได้ว่าสะอาดกว่าน้ำผลไม้คั้นสดรายย่อยๆ ที่อาจมีความเสี่ยงมีสารเคมีปนเปื้อน
การพัฒนาสินค้าด้วยนวัตกรรมใหม่ๆออกตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่น กลุ่มที่เรียกว่า Variety ในช่วงแรกจะมี Immunity Drink, Apple Cider Vinegar และ Curcumin Drink
ในกลุ่ม Mass เตรียมออกน้ำแร่จากแหล่งเพชรบูรณ์ในราคาน้ำดื่มภายใต้แบรนด์ Aquare (อควาเร่) เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงน้ำแร่คุณภาพตามมาตรฐานทิปโก้ได้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น
ในกลุ่ม Premium ออกสินค้าคอนเซปต์ที่รสชาติอร่อย มีความนำสมัย โดดเด่น แปลกใหม่ เข้าสู่ตลาด อาทิ เรด แซงแกรีย (Red Sangria)
ด้านการจัดจำหน่าย เช่น การสร้างช่องทางการขายในระบบออนไลน์เข้ามาเสริม รวมถึงเพิ่มการจัดจำหน่ายสินค้าในลักษณะใหม่ อาทิ ผ่านระบบสมาชิก (Subscription) หรือจัดส่งสินค้าถึงบ้านแบบ Home Delivery หรือรับสินค้าได้จากช่องทางออฟไลน์ที่หน้าร้าน Squeeze Bar
ด้านขายปลีกร้าน Squeeze Bar เป็นร้านบริการปลีกจำหน่ายน้ำผลไม้สดและสินค้าในกลุ่มของทิปโก้รวมถึงอาหารและเครื่องดื่มกัญชากัญชง โดยมีส่วนของทิปโก้เองและแฟรนไชส์ และเพิ่ม Squeeze Buddy ที่เป็นรูปแบบของร้านบริการขนาดเล็กแบบ “ร้านในร้าน” (Shop in Shop)
ด้านกลุ่ม Specialty ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีส่วนผสมของกัญชากัญชง ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และอื่นๆ ผ่านความร่วมมือกับสถาบันต่างๆ ทั้งในระดับต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ พร้อมทยอยเข้าสู่ตลาดเมื่อมีการอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายจากภาครัฐ และเปิด Ganchashop.com ให้มีผลิตภัณฑ์กัญชากัญชงที่ได้คัดสรรคุณภาพ ส่งเสริมให้เป็น outlet สำหรับผู้ผลิตนำผลิตภัณฑ์มาจำหน่าย และผู้ต้องการซื้อสินค้าสามารถมั่นใจได้ในคุณภาพ
กลุ่มสินค้า Non Food & Beverage ได้แก่เครื่อง Air Water by Tipco (เครื่องผลิตน้ำจากอากาศ) สำหรับผลิตน้ำคุณภาพสูง ราคาประหยัด สำหรับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เช่น ตามเกาะ พื้นที่ห่างไกล โรงเรียน สำนักงาน หรือในกรณีอุบัติภัยต่างๆ โดยไม่ต้องมีการใช้ขวดบรรจุหรือขนส่ง ทำให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำดื่มจากน้ำแล้ง หรือน้ำประปาเค็มที่เกิดขึ้นบ่อยๆ
นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ปรับปรุงกระบวนการผลิต โดยเฉพาะด้านการเกษตรและนวัตกรรมอื่นๆในกระบวนการ ผลิต ตั้งแต่การเพาะปลูกจนถึงการใช้ประโยชน์จาก waste หรือ by product ของกระบวนการผลิตมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่สร้างมูลค่า
โดยคาดหวังยุทธศาสตร์การดำเนินงานใหม่นี้ จะช่วยพลิกฟื้นธุรกิจให้มีรายได้และผลกำไรเติบโตได้เร็วและยั่งยืน
นายยงสิทธิ์ กล่าวย้ำว่า “การปรับทิศทางธุรกิจ Tipco NEXT ครั้งนี้ อยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์หลักสำคัญ 3 ประการคือ Innovation, Digital, Trust คือการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมใหม่และหลากหลายอย่างต่อเนื่อง ผสมผสานกับเปลี่ยนแปลงองค์กรและธุรกิจในทิศทางดิจิตัลอย่างเต็มที่ โดยยึดถือและสร้างความยอมรับในตลาดในมาตรฐานคุณภาพแบบทิปโก้ ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคมาตลอด 45 ปีที่ผ่านมา”