วันที่ 20 มี.ค.64ที่ สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา (เกาะห้วยน้ำคำ) อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในกิจกรรม Kick off อสม.พร้อมบอกต่อ วัคซีนโควิด 19 เนื่องในวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ ประจำปี 2564โดยมี ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมงาน
นายอนุทิน กล่าวว่า “คนไทยทุกครอบครัวมีหมอประจำตัว 3 คน” ประสานการทำงานดูแลประชาชนที่บ้านและชุมชนแบบ “ใกล้ตัว ใกล้บ้าน ใกล้ใจ” โดยหมอคนที่ 1 หมอประจำบ้าน คือ อสม.นั่นเอง เป็นหมอใกล้ตัว แนะนำดูแลผู้ป่วยถึงบ้านและดูแลสุขภาพของคนในชุมชน หมอคนที่ 2 คือหมอสาธารณสุข คือ บุคลากรในสถานบริการปฐมภูมิในชุมชน ให้การรักษาและส่งต่อ รวมถึงดูแลสุขภาพให้คำแนะนำประชาชนในทุกมิติ และหมอคนที่ 3 หมอครอบครัว คือ แพทย์ในโรงพยาบาล รับการส่งต่อ 1 คนดูแลประชาชน 8,000 – 12,000 คน
การจัดกิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อพัฒนาศักยภาพและเตรียมความพร้อมให้แก่หมอประจำบ้าน คืออาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.)ให้สามารถอธิบายให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน ในการรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งวัคซีนที่จะฉีดให้กับคนไทยเป็นวัคซีนที่ผลิตในประเทศไทย โดยได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากประเทศอังกฤษ สำหรับวัคซีน 1 ขวด พยาบาลในประเทศไทยสามารถที่จะดูดวัคซีนออกมาใช้งานได้ถึง 12 เข็ม ในขณะที่ในหลายๆ ประเทศสามารถดูดได้เพียง 10 เข็ม ทำให้ลดงบประมาณไปได้ถึง 2 พันล้านบาท และที่สำคัญสามารถครอบคลุมจำนวนประชาชนที่เข้ารับการฉีดวัคซีนได้มากขึ้นอีกด้วย การฉีดวัคซีนโควิด-19 นี้ 1 คน จะได้รับฉีด 2 เข็ม ในช่วง 3-4 สัปดาห์ เพื่อให้เกิดการกระตุ้นภูมิคุ้มกันอย่างเหมาะ ภายในงานมีการจัดกิจกรรมให้ความรู้ และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลงานเด่นในการดำเนินงานของ อสม. ตลอดจนการขับเคลื่อนนโยบายการปลูกกัญชา 6 ต้นต่อ 1 ครัวเรือน โดยต้องมีการรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน และทำสัญญากับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือหน่วยงานรัฐ ป้องกันการนำเอาไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง
นอกจากการจัดกิจกรรมให้ความรู้ต่างๆแล้ว รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยังได้มอบรางวัลอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรือ อสม.ดีเด่น ของเขตสุขภาพที่ 10 และมอบป้ายประกาศเจตนารมณ์ อสม.พร้อมบอกต่อ วัคซีนโควิด 19 ให้กับตัวแทนเจ้าหน้าที่ อสม.เขต 10 สำหรับการประชุมดังกล่าวมีอาสาสมัครสาธารณสุขเข้าร่วมกว่า 1200 คน