มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ ร่วมกับคณะนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์ สำหรับผู้บริหารระดับสูง (ปธพ.) รุ่นที่ 9 และแพทยสภา สถาบันพระปกเกล้า กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร จัดโครงการแพทย์อาสาถวายการตรวจสุขภาพพระภิกษุสงฆ์และฆราวาส ของวัดในเขตบางกอกใหญ่ และเขตธนบุรี รวมจำนวน 14 วัด ณ อาคารปริยัตินุสรณ์ วัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหาร เพื่อถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อมฺพโร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทั้งนี้เป็นโครงการที่ 17 ที่มีการออกหน่วยการตรวจรักษาพระภิกษุสงฆ์ โดยได้แพทย์ พยาบาลอาสา และบุคลากรอาสา จากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมกันจัดคลินิกเฉพาะทาง ตรวจเลือด เอกซเรย์ทรวงอก ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ คลินิกตา คลินิกหู คอ จมูก คลินิกกระดูกและข้อ และการจัดสอนการกู้ชีพพื้นฐาน (Basic CPR) เพื่อบริการให้แก่ภิกษุสงฆ์ สามเณร บุคลากรของวัด รวมทั้งสิ้น 642 คน ตลอดจนการเสนอแนวทางในการเฝ้าระวังการป้องกันการเจ็บป่วย ซึ่งมีหลากหลายปัจจัยที่เป็นต้นเหตุในการก่อให้เกิดโรคต่างๆ พร้อมทั้ง ได้ถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระภิกษุสงฆ์ และถวายเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติไว้ประจำวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร จำนวน 1 เครื่อง เพื่อทางวัดได้ใช้ประโยชน์ต่อไป
ทั้งนี้ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย ประธานจัดงาน และประธานมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ ผู้ก่อตั้งโครงการดังกล่าว กล่าวว่า โครงการนี้เกิดขึ้นจากการตรวจสุขภาพพระภิกษุสงฆ์วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2561 และพบว่ามีพระบางรูปมีอาการเจ็บป่วยโดยไม่ทราบมาก่อน จึงนำเรียนสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งท่านอนุโมทนาให้ทำการตรวจรักษาต่อเนื่อง โดยทางมูลนิธิฯ ได้จัดโครงการต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน เป็นโครงการที่ 17 ดูแลพระภิกษุสงฆ์ไปมากกว่า 5,000 รูป ในปีนี้ นักศึกษา ปธพ.รุ่นที่ 7 มีจิตกุศลขอจัดโครงการร่วมกับวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร เพื่อตรวจสุขภาพและถวายความรู้แก่พระภิกษุสงฆ์โดยการรวมใจของแพทย์เฉพาะทางจำนวนมากในหลักสูตร รุ่น 1-9 ซึ่งเป็นกิจกรรมประจำปี 2564 ของมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการตรวจสุขภาพพระภิกษุในโครงการนี้ จากหลายๆ วัดที่ผ่านมา พบว่ามีพระคุณเจ้าป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคเกี่ยวกับดวงตาใน 3 อันดับแรก สะท้อนให้เห็นว่าโครงการนี้มีประโยชน์มากๆ ที่ได้พา “หมอมาหา” จัดโครงการแพทย์อาสาถวายการตรวจสุขภาพพระภิกษุในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างโอกาสถวายการมีคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพระคุณเจ้า เพราะเมื่อป่วยไข้ ยิ่งได้รับการรักษาเร็ว ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการกลับไปมีคุณภาพชีวิตที่ดีเร็วขึ้นเท่านั้น โดยกระทรวงสาธารณสุขเองได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แม้จะมีนโยบายที่จะส่งเสริมให้ประชาชนทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกันในการเข้าถึงหมอได้อย่างรวดเร็วและใกล้ชิดขึ้น แต่กลุ่มคนที่ดูเหมือนใกล้หมอแต่แท้จริงแล้วกลับไกลหมออย่างคาดไม่ถึงคือกลุ่มพระภิกษุ
ขณะที่ พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อว่า ในกรุงเทพมหานคร มีวัดจำนวน 456 วัด และพระภิกษุสงฆ์มากกว่า 16,007 รูป ซึ่งกรุงเทพมหานคร มีนโยบายในการดูแลสุขภาพพระภิกษุสงฆ์ทั่วกรุงเทพมหานครอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีโครงการแพทย์อาสาถวายสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มาร่วมเติมเต็มระบบสุขภาพของพระภิกษุสงฆ์ ซึ่งแพทย์ พยาบาล และจิตอาสา ของมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ และ ปธพ.รุ่นที่ 7 ในครั้งนี้มีการตรวจสุขภาพพระภิกษุสงฆ์ 642 รูป จำนวน 14 วัด ในเขตบางกอกใหญ่ และเขตธนบุรี ซึ่งทางกรุงเทพมหานคร ได้สนับสนุนอย่างเต็มที่
ส่วน พล.ต.ท.นพ.วิฑูรย์ นิติวรางกูร ประธานนักศึกษา ปธพ.รุ่นที่ 9 ได้กล่าวว่าโครงการนี้เป็นโครงการร่วมใจของนักศึกษา ปธพ. รุ่นที่ 9 ที่มาจาก 6 เสาหลักของการแพทย์ไทย ซึ่งเปิดการศึกษาตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2563 โดยมีจิตอาสาในการจัดโครงการแพทย์อาสาถวายการตรวจสุขภาพพระภิกษุสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อมฺพโร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งดูแลพระภิกษุสงฆ์จำนวน 14 วัด ได้แก่ 1.วัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหาร 2.วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร 3.วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร 4.วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร 5.วัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร 6.วัดนาคกลางวรวิหาร 7.วัดดุสิตารามวรวิหาร 8.วัดอมรินทรารามวรวิหาร 9.วัดชิโนรสารามวรวิหาร 10.วัดฉิมทายกาวาส 11.วัดประดู่ฉิมพลี 12.วัดท่าพระ 13.วัดใหม่พิเรนทร์ 14.วัดมะลิ
พร้อมกันนี้นักศึกษาในหลักสูตรร่วมใจกันออกหน่วยคลินิกเฉพาะทาง ตรวจเลือด เอกซเรย์ทรวงอก ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ คลินิกตา คลินิกหู คอ จมูก คลินิกกระดูกและข้อ และการจัดสอนการกู้ชีพพื้นฐาน (Basic CPR) เพื่อบริการให้แก่ภิกษุสงฆ์ สามเณร บุคลากรของวัด ตลอดจนมอบอุปกรณ์การศึกษาและเครื่องกีฬาให้กับนักเรียนโรงเรียนวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร และมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์แต่มีคุณธรรมและความประพฤติดี โดยมีโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ บริษัทมหาชน และหน่วยงานเอกชนทุกแห่ง ที่สนับสนุนโครงการดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม พลอากาศตรี นายแพทย์อิทธพร คณะเจริญ ผู้อำนวยการหลักสูตร ปธพ. กล่าวว่า หลักสูตรนี้ได้เปิดตั้งแต่ ปี 2555 มีนักศึกษาที่จบการศึกษาไปแล้ว 8 รุ่น ปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 9 ทุกรุ่นจะมีกิจกรรมเพื่อสังคม โดยกำหนดให้มีอย่างน้อย 3 โครงการ คือ โครงการแพทย์อาสาถวายการตรวจสุขภาพพระภิกษุสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อมฺพโร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โครงการแพทย์อาสา ปธพ.สัญจร ที่จังหวัดนครปฐม และโครงการหน่วยแพทย์อาสาร่วมใจเฉลิมพระเกียรติฯ ครั้งที่ 9 จังหวัดราชบุรี ในเดือน พฤษภาคม-ตุลาคม 2564 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ แพทยสภา สถาบันพระปกเกล้า และนักศึกษา ปธพ.รุ่น 1-9 โดยโครงการนี้ตั้งขึ้นด้วยการยึดถือพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงประทานให้แพทย์ผู้ถวายการรักษา ว่า อ่อนน้อม ถ่อมตน ทุกคนมีดี อย่าดูถูกใคร นำผู้บริหารทางการแพทย์ เรียนรู้ร่วมกันกับผู้บริหารภาครัฐและภาคเอกชน ในการแก้ปัญหาของวงการแพทย์ไทย และออกหน่วยแพทย์อาสาเพื่อเห็นปัญหาจริงของวงการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาแบบบูรณาการไปแล้วจำนวนมาก