วันนี้ (13 มี.ค.) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ขอเตือนสติทุกท่านที่ออกมา ปลุกระดมให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะการแก้รัฐธรรมนูญนั้นต้องทำฉันทามติถามประชาชนทุกคนก่อน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ ไอลอว์ กำลังทำอยู่ หรือแม้แต่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ที่ออกมาโจมตีให้ร้ายว่ารัฐธรรมนูญ ปี60 เป็นรัฐธรรมนูญที่ปราศจากข้อจำกัดใดๆ และเรียกร้องให้ทำลายรัฐธรรมนูญ ปี60 ซึ่ง ตนอยากชี้แจงว่ารัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว เป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง ดังนั้นจะมีคนดิ้นร้นอยากแก้โดยเฉพาะนักการเมืองบางกลุ่มจะเกลียดมากเพราะเป็นฉบับเดียว ที่ระบุว่าถ้าหากมีนักการเมืองคนใดมีคำพิพากษาให้จำคุก หรือต้องโทษจำคุกนั้นจะทำให้อดเป็นนักการเมืองบริหารประเทศทันที ดังนั้นคนกลุ่มนี้จึงต้องการแก้รัฐธรรมนูญ ตนจึงขอเตือนไปยังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิก ให้น้อมรับปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ นายสามารถ เผยอีกว่า ส่วนที่จะมีการลงมติในวาระที่ 3 ในระหว่างวันที่ 17-18 มี.ค.64 นั้นเนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเป็นเด็ดขาดโดยมีมติเสียง 8 ต่อ 1 ว่า รัฐสภามีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่ต้องมีการทำประชามติ 2 ครั้ง คือ ต้องให้ประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญได้ลงประชามติเสียก่อนว่าประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และเมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ต้องให้ประชาชนลงประชามติเห็นชอบหรือไม่กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกครั้งหนึ่ง  “ดังนั้นในช่วงวันที่ 17-18 มี.ค.นี้ การลงมติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิกนั้น ผมคิดว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษาที่อ่านแล้วเข้าใจง่ายไม่ต้องตีความเลยว่าการจะแก้รัฐธรรมนูญนั้น มีอำนาจแก้ไขได้ แต่ต้องทำประชามติถามประชาชนเสียก่อน ดังนั้น สิ่งที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นร่างรัฐธรรมนูญของรัฐบาลหรือร่างฝ่ายค้านหรือร่างของไอลอว์ก็ดี ไม่ได้มีการทำประชามติถามคนไทยทั้งประเทศเลยว่า จะให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี60 หรือไม่ จึงถือว่า เป็นการขัดคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ผมคิดว่าทางออกที่ดีที่สุด คือ ให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิก งดออกเสียงกับร่างในวาระ 3ดังกล่าว” นายสามารถ เผยต่อว่า ฝากเตือน นายปิยบุตร ให้เคารพ คำพิพากษาของศาลบ้าง และควรใช้ความรู้ ทำเพื่อประโยชน์ของประเทศ อย่าใช้ความรู้ที่มีมาบ่อนทำลายประเทศชาติให้แตกแยก รวมทั้งนักการเมืองพรรคก้าวไกลที่ดื้อด้านจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วฟังเสียงชักใยของนายปิยบุตร ซึ่งตนเป็นห่วงว่าในสมัยหน้าจะไม่มีพรรคก้าวไกลเพราะประชาชนไม่เลือก หรือไม่ก็อาจทำผิดกฏหมายและอาจจะทำให้ถูกยุบพรรคได้ เพราะดูจากการเลือกตั้งซ่อมทุกครั้งที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าประชาชนไม่เคย เลือกพรรคการเมืองใดที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเลย เนื่องจากประชาชนเองนั้นต้องการพรรคการเมืองที่ทำเพื่อประชาชน ต้องการรัฐบาลที่เข้ามาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน หรือตัวแทนประชาชนที่สามารถเป็นที่พึ่งได้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ได้ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนมาโดยตลอด ทั้งนี้ ใครที่อ้างว่าจะมีม็อบเพราะต้องการแก้รัฐธรรมนูญนั้นตนคิดว่าไม่จริง ซึ่งดูจากการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศนั้นต้องการ รัฐบาลที่ทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง