วันที่ 10 มีนาคม 64 ที่ ต.พุแค จ.สระบุรี นางพรทิพย์ อารีรักษ์ เจ้าของโรงงานพรทิพย์ อุตสาหกรรม แต่งแร่ เลขที่ 101/1 ม.6 ต.พุแค อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ผู้ผลิตจำหย่ายแคลมเซี่ยม หินแป้ง ประธาน (มูลนิธิพงษ์ศักดิ์ พรทิพย์ อารีรักษ์) กล่าวเปิดเผยว่าตนและชาวจังหวัดสระบุรี ได้เชิญคณะศิษย์
พร้อมอัญเชิญเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว,หลวงปู่ไต้ฮงโจวซือกง,ฮกเต็กแปะกง, ฮกเต็กแปะกง นาจาไทจื้อ,ปู่เจ้าเขาเขียว,เจ้าพ่อกวนอู,พระโพธิสัตว์กวนอิม,เทพเจ้าไฉ่ซิ่งเอี้ย,ไท้ส่วยเอี้ย มาทับประทับที่ที่โรงงานพรทิพย์ อุตสาหกรรม 101/1 ม.6 ต.พุแค อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี
เพื่อให้ลูกหลานชาวไทยเชื้อสายจีนได้กราบสักการะบูชา โดยตั้งแต่เริ่ม วันที่ 10 มีนาคม จนถึง วันที 13 มีนาคม 64 โดยมีนายสมภพ สมิตะสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีร่วมเป็นประธาน
นางพรทิพย์ กล่าวว่าตนจัดทำพิธีอัญเชิญเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวหาดใหญ่ ซึ่งจัดมาแล้ว 44 ปี ในทุกๆเดือนมีนาคม เพื่อให้ประชาชนมากราบไหว้สักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล แก่พี่น้องประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนดังกล่าว
สำหรับตามประวัติเล่ากันขานกันมาว่า เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว (หรือสำเนียงแต้จิ๋วว่า ลิ้มโกวเนี้ย) ทางไต้หวันกล่าวว่าเจ้าแม่มีชื่อจริงว่า “ จินเหลียน “ (หรือ “ กิมเน้ย” ในสำเนียงแต้จิ๋ว ) เป็นชาวฮกเกี้ยน มีพี่ชายชื่อ เต้าเคียน หรือ โต๊ะเคี่ยม แต่บางตำนานก็ว่าเป็นชาวเมืองฮุยไล้ แขวงแต้จิ๋ว สมัยพระเจ้าซื่อจงฮ่องเต้ ในราชวงค์เหม็งประมาณปี พ.ศ.2065 – 2109 ลิ้มโต๊ะเคี่ยม เคยรับราชการ ได้ออกผจญภัยในที่ต่างๆ สร้างวีรกรรมไว้ร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ
เมื่อเดินทางมาถึงปัตตานี (สมัยนั้นเรียกว่าเมืองตานี ) ได้นำเครื่องบรรณาการมาถวายเจ้าเมือง และพบรักกับธิดาพระยาตานี ต่อมาลิ้มโต๊ะเคี่ยมเข้ารีตนับถืออิสลาม แต่งงานกับธิดาเจ้าเมืองตานี ลิ้มโต๊ะเคี่ยมเป็นผู้ที่มีฝีมือในด้านการหล่อโลหะ และ การก่อสร้าง พระยาตานีจึงให้สร้างมัสยิดประจำเมืองให้ยิ่งใหญ่สวยงามที่สุด และสร้างปืนใหญ่ในเวลาต่อมา ( ชื่อ “โต๊ะเคี่ยม” บ้างก็ว่าเดิมชื่อ “เคี่ยม” เมื่อเข้ารีตเป็นอิสลามชาวบ้านจึงเรียกว่า “ โต๊ะเคี่ยม “ แปลว่าครูเคี่ยม เพราะเป็นช่างฝีมือดี )
ระหว่างที่มีการก่อสร้างมัสยิดกรือแซะนั่น มีหมู่เรือสำเภามาจอดที่เมืองปัตตานีในครั้งนี้ มีผู้หญิงคุมกองเรือมานั่นก็คือ ลิ้มกอเหนี่ยว น้องสาวของบุตรเขยเจ้ามืองตานี ซึ่งมาตามพี่ชายให้กลับบ้านไปหามารดาที่ชรามากแล้ว แต่ลิ้มโต๊ะเคี่ยมก็ไม่ยอมกลับ บอกว่ามัสยิดใกล้เสร็จ หากภารกิจเสร็จก็จะพาภรรยาไปเยี่ยมมารดาพร้อมกันอ้อนวอนพี่ชายอยู่หลายตลบจนแน่ใจว่าพี่ชายไม่ยอมละความตั้งใจแล้ว ด้วยความเด็ดเดี่ยวลิ้มกอเหนี่ยวจึงออกจากที่พักเดินทางมาถึงบริเวณที่ก่อสร้างมัสยิดกรือแซะและผูกคอตายที่กิ่งมะม่วงหิมพานต์ต้นใหญ่ และทิ้งจดหมายให้พี่ชายไว้ดูต่างหน้า
ลิ้มโค๊ะเคี่ยมได้จัดการศพน้องสาวโดยฝังไว้ในฮวงซุ้ยที่สร้างขึ้นที่ใกล้ ๆ มัสยิดกรือแซะที่เขากำลังสร้างอยู่นั้นเองแต่ยังไม่สำเร็จ จะด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบได้ ลิ้มโต๊ะเคี่ยมได้เดินทางไปที่กองหล่อปืนใหญ่ที่อยู่ใกล้กันและเขาเป็นแม่กองหล่อปืนอยู่ด้วย ไปยืนปลงอยู่หน้ากระบอกปืนใหญ่ที่สร้างขึ้น และจุดชนวน ลิ้มโต๊ะเคี่ยมจบชีวิตตรงนั้น ในกระบอกที่ยังเหลืออยู่ก็คือปืนใหญ่นางพญาตานี เป็นปืนใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ปัจจุบันอยู่หน้ากระทรวงกลาโหม
เพื่อให้ลูกหลานชาวไทยเชื้อสายจีนได้กราบสักการะบูชา โดยตั้งแต่เริ่ม วันที่ 10 มีนาคม จนถึง วันที 13 มีนาคม 64 โดยมีนายสมภพ สมิตะสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีร่วมเป็นประธาน
นางพรทิพย์ กล่าวว่าตนจัดทำพิธีอัญเชิญเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวหาดใหญ่ ซึ่งจัดมาแล้ว 44 ปี ในทุกๆเดือนมีนาคม เพื่อให้ประชาชนมากราบไหว้สักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล แก่พี่น้องประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนดังกล่าว
สำหรับตามประวัติเล่ากันขานกันมาว่า เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว (หรือสำเนียงแต้จิ๋วว่า ลิ้มโกวเนี้ย) ทางไต้หวันกล่าวว่าเจ้าแม่มีชื่อจริงว่า “ จินเหลียน “ (หรือ “ กิมเน้ย” ในสำเนียงแต้จิ๋ว ) เป็นชาวฮกเกี้ยน มีพี่ชายชื่อ เต้าเคียน หรือ โต๊ะเคี่ยม แต่บางตำนานก็ว่าเป็นชาวเมืองฮุยไล้ แขวงแต้จิ๋ว สมัยพระเจ้าซื่อจงฮ่องเต้ ในราชวงค์เหม็งประมาณปี พ.ศ.2065 – 2109 ลิ้มโต๊ะเคี่ยม เคยรับราชการ ได้ออกผจญภัยในที่ต่างๆ สร้างวีรกรรมไว้ร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ
เมื่อเดินทางมาถึงปัตตานี (สมัยนั้นเรียกว่าเมืองตานี ) ได้นำเครื่องบรรณาการมาถวายเจ้าเมือง และพบรักกับธิดาพระยาตานี ต่อมาลิ้มโต๊ะเคี่ยมเข้ารีตนับถืออิสลาม แต่งงานกับธิดาเจ้าเมืองตานี ลิ้มโต๊ะเคี่ยมเป็นผู้ที่มีฝีมือในด้านการหล่อโลหะ และ การก่อสร้าง พระยาตานีจึงให้สร้างมัสยิดประจำเมืองให้ยิ่งใหญ่สวยงามที่สุด และสร้างปืนใหญ่ในเวลาต่อมา ( ชื่อ “โต๊ะเคี่ยม” บ้างก็ว่าเดิมชื่อ “เคี่ยม” เมื่อเข้ารีตเป็นอิสลามชาวบ้านจึงเรียกว่า “ โต๊ะเคี่ยม “ แปลว่าครูเคี่ยม เพราะเป็นช่างฝีมือดี )
ระหว่างที่มีการก่อสร้างมัสยิดกรือแซะนั่น มีหมู่เรือสำเภามาจอดที่เมืองปัตตานีในครั้งนี้ มีผู้หญิงคุมกองเรือมานั่นก็คือ ลิ้มกอเหนี่ยว น้องสาวของบุตรเขยเจ้ามืองตานี ซึ่งมาตามพี่ชายให้กลับบ้านไปหามารดาที่ชรามากแล้ว แต่ลิ้มโต๊ะเคี่ยมก็ไม่ยอมกลับ บอกว่ามัสยิดใกล้เสร็จ หากภารกิจเสร็จก็จะพาภรรยาไปเยี่ยมมารดาพร้อมกันอ้อนวอนพี่ชายอยู่หลายตลบจนแน่ใจว่าพี่ชายไม่ยอมละความตั้งใจแล้ว ด้วยความเด็ดเดี่ยวลิ้มกอเหนี่ยวจึงออกจากที่พักเดินทางมาถึงบริเวณที่ก่อสร้างมัสยิดกรือแซะและผูกคอตายที่กิ่งมะม่วงหิมพานต์ต้นใหญ่ และทิ้งจดหมายให้พี่ชายไว้ดูต่างหน้า
ลิ้มโค๊ะเคี่ยมได้จัดการศพน้องสาวโดยฝังไว้ในฮวงซุ้ยที่สร้างขึ้นที่ใกล้ ๆ มัสยิดกรือแซะที่เขากำลังสร้างอยู่นั้นเองแต่ยังไม่สำเร็จ จะด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบได้ ลิ้มโต๊ะเคี่ยมได้เดินทางไปที่กองหล่อปืนใหญ่ที่อยู่ใกล้กันและเขาเป็นแม่กองหล่อปืนอยู่ด้วย ไปยืนปลงอยู่หน้ากระบอกปืนใหญ่ที่สร้างขึ้น และจุดชนวน ลิ้มโต๊ะเคี่ยมจบชีวิตตรงนั้น ในกระบอกที่ยังเหลืออยู่ก็คือปืนใหญ่นางพญาตานี เป็นปืนใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ปัจจุบันอยู่หน้ากระทรวงกลาโหม