4 มีนาคม 2564 12:16 น. สยามรัฐออนไลน์ ประชาสัมพันธ์
ทายาทเจ้าของบริษัทนำเข้ารายใหญ่ “ณรัฐ หาญคำภา” กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็นอาร์พีแอล เอเชีย จำกัด ที่อำลาธุรกิจระบบกงสีหันมาเอาดีกับธุรกิจ SME ของตนเอง ด้วยการผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางสกินแคร์ ผลิตภัณฑ์กำจัดสิวเสี้ยนที่หลากหลาย ภายใต้ยี่ห้อ “เคลียร์โนส” เริ่มจากนำเข้าผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจากต่างประเทศมาจำหน่าย ก่อนขยายไลน์มาผลิตในประเทศ หวังทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง ส่งผลต่อราคาให้กลุ่มเป้าหมายสามารถจับต้องได้ แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพสินค้าเหมือนเดิม ทำให้เติบโต กลายเป็นสินค้าขายดีในร้านเซเว่น “ผมจบมาทางไฟแนนซ์ เมื่อก่อนทำธุรกิจอยู่กับครอบครัวนำเข้าของจากต่างประเทศ เราครอบครัวคนจีนเป็นครอบครัวใหญ่มีเครือญาติเยอะ ทำธุรกิจใช้ระบบกงสี ก็เลยอยากออกมาทำธุรกิจที่เป็นของตัวเอง อยากสู้ด้วยลำแข้งตัวเองมากกว่า” ณรัฐ เผย จากนั้นเขาก็หันมาจับธุรกิจเครื่องสำอางสกินแคร์กำจัดสิวเสี้ยนบนใบหน้า เพราะเมื่อ 10 ปีที่แล้วสินค้าประเภทนี้ยังมีน้อยในท้องตลาดเมืองไทย ขณะที่ในต่างประเทศเป็นธุรกิจที่เฟื่องฟูมาก หลังมีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ๆ จึงมองเห็นโอกาส โดยมองว่าหากนำสินค้าประเภทนี้มาจำหน่ายที่เมืองไทยน่าจะไปได้สวย “เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เวลาผมไปต่างประเทศก็จะเห็นสินค้าพวกนี้เยอะมาก ก็รู้สึกว่าในเมืองไทยไม่ค่อยมี ถ้าลูกค้าได้ลองเล่นลองใช้น่าจะชอบ พอลองทำดู ผลสุดท้ายได้รับการตอบรับดีมาก ตัวแรกที่ทำตลาดเป็นผลิตภัณฑ์สิวเสี้ยนที่จมูก ตอนนี้มีสินค้าอยู่ในตลาดประมาณ 20 รายการ” หลังจากนำสินค้าจากต่างประเทศมาทำตลาดที่เมืองไทยผ่านคอนวีเนียน สโตว์ ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ความสวยความงาม ซึ่งตลาดค่อนข้างไปได้ดี แม้จะเป็นผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่ ราคาค่อนข้างสูงชิ้นละไม่ต่ำกว่า 800 บาท ณรัฐยอมรับว่า ช่วงแรกได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมาก สั่งมาเท่าไหร่ก็ขายหมด ต่อมายอดขายก็เริ่มลดลง อาจเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจเริ่มถดถอย กำลังซื้อไม่ค่อยมี โดยเฉพาะสินค้าฟุ่มเฟือยอย่างเครื่องสำอาง อาจไม่ตอบโจทย์กลุ่มคนรายได้น้อยและกลุ่มคนไม่มีรายได้ประจำ อย่างเช่น กลุ่มวัยรุ่น นักเรียนนักศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก “โจทย์ของเราคือกลุ่มเป้าหมายพวกวัยรุ่น นักเรียนนักศึกษาที่มีปัญหาสิวเสี้ยนบนใบหน้าและความสวยความงาม แต่คนกลุ่มนี้ยังไม่มีรายได้ เมื่อราคาขายยังสูง จะทำอย่างไรให้สินค้าของเราตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ได้ จึงมองไปที่ร้านสะดวกซื้อคือ เซเว่น อีเลฟเว่น” บอสใหญ่เอ็นอาร์พีแอล เอเชียให้มุมมอง ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจยุติการนำเข้าสินค้าสำเร็จรูปมาจำหน่าย 100% แล้วหันมาสร้างโรงงานผลิตในประเทศแทน โดยสั่งนำเข้าแค่วัตถุดิบในการผลิตเท่านั้น หวังจะทำให้ต้นทุนการผลิตลดลงเพื่อจะได้จำหน่ายในราคาที่ถูกลง แต่คุณภาพสินค้ายังคงเดิม เมื่อเป็นไปตามแผน ในที่สุดจึงมาหยุดอยู่ที่เรื่องการตลาด เพราะการหาตลาดมารองรับสินค้าในปริมาณที่มากไม่ใช่เรื่องง่ายนัก “ผมเพิ่งนำผลิตภัณฑ์เข้าร้านเซเว่นฯ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยผ่านช่องทางทเวนตี้โฟว์ ช้อปปิ้ง และได้รับการตอบรับค่อนข้างดี” ณรัฐเผยวิธีทำตลาดสินค้าหวังเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้น้อย โดยไม่หวังกำไรต่อชิ้นมากนัก แต่เน้นหนักการกระจายสินค้าสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ทั่วถึงมากกว่า จากราคาหลักร้อยมาอยู่ที่หลักสิบ โดยผลิตภัณฑ์ขายดีมีหลายตัว แต่ที่ได้รับสนใจจากลูกค้ามากที่สุดจะเป็นตัวใหม่เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน คือโฟมล้างหน้าแก้สิวฝ้า แก้หน้ามันและสิวเสี้ยน รองพื้นเกี่ยวกับสิว โดยราคาอยู่ที่ชิ้นละ 49 บาท “เรายอมที่จะมีกำไรน้อยหน่อยชิ้นละไม่กี่บาท แต่ก็ทำให้สินค้ากระจายไปทั่ว ถ้าเรายังขายแพงทุกคนก็คงซื้อไม่ไหว ถ้าลูกค้าลองใช้ขนาดเล็กแล้วติดใจก็จะไปซื้อหาสินค้าขนาดใหญ่ต่อไป นี่คือสิ่งที่เราคาดหวัง” ณรัฐเผยแผนการตลาดผลิตภัณฑ์ เขายอมรับว่ากว่าจะถึงวันนี้ทางทเวนตี้โฟว์ ช้อปปิ้งได้ช่วยเยอะมาก มีทีมงานคอยให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการ SME ทั้งการให้คำแนะนำในเรื่องต่าง ๆ ประกอบกับการขายสินค้าให้ทั่วถึงลูกค้าทุกจังหวัด สอนการคาดการณ์สินค้า การเตรียมสินค้าให้เพียงพอไม่มากไม่น้อยเกินไป ซึ่งจะต้องมีการประเมินสินค้าวันต่อวัน ส่วนปัญหานั้นไม่มี แต่สิ่งที่เจอก็คือปัญหาโควิด-19 ในปีที่ผ่านมาทำให้การทำงานยากขึ้น มีการล็อคดาวและกระบวนการทำงานที่ค่อนข้างที่จะต้องใส่ใจในเรื่องสุขภาพอนามัยมากขึ้น ซึ่งก็เหมือนกันในทุกธุรกิจ “สิ่งสำคัญที่สุดเราได้ช่วยคนในชุมชน มีการจ้างงานจากคนในชุมชน 100% ยิ่งช่วงโควิดมีผลต่อเศรษฐกิจมาก ๆ อยากให้ทุกคนเดินทางน้อยลงให้ทุกคนอยู่กับครอบครัวมากขึ้น แล้วก็ไม่มีการเอาคนออกเลย” ณรัฐย้ำ ณรัฐมองว่าการระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 มีผลกระทบต่อธุรกิจอย่างมาก ไม่เฉพาะธุรกิจเครื่องสำอางเท่านั้นที่การทำงานยากขึ้น จากเมื่อก่อนการติดต่อธุรกิจจะพบปะเจอหน้ากันโดยตรงก็หันมาใช้วิธีพูดคุยทางโทรศัพท์และวิดีโอคอลมากขึ้น และใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ที่โรงงานจะมีการทำความสะอาดทุกสองชั่วโมง “ยุคโควิดทุกอย่างมันยากไปหมด แม่ผมมองว่ามันเป็นโอกาสของการปรับตัวเข้าสู่ยุคใหม่ ถ้าไม่มีวันนี้เราคงไม่ได้ปรับตัว โดยธุรกิจของผมเป็นธุรกิจร่วมกับเซเว่น และทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จึงไม่มีปัญหาด้านการตลาด ขายได้ตลอด แม้กระทั่งช่องทางออนไลน์ ของเราก็ขายผ่านเซเว่น แอพพลิเคชั่นเหมือนกัน” ผู้ประกอบการ SME คนเดิมระบุ สิ่งสำคัญที่สุดในการทำธุรกิจ คือ ตัวสินค้าไม่ว่าโฆษณาไปมากเท่าไหร่ หากลูกค้าไม่ตอบสนองหรือซื้อแค่ครั้งเดียวไม่กลับมาอีก ธุรกิจก็อาจไปต่อลำบาก” ณรัฐย้ำทิ้งท้าย นับเป็นอีกหนึ่ง SME ที่ประสบความสำเร็จจากการได้รับแรงสนับสนุนผ่านช่องทางจำหน่ายของซีพี ออลล์ ทั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น และ 24 Shopping