หลายคนอาจจะเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีในการไปติดต่อราชการ ซึ่งเป็นภาพจำที่ติดมาจากอดีต ที่อาจจะเป็นเพราะขั้นตอน ระเบียบ กฏเกณฑ์ต่างๆ ที่ทำให้หลายๆ เรื่องที่น่าจะเสร็จรวดเร็วโดยง่าย กลับทำให้เป็นเรื่องยืดเยื้อยุ่งยากสลับซับซ้อน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้ถูกมองว่าขัดขวางและถ่วงการพัฒนาไปโดยปริยาย
การที่คนในอดีตอยากให้บุตรหลานของตนเข้ารับราชการ เพราะมองว่าจะได้เป็นเจ้าคนนายคน คือสิ่งสะท้อนภาพของข้าราชการในอดีตว่าเป็นเช่นไร ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง งานของราชการคือการที่ต้องให้บริการพี่น้องประชาชน หาใช่เป็นเจ้านายประชาชน ดังนั้นการจะทำให้ระบบราชการปรับเปลี่ยนมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ยิ่งในยุค Disruptive Innovation เช่นปัจจุบัน จึงถือว่าเป็น “ภารกิจที่ท้าทาย” เป็นอย่างมากในการที่จะสร้างข้าราชการรุ่นใหม่ คิดใหม่ มองใหม่ เพื่อปรับโลกทัศน์ใหม่ในการให้บริการกับประชาชน
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ หรือ ก.พ.ร. เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทในเรื่องนี้โดยตรง ได้พยายามทำทุกวิถีทางที่จะสร้างข้าราชการที่มีประสิทธิภาพ ป้อนเข้าสู่ระบบราชการอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จากความพยายามดำเนินโครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ หรือ นปร. ที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2548 โดยได้มอบหมายให้ สถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี สำนักงาน ก.พ.ร. ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัด เป็นผู้ดูแลโครงการ ซึ่งได้มีการปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมให้ทันกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่ตลอดเวลา จนได้สร้างข้าราชการที่มีวิสัยทัศน์และสมรรถนะครบครันในการปฏิบัติงาน เป็นผู้ช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง (Change Agent) เชิงยุทธศาสตร์ของระบบราชการ โดยคำนึงถึงประโยชน์สุขของประชาชน สังคม และประเทศชาติ
โครงการ นปร. นี้ได้ต้นแบบมาจาก สถาบันการปกครองชั้นสูงแห่งประเทศฝรั่งเศส (Ecole Nationale d’Administration: ENA) ซึ่งสำนักงาน ก.พ.ร. ได้ไปศึกษารูปแบบ และนำมาปรับประยุกต์ให้เข้ากับประเทศไทย เริ่มต้นจากการคัดเลือกบุคคลที่ผ่านเกณฑ์เข้าร่วมโครงการฯ โดยหลังจากได้รับการคัดเลือก จะถูกบรรจุให้เป็นข้าราชการในสังกัดของสำนักงาน ก.พ.ร. ในตำแหน่งนักพัฒนาระบบราชการ จากนั้นจะเข้ารับการฝึกอบรมตามหลักสูตรทั้งทางด้านวิชาการ และด้านปฏิบัติ เป็นระยะเวลา 22 เดือน
โดยในส่วนของภาควิชาการนั้น นปร.จะได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้จากวิทยากรชั้นแนวหน้าของประเทศอย่างเต็มที่ ครบทุกด้าน และในส่วนของภาคปฏิบัติ ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้สัมผัสประสบการณ์การทำงานในทุกมิติ ทั้งการฝึกปฏิบัติราชการในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ต่างประเทศ และรวมไปถึงการปฏิบัติงานกับภาคเอกชน
ซึ่งในส่วนกลางที่เป็นผู้กำหนดนโยบาย และวางยุทธศาสตร์ในการบริหารราชการแผ่นดินนั้น ข้าราชการในโครงการ นปร. จะถูกส่งไปประจำตามกรมต่างๆ มีผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐในส่วนกลาง ทั้งปลัดกระทรวง และอธิบดี เป็นผู้ถ่ายทอดประสบการณ์ แนวคิด และมุมมองในการบริหารให้กับ นปร.
ส่วนการฝึกปฏิบัติราชการในส่วนภูมิภาคนั้น พวกเขาก็จะถูกส่งตัวไปฝึกฝนบ่มเพาะประสบการณ์กับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าความหลากหลายของปัญหาท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาค จะทำให้ นปร. เกิดมุมมองในการแก้ไขปัญหาได้ครบทุกมิติ ซึ่งจะทำให้พวกเขาได้มองเห็นแก่นแท้รากเหง้าของปัญหา
นอกจากนั้น นปร.ยังจะได้รับโอกาสในการไปฝึกปฏิบัติราชการในต่างประเทศ ณ สถานเอกอัครราชทูต หรือสถานกงสุลใหญ่ในต่างแดน โดยมีเอกอัครราชทูตไทยหรือกงสุลใหญ่เป็นผู้ฝึกสอนงาน และยังได้มีโอกาสไปปฏิบัติงานกับภาคเอกชน โดยมี CEO ผู้บริหารองค์กรระดับ Top Ranking ของเมืองไทยเป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทประสบการณ์
หลังผ่านการอบรม ข้าราชการรุ่นใหม่เหล่านี้ ก็จะถูกโอนย้ายกระจายไปตามหน่วยงานที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ประจำกระทรวงต่างๆ
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ “สภาพัฒน์” ในฐานะผู้ฝึกสอนงานให้กับข้าราชการรุ่นใหม่ นปร. และในฐานะผู้บังคับบัญชาข้าราชการ นปร.ที่โอนย้ายมาอยู่ในสังกัดสภาพัฒน์ กล่าวถึงข้าราชการในโครงการนี้ว่า
“เราต้องการคนรุ่นใหม่ที่จะมามองภาพการพัฒนา ซึ่งอาจจะมีไอเดียดีๆ เพราะฉะนั้นการที่เราได้น้องๆ นปร.รุ่นใหม่ที่มีความสามารถสูงๆ เข้ามา ก็จะมีส่วนช่วยให้การทำงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติให้สามารถเป็นไปได้รวดเร็วมากขึ้น และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”
ขณะที่ ภาณุเกียรติ์ ไชยอุตร นักพัฒนาระบบราชการ สำนักงาน ก.พ.ร. และเป็น นปร.รุ่นที่ 14 ได้กล่าวถึงความเปลี่ยนแปลงของตัวเองที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการนี้
“สิ่งที่ได้รับความเปลี่ยนแปลงแน่ๆ ในการเข้าร่วมโครงการนี้สำหรับตนเองก็คือความเข้าใจในระบบราชการที่มากขึ้นจริงๆ เมื่อก่อนเราเข้าใจระบบราชการเพียงแค่เศษเสี้ยวหนึ่ง พอเข้าร่วมโครงการได้รับการฝึกอบรม การฝึกสอนโดยอาจารย์ที่ปรึกษาหลายๆ ท่าน และผู้บริหารแต่ละกระทรวงที่ดูแลเรา ให้ความรู้เรา ทำให้เราเข้าใจระบบราชการมากขึ้นในทุกภาคส่วน”
และตอนนี้ นับเป็นโอกาสอันดีสำหรับคนที่สนใจในการรับราชการ เพราะสำนักงาน ก.พ.ร. กำลังเปิดรับสมัครบุคคลทั่วไปและข้าราชการที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด มาคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ นปร. จำนวน 50 อัตรา โดยสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 02 141 9017-18 หรือ โทร 02 356 9999 ต่อ 8928 หรือ www.opdc.go.th และ www.igpthai.org หรือ Facebook Fanpage : นักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ ครั้งนี้เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2564
การขับเคลื่อนพัฒนาระบบราชการ เพื่อปรับเปลี่ยนตามยุคสมัยที่ก้าวล้ำเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถือเป็นภารกิจที่หลายคนอาจจะมองว่าเป็นไปไม่ได้ Mission: Impossible แต่การที่สำนักงาน ก.พ.ร. ไม่อยู่นิ่งเฉยและดำเนินโครงการ นปร.ขึ้นมา จนกระทั่งมีข้าราชการรุ่นใหม่ที่มีสมรรถนะครบครันเข้าไปเติมในระบบราชการคือบทพิสูจน์ว่า “ไม่มีอะไร...เป็นไปไม่ได้ Mission: possible”
โดยในส่วนของภาควิชาการนั้น นปร.จะได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้จากวิทยากรชั้นแนวหน้าของประเทศอย่างเต็มที่ ครบทุกด้าน และในส่วนของภาคปฏิบัติ ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้สัมผัสประสบการณ์การทำงานในทุกมิติ ทั้งการฝึกปฏิบัติราชการในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ต่างประเทศ และรวมไปถึงการปฏิบัติงานกับภาคเอกชน
ซึ่งในส่วนกลางที่เป็นผู้กำหนดนโยบาย และวางยุทธศาสตร์ในการบริหารราชการแผ่นดินนั้น ข้าราชการในโครงการ นปร. จะถูกส่งไปประจำตามกรมต่างๆ มีผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐในส่วนกลาง ทั้งปลัดกระทรวง และอธิบดี เป็นผู้ถ่ายทอดประสบการณ์ แนวคิด และมุมมองในการบริหารให้กับ นปร.
ส่วนการฝึกปฏิบัติราชการในส่วนภูมิภาคนั้น พวกเขาก็จะถูกส่งตัวไปฝึกฝนบ่มเพาะประสบการณ์กับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าความหลากหลายของปัญหาท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาค จะทำให้ นปร. เกิดมุมมองในการแก้ไขปัญหาได้ครบทุกมิติ ซึ่งจะทำให้พวกเขาได้มองเห็นแก่นแท้รากเหง้าของปัญหา
นอกจากนั้น นปร.ยังจะได้รับโอกาสในการไปฝึกปฏิบัติราชการในต่างประเทศ ณ สถานเอกอัครราชทูต หรือสถานกงสุลใหญ่ในต่างแดน โดยมีเอกอัครราชทูตไทยหรือกงสุลใหญ่เป็นผู้ฝึกสอนงาน และยังได้มีโอกาสไปปฏิบัติงานกับภาคเอกชน โดยมี CEO ผู้บริหารองค์กรระดับ Top Ranking ของเมืองไทยเป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทประสบการณ์
หลังผ่านการอบรม ข้าราชการรุ่นใหม่เหล่านี้ ก็จะถูกโอนย้ายกระจายไปตามหน่วยงานที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ประจำกระทรวงต่างๆ
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ “สภาพัฒน์” ในฐานะผู้ฝึกสอนงานให้กับข้าราชการรุ่นใหม่ นปร. และในฐานะผู้บังคับบัญชาข้าราชการ นปร.ที่โอนย้ายมาอยู่ในสังกัดสภาพัฒน์ กล่าวถึงข้าราชการในโครงการนี้ว่า
“เราต้องการคนรุ่นใหม่ที่จะมามองภาพการพัฒนา ซึ่งอาจจะมีไอเดียดีๆ เพราะฉะนั้นการที่เราได้น้องๆ นปร.รุ่นใหม่ที่มีความสามารถสูงๆ เข้ามา ก็จะมีส่วนช่วยให้การทำงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติให้สามารถเป็นไปได้รวดเร็วมากขึ้น และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”
ขณะที่ ภาณุเกียรติ์ ไชยอุตร นักพัฒนาระบบราชการ สำนักงาน ก.พ.ร. และเป็น นปร.รุ่นที่ 14 ได้กล่าวถึงความเปลี่ยนแปลงของตัวเองที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการนี้
“สิ่งที่ได้รับความเปลี่ยนแปลงแน่ๆ ในการเข้าร่วมโครงการนี้สำหรับตนเองก็คือความเข้าใจในระบบราชการที่มากขึ้นจริงๆ เมื่อก่อนเราเข้าใจระบบราชการเพียงแค่เศษเสี้ยวหนึ่ง พอเข้าร่วมโครงการได้รับการฝึกอบรม การฝึกสอนโดยอาจารย์ที่ปรึกษาหลายๆ ท่าน และผู้บริหารแต่ละกระทรวงที่ดูแลเรา ให้ความรู้เรา ทำให้เราเข้าใจระบบราชการมากขึ้นในทุกภาคส่วน”
และตอนนี้ นับเป็นโอกาสอันดีสำหรับคนที่สนใจในการรับราชการ เพราะสำนักงาน ก.พ.ร. กำลังเปิดรับสมัครบุคคลทั่วไปและข้าราชการที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด มาคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ นปร. จำนวน 50 อัตรา โดยสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 02 141 9017-18 หรือ โทร 02 356 9999 ต่อ 8928 หรือ www.opdc.go.th และ www.igpthai.org หรือ Facebook Fanpage : นักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ ครั้งนี้เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2564
การขับเคลื่อนพัฒนาระบบราชการ เพื่อปรับเปลี่ยนตามยุคสมัยที่ก้าวล้ำเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถือเป็นภารกิจที่หลายคนอาจจะมองว่าเป็นไปไม่ได้ Mission: Impossible แต่การที่สำนักงาน ก.พ.ร. ไม่อยู่นิ่งเฉยและดำเนินโครงการ นปร.ขึ้นมา จนกระทั่งมีข้าราชการรุ่นใหม่ที่มีสมรรถนะครบครันเข้าไปเติมในระบบราชการคือบทพิสูจน์ว่า “ไม่มีอะไร...เป็นไปไม่ได้ Mission: possible”