นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ทดลองพัฒนาคอนเซ็ปต์ร้านค้าปลีก ภายใต้แบรนด์ถูกดี มีมาตรฐาน ตั้งแต่ปี 2562 โดยเริ่มต้นสาขาแรกที่จังหวัดนครปฐม ก่อนขยายไปยังขอนแก่น และพิษณุโลก โดยผนึกความร่วมมือกับร้านขายของชำ หรือโชห่วยต่างๆ เข้าไปช่วยพัฒนาร้านค้าให้มีระบบการบริหารจัดการที่ดี หน้าร้านที่สวยงาม ทันสมัย โดยเข้าไปช่วยลงทุนเทคโนโลยีต่างๆ ให้กับเจ้าของร้าน คิดเป็นงบลงทุนกว่า 1 ล้านบาทต่อร้าน ขณะที่เจ้าของร้านจะลงทุนในส่วนอื่นๆ อาทิ ปรับปรุงฝ้าร้าน และงโครงสร้างอื่นๆ ของร้าน ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 แสนบาท   สำหรับโมเดลของร้านถูกดี มีมาตรฐาน ถือเป็นโลว์คอส คอนวีเนียนสโตร์ มีคอนเซ็ปต์การจัดการร้านค้าใกล้เคียงกับร้านโชห่วย แต่เป็นการยกระดับโชห่วยของไทยสู่ร้านสะดวกซื้อที่ทันสมัย โดยเปิดกว้างในการเป็นพันธมิตรร่วมกับร้านโชห่วยทั่วประเทศ จากการเปิดตัวมากกว่า 1 ปี พบว่ามีร้านค้าสนใจติดต่อเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีการปรับร้านโชห่วยของชาวบ้านให้เป็นร้านถูกดี มีมาตรฐาน แล้วกว่า 200 สาขา พร้อมกันนี้ได้ตั้งเป้าภายในปี 2564 จะขยายเป็น 5,000 สาขา และเพิ่มเป็น 10,000 สาขาภายในปี 2565 และ 30,000 สาขาภายใน 5 ปีต่อจากนี้ ทั้งนี้ยุทธศาสตร์หลักจะเป็นการเจาะลึกเข้าไปในระดับหมู่บ้าน และชุมชนเล็กๆ ที่คู่แข่งไม่ไป ซึ่งจากการไปโรดโชว์พบว่าได้รับความสนใจจากร้านค้าต่างๆ จำนวนมาก จึงน่าจะสามารถขยายสาขาได้อย่างรวดเร็วตามที่ตั้งเป้าไว้ เพราะถ้าหากสามารถเปิดร้านถูกดี มีมาตรฐานได้ 3 หมื่นสาขาใน 5 ปี ไม่เพียงส่งผลต่อ 3 หมื่นร้านค้านี้เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อคนเป็นแสนๆ ครอบครัว ที่จะได้รับประโยชน์จากธุรกิจดังกล่าว สร้างรายได้ที่มั่นคงขึ้น โดย นายเสถียร กล่าวต่อว่า สัดส่วนรายได้ของธุรกิจนี้แบ่งออกเป็น สำหรับร้านค้า 85 % บริษัท 15 % เนื่องจากต้องการให้ร้านค้าอยู่ได้เป็นหลัก เพราะจากการเข้าไปพัฒนาร้านโชห่วยต่างๆ พบว่า ทุกร้านมียอดขายเพิ่มขึ้น สามารถดึงดูดลูกค้าเข้าไปใช้บริการในร้านได้มากขึ้น ซึ่งมาจากประสบการณ์ในการบริหารร้านซีเจ ซูเปอร์มาร์เก็ต และความเข้าใจของบริษัทฯ ในการนำหลักการต่างๆ มาบริหารร้านค้าปลีกนั้นเอง รวมทั้งความร่วมมือจากร้านโชห่วยต่างๆ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ทำให้รู้จักกลุ่มลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ ถือเป็นข้อได้เปรียบสำคัญที่ทำให้เข้าใจพฤติกรรมลูกค้า และผู้บริโภค อีกทั้งสิ่งที่ทำให้ร้านถูกดี มีมาตรฐาน มีความแตกต่างจากร้านค้าปลีกอื่นๆ คือ สินค้าที่บริษัทฯ เลือกเข้ามาจัดจำหน่าย ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ยังเน้นนำสินค้าท้องถิ่นชื่อดัง หรือสินค้าที่มีจุดเด่นน่าสนใจนำเข้ามาจำหน่ายในร้าน เพื่อเพิ่มจุดขาย สร้างความแตกต่างจากร้านค้าอื่นๆ  จนทำให้จากเดิมที่ร้านโชห่วยมียอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 2,000-3,000 บาทต่อวัน แต่หลังจากที่เข้าไปช่วยปรับเป็นร้านถูกดี มีมาตรฐาน พบว่าแต่ละร้านมียอดขายเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ได้วางเป้ายอดขายต่อวันเฉลี่ย 15,000 บาท จะเป็นตัวเลขที่จะทำให้ร้านอยู่ได้และมีกำไร และวางแผนจะผลักดันให้ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 บาทต่อวันในอนาคต