"น้ำคือชีวิต" น้อมนำศาสตร์พระราชา สู่การบริหารจัดการน้ำให้คน-สัตว์ป่าอยู่ร่วมอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่วัดเวฬุวัน จ.กาญจนบุรี มูลนิธิพิทักษ์คชสาร จัดการบรรยายเรื่อง "งานที่ลงมือทำ เพื่อช้างคู่แผ่นดินคู่ศาสนา" โดยมี หลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ เจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน ในฐานะประธานมูลนิธิพิทักษ์คชสาร เป็นผู้บรรยาย โดยจากพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระราชทานเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2539 ความว่า "... หลักสำคัญว่าต้องมีน้ำบริโภค และน้ำใช้ น้ำเพื่อการเพาะปลูก เพราะชีวิตอยู่ที่นั่น ถ้ามีน้ำ คนอยู่ได้ ถ้าไม่มีน้ำ คนอยู่ไม่ได้ ไม่มีไฟฟ้าคนอยู่ได้ ถ้ามีไฟฟ้าไม่มีน้ำคนอยู่ไม่ได้..." แสดงถึงการตระหนักถึงความสำคัญของน้ำต่อความอยู่รอดของชีวิต พืช สัตว์ และมนุษย์ โดยเหตุที่น้ำเป็นองค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต ถ้าไม่มีน้ำ ชีวิตก็ไม่สามารถอยู่รอดได้ ซึ่งจากพระราชดำริเรื่อง "น้ำคือชีวิต" ทำให้เกิด "โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการเกษตร - สัตว์ป่า และการฟื้นฟูแหล่งอาหารสัตว์ป่าประชาชนร่วมใจ ถวายในหลวง" และสืบเนื่องจากที่หลวงปู่สาคร ได้ให้ความสนใจชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน และสัตว์ป่าในเขต อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี โดยเฝ้าสังเกต และติดตามมาตั้งแต่ราวปี 2541 ซึ่งเป็นเวลา 20 กว่าปีมาแล้ว โดยพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงของสภาพพื้นที่ การใช้ประโยชน์จากผืนป่าโดยไม่ต้องระมัดระวัง ขาดความรู้ การจัดสรรทรัพยากรเป็นไปโดยขาดแบบแผนที่ดี โดยเฉพาะทรัพยากรน้ำอันเป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีพของคน และสัตว์ป่า ซึ่งนับวันมีแต่จะทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะปัญหาการกระทบกระทั่งกันระหว่างคนกับช้างป่า จากการบุกรุกที่ทำกิน การแย่งชิงแหล่งน้ำ ปัญหาการขาดแคลนน้ำ เพื่อการอุปโภคและบริโภคในหน้าแล้ง จึงได้หาวิธีการช่วยเหลือบรรเทาสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินและถวายองค์ในหลวงทั้งสองรัชกาล จึงได้มีการจัดทำ โครงการดังกล่าวขึ้น