รายงานข่าวจากบริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) เปิดเผยถึงประสิทธิภาพเทคโนโลยี Streamer ที่สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) และเชื้อไวรัสตับอักเสบจากหนู (MHV-A59) โดยเป็นผลการทดสอบที่ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยโตเกียว (The University of Tokyo) และมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์โอคายาม่า (Okayama University of Science) ประเทศญี่ปุ่น เบื้องต้นยืนยันผลการทดสอบทางวิทยาศาสตร์  ของประสิทธิภาพเทคโนโลยี Streamer ด้วยการปล่อยประจุ Streamer เป็นเวลา 3 ชั่วโมง ปรากฏว่าสามารถยับยั้งเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) และ เชื้อไวรัสตับอักเสบจากหนู (MHV-A59) ได้ถึง 99.9% และเมื่อปล่อยประจุ Streamer 1 ชั่วโมง สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ได้ถึง 93.6% และ เชื้อไวรัสตับอักเสบจากหนู (MHV-A59) ได้ถึง 91.8% โดยผลลัพธ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายในห้องทดลองที่ใช้อุปกรณ์ปล่อยประจุ Streamer จึงไม่ได้ชี้บ่งว่าประสิทธิภาพของ Streamer นั้นจะมีผลต่อการใช้งานในผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยี Streamer เมื่อใช้งานภายใต้สภาพแวดล้อมจริง สำหรับ เชื้อไวรัสตับอักเสบจากหนู (MHV-A59) เป็นไวรัสที่ถูกจัดอยู่ในสกุล Betacoronavirus อยู่ในวงศ์ Coronaviridae ซึ่งเป็นวงศ์ที่มีเปลือกห่อหุ้ม และสารพันธุกรรมเป็น RNA สายเดี่ยว (Single stranded RNA, Positive-sense) อยู่ในอันดับ Nidovirales ซึ่งเป็นหนึ่งในไวรัสที่จัดอยู่ในสกุลเดียวกับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) เบื้องต้นมีการใช้เชื้อไวรัสตับอักเสบจากหนู (MHV-A59) ในการจัดตั้งและกำหนดระบบการทดลอง จากนั้นทำการประเมินผลประสิทธภาพโดยเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ซึ่งมีการทดสอบประสิทธิภาพ Streamer ในห้องทดลอง กับ เชื้อไวรัสตับอักเสบจากหนู (MHV-A59) และเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2)  ภายในกล่องอะคริลิคขนาด 31 ลิตร 2 กล่อง โดยติดตั้งอุปกรณ์ Streamer ไว้ภายในกล่องอะคริลิค 1 กล่อง และอีกกล่องไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์ Streamer ไวรัสที่ทำการทดสอบถูกบรรจุอยู่ในสารละลายไวรัส ได้ถูกนำมาใส่ในหลุมของจานทดลอง 6 หลุมๆ ละ 0.5 มล. และวางบนเครื่องเขย่า ที่มีรอบเขย่า 12 ครั้ง/นาที ภายในกล่องอะคริลิค อุปกรณ์ Streamer ทำงานโดยการปล่อยพลาสม่าผ่านอากาศลงไปยังจานทดลอง 6 หลุมที่มีสารละลายไวรัสอยู่ซึ่งตั้งอยู่บนเครื่องเขย่าที่กำลังทำงาน จากนั้นทำการเก็บสารละลายไวรัสทุกๆ 1, 2 และ 3 ชั่วโมง จากจานทดลอง และนำไปนับจำนวนไวรัสที่รอดชีวิตด้วยวิธีนับจำนวนพลัค (Plaque method) โดยใช้เซลล์ DBT สำหรับเชื้อไวรัสตับอักเสบจากหนู (MHV-A59) และวิธี TCID50 โดยใช้เซลล์ Vero E6 / TMPRSS2 สำหรับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ซึ่ง ผู้บริหารระดับสูง ของบริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) เปิดเผยว่า การทดสอบนี้ได้ทำการทดสอบและค้นคว้าวิจัย ร่วมกับศาสตราจารย์ ชิเงรุ คิววะ บัณฑิตวิทยาลัย เกษตรกรรมและวิทยาศาสตร์ชีวภาพ มหาวิทยาลัยโตเกียว และ ศาสตราจารย์ ชิเงรุ โมริกาวะ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์โอคายาม่า พร้อมกันนี้เทคโนโลยี Streamer ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยบริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) จนมาในปี 2547 เทคโนโลยี Streamer ได้ถูกนำมาใช้งานจริง ด้วยการใช้หลักการทำงานในการปล่อยประจุไฟฟ้าพลาสม่า Streamer ที่มีประสิทธิภาพในการสลายสสารอันตราย ปล่อยประจุ Streamer เป็นเทคโนโลยีฟอกอากาศที่สร้างอิเล็คตรอนความเร็วสูงอย่างเสถียร ซึ่งถือว่าเป็นคุณสมบัติที่ทำได้ยากในเวลานั้น ประสิทธิภาพในการสลายสสารด้วยวิธีออกซิเดชั่นของ Streamer นั้นมากกว่าการปลดปล่อยประจุพลาสม่าแบบทั่วไป (glow discharge) ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อ Streamer ผสานกับโมเลกุลส่วนประกอบในอากาศ ทำให้อิเล็คตรอนความเร็วสูงเหล่านั้น มีคุณสมบัติอย่างดีเยี่ยมในการสลายสสารด้วยการออกซิเดชั่น และคุณสมบัตินี้เองทำให้ Streamer สามารถช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ แบคทีเรีย และแม้แต่มลภาวะภายในอากาศ เช่น ฟอร์มัลดีไฮด์ ไห้มีประสิทธิภาพในการสลายสสารอันตราย เช่น เชื้อก่อโรค แบคทีเรีย สารก่อภูมิแพ้ และก๊าซอันตราย ได้เป็นต้น ซึ่งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไดกิ้นได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยของรัฐในการทดสอบ ประสิทธิภาพของเทคโนโลยี Streamer นี้ กับสสารอันตรายต่างๆ อย่างเช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่ก่อโรคระบาดรุนแรงอย่าง (H5N1) ไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่ไม่รุนแรง (H1N1 Norovirus) จากหนู และสารพิษและแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดอาหารเป็นพิษ และนอกเหนือจากเชื้อก่อโรคที่แสดงในตารางด้านล่างแล้ว ประสิทธิภาพของ Streamer ยังได้รับการทดสอบกับสสารอันตรายอีกกว่า 60 ชนิด โดยแบ่งเป็น เชื้อแบคทีเรีย 7 ชนิด สารก่อภูมิแพ้ 30 ชนิด รวมไปถึงสารเคมีอันตรายอีกกว่า 19 ซึ่งผลการทดสอบเหล่านั้นได้รับการยืนยันผลจากสถาบันวิจัยของรัฐ