เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเมฆินทร์ เอี่ยมสอาด ผู้อำนวยการ BLUE HOUSE ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ และช่วยเหลือประชาชนชน พรรคประชาธิปัตย์ และนายสิรภพ โทณวณิก ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์ ฯ ได้ลงพื้นที่ แฟลตศูนย์การค้า (เเฟลต 89 )ศรีสมบูรณ์ เขตบางซื่อ ซึ่งแฟลตดังกล่าว มีประมาณ 170 ห้อง โดยผู้อาศัยส่วนใหญ่มีอาชีพหาเช้ากินค่ำ และค้าขายเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งนายเมฆินทร์ และคณะ ก็ได้ตั้งโต๊ะมอบข้าวกล่องจำนวน 200 กล่องให้กับผู้ที่อาศัยในแฟลต โดยมีการเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสฯ แต่ปรากฏว่า ภายในแฟลตดังกล่าว มีผู้พิการ 2 ราย ที่ไม่สามารถลงไปรับข้าวกล่องได้ คือ 1.นางวรรณา สุขสว่าง อายุ 68 ปี อยู่กับสามีอาชีพ รปภ. 2. นางยุพิน ปั้นทอง อายุ 66 ปี ซึงขาขาด ทั้งสองข้าง เนื่องจากอาการของโรคเบาหวาน อยู่กับลูกชาย อาชีพรับจ้าง ซึ่งนายเมฆินทร์และคณะ ได้มีการเข้าไปมอบข้าวกล่องให้ถึงห้องพัก และได้ไต่ถามถึงความลำบากในการใช้ชีวิต นับตั้งแต่มีโรคโควิด - 19 ระบาด รวมทั้ง ได้ให้กำลังใจในการสู้ชีวิต โดยทั้งสองกรณีนี้ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จะช่วยตรวจสิทธิ ในเรื่องเงินผู้พิการ จากเดือนละ 800 ปรับเป็น 1,000 บาท โดย นางยุพิน ระบุว่า ตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด - 19 นั้น ตนได้รับผลกระทบ เนื่องจากมาตรการต่างๆ ที่ต้องการควบคุมไม่ให้เกิดแพร่กระจายของเชื้อ ทำให้ตนไม่สามารถไปหาหมอเพื่อรักษาอาการเบาหวานได้ตามปกติ ประกอบกับมีอาการเครียดที่ไม่ได้ไปพบปะกับผู้อื่นและรู้สึกเหงา รวมทั้ง ไม่สามารถเข้าถึงมาตรการเยียวยาต่างๆ ที่หลายฝ่ายได้ดำเนินการมาแล้ว ดังนั้น การที่ทางศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ ฯ ได้มามอบข้าวกล่องให้กับตนและครอบครัวนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ปลาบปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง นายเมฆินทร์ กล่าวว่า ตนได้เห็นน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มของนางยุพินแล้ว มีความรู้สึกที่ตื้นตันตามไปด้วย ทั้งนี้ การช่วยเหลือของตนและคณะศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์นั้น ถือเป็นฟันเฟืองเล็กๆ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบากในเวลานี้ โดยตนเองขณะนี้ก็ได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคและอุปกรณ์ป้องกันไวรัสโควิด - 19 และรับฟังปัญหาของประชาชน เพื่อจะได้นำเสนอต่อพรรค โดยปัญหาส่วนใหญ่ที่พบก็คือ ยังมีคนอีกจำนวนมาก ที่ไม่ได้รับการดูแลช่วยเหลือจากภาครัฐบาล เนื่องจากยังเข้าไม่ถึงในสิ่งที่รัฐบาลได้วางเอาไว้ ดังนั้น ตนจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยกันลงพื้นที่พบปะประชาชนในเชิงรุก เพื่อจะได้พบสภาพปัญหาและช่วยกันหาแนวทางช่วยเหลือประชาชนที่ยังเข้าไม่ถึงในสิ่งที่ควรจะได้ โดยเฉพาะในยามวิกฤติในเวลานี้