“อ.แห้ว หมอดูเทวดา” เชิญร่วมบุญสร้างองค์พระยูไล หน้าตัก 19 เมตร บนอาคารปฎิบัติธรรม 3 ชั้น ณ ศาลเจ้าพ่อนาคราช จ.นครสวรรค์
"ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด ผู้ที่เล็กที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุด ผู้ที่มีเกียรติ คือ ผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่นเพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย ดังนี้แล้ว หมอดูเทวดา ผู้หยั่งรู้ชะตาชีวิตมนุษย์โลก เมื่อฟ้าลิขิตกฏเกณฑ์ขึ้นมามนุษย์ควรหมั่นสร้างคุณงามความดีมีพรหมวิหาร 4 ประกอบด้วย เมตตา กรุณา อุเบกขา มุฑิตา ย่อมส่งผลให้มวลมนุษย์ชาติอยู่เย็นเป็นสุข "
นายณรงศักดิ์ คูกิติรัตน์ ผู้เปิดตำนานศาลเจ้าพ่อนาคราชชื่อนี้อาจจะไม่เป็นที่คุ้นหูผู้คนมากนัก แต่ถ้าเอ่ยถึงชื่อ “อาจารย์แห้ว” ศาลเจ้าพ่อนาคราช มีลูกศิษลูกหามากมายกว่า 40 ปี เพราะนั่นคือชื่อที่ผู้คนต่างให้ความเคารพนับถือในนามของ “หมอดูเทวดา” ผู้หยั่งรู้บัญชีเทวดาที่บันทึกเรื่องราวของผู้คนในแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร ทำอะไร และจะเป็นอย่างไรต่อไป โดยอาจารย์แห้วจะมีคำพูดที่ผู้คนคุ้นหูกันว่า “อาจารย์พูดตามที่ข้างบนเขาบันทึกไว้ เขาบันทึกอย่างไรอาจารย์ก็พูดอย่างนั้น
อาจารย์แห้ว ชอบทำบุญ สะสมบุญ และให้ลูกศิษย์ลูกหาของท่านได้ร่วมทำบุญ มากมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้สร้างโบสถ์ที่วัดโคกงาม ซึ่งเป็นวัดที่บวชเรียนและจำพรรษาอยู่ที่นี้กว่า 40 ปี จนสำเร็จสิ้นในเวลาเพียง 11 เดือน เป็นโบสถ์หลังแรกในชีวิต พอสร้างโบสถ์สำเร็จก็ได้สร้างถาวรวัตถุให้กับวัดต่างๆอีกเป็นจำนวนมาก หลังจากลาสิกขาบทออกมาแล้ว ยังคงช่วยเหลือ สถานที่ต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอารามในจัวหวัดหวัดต้างๆ สถานที่หน่วยงานราชการ พร้อมบูรณะศาลเจ้าพ่อนาคราช เป็นศาลเจ้าบรรพบุรุษ สร้างขึ้นเป็นศาลเจ้าที่เห็นในปัจจุบัน
อาจารย์แห้ว แห่งศาลเจ้าพ่อนาคราชจันเสน ต.จันเสน อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์
พลังศรัทธามากล้น มีโครงการจัดสร้าง “พระยูไล” ขนาดหน้าตักกว้าง 19 เมตร อยู่บนอาคารปฏิบัติธรรม 3 ชั้น ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า เมื่อสร้างแล้วเสร็จจะมีขนาดใหญ่กว่าพระยูไลบนยอดเขาวัดโป่หลินเสียอีก เมื่อถึงวันนั้น ศาลเจ้าพ่อนาคราชจันเสนจะกลายเป็นสถานที่รวมศรัทธาที่มีพระยูไลใหญ่ที่สุดในโลก ปกติแล้ว“อาจารย์แห้ว” จะอยู่ที่วังนาคราช 3 วัน...คือ พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ มีบรรดาลูกศิษย์ลูกหาศรัทธาพากันมาให้ตรวจดวงชะตาไม่วันละนับร้อยคน เงินที่ได้มาก็แบ่งสรรปันไปช่วยเหลือสังคม สร้างหอประชุมโรงเรียน สร้างถาวรวัตถุให้วัด สนับสนุนหน่วยงานราชการจัดกิจกรรมต่างๆ
เมื่อปี พ.ศ.2557 อาจารย์อารย์ ปาลเดชพงศ์ หัวเรือใหญ่โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า และเด่นหล้า อินเตอร์ ถนนราชพฤกษ์ นนทบุรี ได้ซื้อที่ดินกว่า 10 ไร่ มอบให้อาจารย์แห้ว เพื่อขยายพื้นที่สร้างศาล และมุ่งหมายที่จะสร้างพระยูไลองค์ใหญ่ ผ่านมาถึงวันนี้ การก่อสร้างอาคารปฏิบัติธรรม 3 ชั้น เกือบจะแล้วเสร็จแล้ว โดยบริเวณชั้นล่างสามารถรองรับประชาชนได้ประมาณ 5,000 คน ส่วนชั้นที่ 2 จะเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุเพื่อให้ผู้เลื่อมใสกราบไหว้ขอพร รวมทั้งเพื่อให้ศาลเจ้านาคราช เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงพุทธศิลป์จีนโบราณ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชนตำบลจันเสน ตำบลใกล้เคียง การจัดสร้างศาลเจ้าพ่อนาคราชจันเสน มีจุดเริ่มด้วยเงินทุนเพียง 3,000 บาท วันเวลาผ่านไปไม่นาน ผู้คนที่นับถือก็มาร่วมรวมพลังบุญ สร้างสิ่งก่อสร้าง ซื้อที่ดินขยายเนื้อที่เพิ่มมากขึ้น สิ่งปลูกสร้างสะท้อนกำลังศรัทธาปรากฏให้เห็นเด่นชัด ด้านหน้าเป็นศาลฟ้าดิน ศิลปะจีนแท้ๆ เป็นที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมครบทุกปางมากที่สุดในประเทศไทย พร้อมบรรดาเหล่าเซียนอีกจำนวนมาก
ปี พ.ศ.2544 ได้มีการสร้างศาลเจ้านาคราชหลังแรก และอีกหลายหลังตามมา อาทิ ตำหนักเจ้าแม่กวนอิมพันมือ, อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระปิยมหาราช, ตำหนักเจ้าพ่อนาคราช, อาคารพระธรรม, อาคารเฉลิมพระเกียรติ 81 พรรษามหาราชา, อาคารโรงเจ และ คลินิกหมอขนาดเล็ก อาคาร 3 ชั้น เอาไว้สำหรับรับรักษาคนในชุมชน โดยจะเชิญอาจารย์หมอ หรือแพทย์ที่เกษียณอาสามาช่วยงานเป็นสาธารณกุศล ในอนาคต อาจารย์แห้ว มุ่งหวังตั้งใจที่จะก่อสร้าง โรงพยาบาลขนาดกลาง เพื่อช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก สงเคราะห์ผู้ยากไร้ สร้างโรงเรียนสอนภาษาจีนกลาง เพื่อให้เด็กได้มีโอกาสเปิดโลกทัศน์ ให้โอกาสในการเรียนรู้เพิ่มเติมจากในห้องเรียนที่มีอยู่ เพื่อรองรับการเปิดประตูประชาคมอาเซียน
ทุกวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี จะเป็นงานประจำปีศาลเจ้าพ่อนาคราชจันเสน จะเป็นวันที่เจ้าพ่อนาคราช ประทับทรงผ่านร่าง "อาจารย์แห้ว" ซึ่งใน 1 ปี จะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น จะมีคนเดินมามากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะชาวจีน ปรากฏการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้น คือ มีลูกศิษย์จากทุกสารทิศ เดินทางมาร่วมงานเกือบหมื่นคน มีการออกร้านตั้งโรงทานให้กินอาหารฟรี มีลูกศิษย์ที่มีฐานะดีหลายรายมอบเงิน เพื่อสร้างโรงพยาล สร้างสถานปฏิบัติธรรม รวมทั้งสร้างพระยูไล หน้าตัก 19 เมตร องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่แตกต่างจากงานของพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง
สำหรับการสร้างพระยูไล ครั้งนี้ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากปัจจุบันได้สร้างแล้วเสร็จไปกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ เหลือแต่ปูพื้นกระเบื้อง ในพื้นที่กว่า 20,000 ตรารางเมตร หลังจากปูพื้นกระเบื้องเสร็จ จะขึ้นองค์พระยูไล
ขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นเจ้าภาพได้ ที่ศาลเจ้าพ่อนาคราช ได้ทุกวันเพื่อความเป็นศิริมงคล กับตัวเองและครอบครัว ที่มีองค์พระยูไลที่ศักดิ์สิทธิ์ และใหญ่ที่สุดในโลก ไว้ในประเทศไทยเรา ที่สำคัญวันที่ 8 สิงหาคม 2563 เวลา 09.00 น. อาจารย์แห้ว จัดพิธิบวงสรวงใหญ่ ที่ศาลเจ้าพ่อนาคราช จ.นครสวรรค์ ขอเชิญศิษย์ยานุศิษย์ทุกท่านเข้าร่วมพิธีในวันและเวลาดังกล่าวเพื่อเป็นศิริมงคลกับตัวเองและครอบครัว
สำหรับการเดินทางไป “ศาลเจ้าพ่อนาคราชจันเสน” ควรใช้ถนนเส้นทางจากจังหวัดลพบุรี และอำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ โดยให้ยึดป้ายบอกทางไปพิพิธภัณฑ์จันเสน (วัดจันเสน)
"ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด ผู้ที่เล็กที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุด ผู้ที่มีเกียรติ คือ ผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่นเพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย ดังนี้แล้ว หมอดูเทวดา ผู้หยั่งรู้ชะตาชีวิตมนุษย์โลก เมื่อฟ้าลิขิตกฏเกณฑ์ขึ้นมามนุษย์ควรหมั่นสร้างคุณงามความดีมีพรหมวิหาร 4 ประกอบด้วย เมตตา กรุณา อุเบกขา มุฑิตา ย่อมส่งผลให้มวลมนุษย์ชาติอยู่เย็นเป็นสุข "
นายณรงศักดิ์ คูกิติรัตน์ ผู้เปิดตำนานศาลเจ้าพ่อนาคราชชื่อนี้อาจจะไม่เป็นที่คุ้นหูผู้คนมากนัก แต่ถ้าเอ่ยถึงชื่อ “อาจารย์แห้ว” ศาลเจ้าพ่อนาคราช มีลูกศิษลูกหามากมายกว่า 40 ปี เพราะนั่นคือชื่อที่ผู้คนต่างให้ความเคารพนับถือในนามของ “หมอดูเทวดา” ผู้หยั่งรู้บัญชีเทวดาที่บันทึกเรื่องราวของผู้คนในแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร ทำอะไร และจะเป็นอย่างไรต่อไป โดยอาจารย์แห้วจะมีคำพูดที่ผู้คนคุ้นหูกันว่า “อาจารย์พูดตามที่ข้างบนเขาบันทึกไว้ เขาบันทึกอย่างไรอาจารย์ก็พูดอย่างนั้น
อาจารย์แห้ว ชอบทำบุญ สะสมบุญ และให้ลูกศิษย์ลูกหาของท่านได้ร่วมทำบุญ มากมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้สร้างโบสถ์ที่วัดโคกงาม ซึ่งเป็นวัดที่บวชเรียนและจำพรรษาอยู่ที่นี้กว่า 40 ปี จนสำเร็จสิ้นในเวลาเพียง 11 เดือน เป็นโบสถ์หลังแรกในชีวิต พอสร้างโบสถ์สำเร็จก็ได้สร้างถาวรวัตถุให้กับวัดต่างๆอีกเป็นจำนวนมาก หลังจากลาสิกขาบทออกมาแล้ว ยังคงช่วยเหลือ สถานที่ต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอารามในจัวหวัดหวัดต้างๆ สถานที่หน่วยงานราชการ พร้อมบูรณะศาลเจ้าพ่อนาคราช เป็นศาลเจ้าบรรพบุรุษ สร้างขึ้นเป็นศาลเจ้าที่เห็นในปัจจุบัน
อาจารย์แห้ว แห่งศาลเจ้าพ่อนาคราชจันเสน ต.จันเสน อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์
พลังศรัทธามากล้น มีโครงการจัดสร้าง “พระยูไล” ขนาดหน้าตักกว้าง 19 เมตร อยู่บนอาคารปฏิบัติธรรม 3 ชั้น ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า เมื่อสร้างแล้วเสร็จจะมีขนาดใหญ่กว่าพระยูไลบนยอดเขาวัดโป่หลินเสียอีก เมื่อถึงวันนั้น ศาลเจ้าพ่อนาคราชจันเสนจะกลายเป็นสถานที่รวมศรัทธาที่มีพระยูไลใหญ่ที่สุดในโลก ปกติแล้ว“อาจารย์แห้ว” จะอยู่ที่วังนาคราช 3 วัน...คือ พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ มีบรรดาลูกศิษย์ลูกหาศรัทธาพากันมาให้ตรวจดวงชะตาไม่วันละนับร้อยคน เงินที่ได้มาก็แบ่งสรรปันไปช่วยเหลือสังคม สร้างหอประชุมโรงเรียน สร้างถาวรวัตถุให้วัด สนับสนุนหน่วยงานราชการจัดกิจกรรมต่างๆ
เมื่อปี พ.ศ.2557 อาจารย์อารย์ ปาลเดชพงศ์ หัวเรือใหญ่โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า และเด่นหล้า อินเตอร์ ถนนราชพฤกษ์ นนทบุรี ได้ซื้อที่ดินกว่า 10 ไร่ มอบให้อาจารย์แห้ว เพื่อขยายพื้นที่สร้างศาล และมุ่งหมายที่จะสร้างพระยูไลองค์ใหญ่ ผ่านมาถึงวันนี้ การก่อสร้างอาคารปฏิบัติธรรม 3 ชั้น เกือบจะแล้วเสร็จแล้ว โดยบริเวณชั้นล่างสามารถรองรับประชาชนได้ประมาณ 5,000 คน ส่วนชั้นที่ 2 จะเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุเพื่อให้ผู้เลื่อมใสกราบไหว้ขอพร รวมทั้งเพื่อให้ศาลเจ้านาคราช เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงพุทธศิลป์จีนโบราณ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชนตำบลจันเสน ตำบลใกล้เคียง การจัดสร้างศาลเจ้าพ่อนาคราชจันเสน มีจุดเริ่มด้วยเงินทุนเพียง 3,000 บาท วันเวลาผ่านไปไม่นาน ผู้คนที่นับถือก็มาร่วมรวมพลังบุญ สร้างสิ่งก่อสร้าง ซื้อที่ดินขยายเนื้อที่เพิ่มมากขึ้น สิ่งปลูกสร้างสะท้อนกำลังศรัทธาปรากฏให้เห็นเด่นชัด ด้านหน้าเป็นศาลฟ้าดิน ศิลปะจีนแท้ๆ เป็นที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมครบทุกปางมากที่สุดในประเทศไทย พร้อมบรรดาเหล่าเซียนอีกจำนวนมาก
ปี พ.ศ.2544 ได้มีการสร้างศาลเจ้านาคราชหลังแรก และอีกหลายหลังตามมา อาทิ ตำหนักเจ้าแม่กวนอิมพันมือ, อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระปิยมหาราช, ตำหนักเจ้าพ่อนาคราช, อาคารพระธรรม, อาคารเฉลิมพระเกียรติ 81 พรรษามหาราชา, อาคารโรงเจ และ คลินิกหมอขนาดเล็ก อาคาร 3 ชั้น เอาไว้สำหรับรับรักษาคนในชุมชน โดยจะเชิญอาจารย์หมอ หรือแพทย์ที่เกษียณอาสามาช่วยงานเป็นสาธารณกุศล ในอนาคต อาจารย์แห้ว มุ่งหวังตั้งใจที่จะก่อสร้าง โรงพยาบาลขนาดกลาง เพื่อช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก สงเคราะห์ผู้ยากไร้ สร้างโรงเรียนสอนภาษาจีนกลาง เพื่อให้เด็กได้มีโอกาสเปิดโลกทัศน์ ให้โอกาสในการเรียนรู้เพิ่มเติมจากในห้องเรียนที่มีอยู่ เพื่อรองรับการเปิดประตูประชาคมอาเซียน
ทุกวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี จะเป็นงานประจำปีศาลเจ้าพ่อนาคราชจันเสน จะเป็นวันที่เจ้าพ่อนาคราช ประทับทรงผ่านร่าง "อาจารย์แห้ว" ซึ่งใน 1 ปี จะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น จะมีคนเดินมามากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะชาวจีน ปรากฏการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้น คือ มีลูกศิษย์จากทุกสารทิศ เดินทางมาร่วมงานเกือบหมื่นคน มีการออกร้านตั้งโรงทานให้กินอาหารฟรี มีลูกศิษย์ที่มีฐานะดีหลายรายมอบเงิน เพื่อสร้างโรงพยาล สร้างสถานปฏิบัติธรรม รวมทั้งสร้างพระยูไล หน้าตัก 19 เมตร องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่แตกต่างจากงานของพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง
สำหรับการสร้างพระยูไล ครั้งนี้ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากปัจจุบันได้สร้างแล้วเสร็จไปกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ เหลือแต่ปูพื้นกระเบื้อง ในพื้นที่กว่า 20,000 ตรารางเมตร หลังจากปูพื้นกระเบื้องเสร็จ จะขึ้นองค์พระยูไล
ขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นเจ้าภาพได้ ที่ศาลเจ้าพ่อนาคราช ได้ทุกวันเพื่อความเป็นศิริมงคล กับตัวเองและครอบครัว ที่มีองค์พระยูไลที่ศักดิ์สิทธิ์ และใหญ่ที่สุดในโลก ไว้ในประเทศไทยเรา ที่สำคัญวันที่ 8 สิงหาคม 2563 เวลา 09.00 น. อาจารย์แห้ว จัดพิธิบวงสรวงใหญ่ ที่ศาลเจ้าพ่อนาคราช จ.นครสวรรค์ ขอเชิญศิษย์ยานุศิษย์ทุกท่านเข้าร่วมพิธีในวันและเวลาดังกล่าวเพื่อเป็นศิริมงคลกับตัวเองและครอบครัว
สำหรับการเดินทางไป “ศาลเจ้าพ่อนาคราชจันเสน” ควรใช้ถนนเส้นทางจากจังหวัดลพบุรี และอำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ โดยให้ยึดป้ายบอกทางไปพิพิธภัณฑ์จันเสน (วัดจันเสน)