จากกรณีปัญหาฝุ่น PM2.5 ได้กลายมาเป็นปัญหาระดับชาติในปีพ.ศ.2562 ส่งผลให้คนไทยหันมาซื้อเครื่องฟอกอากาศมากที่สุดส่งผลให้ยอดขายเครื่องฟอกอากาศเติบโต 100% และยังเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีพ.ศ.2563 นายวัชรพงษ์ รัตนปิลัมธน์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและฝ่ายการตลาด บริษัท บี-เวลล์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องฟอกอากาศ Bwell กล่าวว่าตลาดเครื่องฟอกอากาศในช่วงปีพ.ศ.2562 มีการเติบโต 100 %เนื่องจากประชาชนให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพและการเตรียมพร้อมรับมือกับฝุ่น PM2.5 ซึ่งมีมานานแล้ว เพียงแต่ไม่มีการตระหนักถึงผลกระทบที่ส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน เมื่อมีกระแสอย่างต่อเนื่องเช่นนี้เครื่องฟอกอากาศจึงกลายเป็นเครื่องไฟฟ้าจำเป็นที่จะต้องมีทุกบ้าน ส่งผลให้ตลาดเครื่องฟอกอากาศขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จนถึงปีพ.ศ.2563 “ในปีพ.ศ.2563 จะมีเครื่องฟอกอากาศแบรนด์ใหม่ๆเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ส่งผลให้การแข่งขันสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ในส่วนของBwell ยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และตอบโจทย์ลูกค้าครอบคลุมทุกกลุ่ม จนปัจจุบันมีทั้งหมด 8 รุ่น สามารถใช้งานทั้งในรถยนต์และในบ้าน หรือเครื่องฟอกอากาศที่ใช้สำหรับหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ซึ่งมีความละเอียดในการกรองฝุ่นถึง 0.008 ไมครอน” “ Bwell เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทยที่ออกแบบสำหรับกลุ่มลูกค้าที่sensitive เช่นเด็กและผู้ป่วยภูมิแพ้โดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการปล่อยประจุบวก ประจุลบและโอโซน นอกจากนี้ยังมีระบบฟอกอากาศที่ออกแบบตามมาตรฐานการฟอกอากาศของหน่วยงานรักษาสิ่งแวดล้อมประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีระบบฟอกอากาศ 7 ขั้นตอนในเครื่องเดียว ที่ครอบคลุมการกรองฝุ่น ดูดกลิ่น และฆ่าเชื้อโรค” ทั้งนี้ในปีพ.ศ.2563 Bwell ยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านระบบเครื่องฟอกอากาศ นอกจากนี้จะขยายตลาดไปยังต่างจังหวัดมากขึ้นโดยการเพิ่มจุดขาย ซึ่งปัจจุบันจำหน่ายเฉพาะในเขตกทม.และปริมณฑล ในห้างสรรพสินค้าพารากอน เอมโพเรียม เซ็นทรัล โฮมโปร เดอะมอลล์ พาวเวอร์บาย โรงพยาบาลสมิติเวช และ โรงพยาบาลกรุงเทพ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bwellairpurifier.com