วันที่​ 12 พฤศจิกายน 2562 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)หรือจิสด้าเปิดตัวโปรเจกต์สุวรรณภูมิ: ภูมิแห่งคุณค่าอาเซียนหรือSuvarnabhumi:Terra of Co-cultural ValuesณAuditorium Hallชั้น10 C aseanอาคารCW Tower ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร รศ.ดร.สมเจตน์ ทิณพงษ์ ประธานอนุกรรมการโครงการสุวรรณภูมิ กล่าวว่า“สุวรรณภูมิ”เป็นดินแดนที่ได้รับการกล่าวถึงและมีการศึกษาค้นคว้าต่อเนื่องกันมาเป็นระยะเวลานานทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดินแดนนี้ไม่ได้มีเขตแดนชัดเจน แต่เป็นดินแดนนามธรรมทางความคิด เป็นดินแดนเชิงสัญลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ เป็นอารยธรรมที่เมื่อพลิกฟื้นขึ้นมาได้จะนำไปสู่การรังสรรค์คุณค่าและการพัฒนาของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มหลักของโลกหรือMega Trendsที่กำลังมาถึงผ่านการศึกษาและสกัดคุณค่าในแต่ละด้านทั้งหมด5มิติ ร่วมกับการใช้นวัตกรรมจากเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ทำให้เราได้เห็นว่า “สุวรรณภูมิ”คือ ภูมิอารยธรรมเชื่อมโลก และเมื่อเราตระหนักแล้วว่าเราต่างไม่ได้แบ่งแยกโดยเส้นแดนประเทศ แต่เราเชื่อมโยงถึงกันและกัน ด้วยมโนทัศน์นี้จะพาให้เรากล้าที่จะรวมกันเพื่อพัฒนาไปสู่อนาคต ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชวลิต ขาวเขียวคณบดีคณะโบราณคดีมหาวิทยาลัยศิลปากรกล่าวเสริมว่า ในโอกาสแห่งการเฉลิมฉลองปีวัฒนธรรมอาเซียน 2562 โปรเจกต์สุวรรณภูมิ: ภูมิอารยธรรมเชื่อมโยงโลก จึงถือโอกาสนี้นำเสนอแนวคิดที่จะนำไปสู่วิวัฒนาการของการเชื่อมโยงอัตลักษณ์และคุณค่าวัฒนธรรมร่วมของอาเซียน บนพื้นฐานของเป้าหมายหลัก ได้แก่ ความมีเสถียรภาพ สันติภาพ และพลวัต และยุทธศาสตร์การฟื้นความสำเร็จในประวัติศาสตร์ของประเทศจีน ภายใต้โครงการความร่วมมือตามแนวเส้นทางสายไหมเพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก(Belt and Road Initiative)เพื่อพร้อมก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียน (ASEAN Community)ที่สมบูรณ์ บนพื้นฐานที่ทุกคนมีความมั่นคงในความเป็นมนุษย์ เป็นสุข และมีอิสระที่จะเลือกใส่ความหมายให้กับตนเองได้ ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการจิสด้า เปิดเผยว่าโปรเจกตส์ุวรรณภูมิฯ นี้ เป็นส่วนหนึ่งของ “โครงการภูมิอารยธรรมสุวรรณภูมิด้วยเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ”มีเป้าหมายในการวิเคราะห์เชื่อมโยงคุณค่าของดินแดนที่ได้รับการกล่าวถึงในเชิง “นามธรรมแห่งความคิด” เป็นการวิจัยเกี่ยวกับร่องรอยและความรุ่งเรืองจากอดีตจนถึงปัจจุบันของ “สุวรรณภูมิ” ทั้งด้านภูมิศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ การตั้งถิ่นฐาน เส้นทางการค้าข้ามสมุทร ตลอดจนความเชื่อมโยงกับพื้นที่อื่น ๆ โดยใช้หลักฐานทั้งทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี รวมถึงข้อมูลใหม่เกี่ยวกับดินแดนนี้ที่ยังไม่ได้รับการเผยแพร่ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การตามรอย“สุวรรณภูมิ” ครั้งนี้จะเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาการเรียนรู้คุณค่าแห่งศักยภาพผ่านรูปลักษณ์ (Features) ที่สามารถตรวจสอบได้ด้วยเทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียม ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภูมิสารสนเทศซึ่งตรงกับพันธกิจของจิสด้าในฐานะหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ขับเคลื่อนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศเพื่อการพัฒนาประเทศ ทุกท่านสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและรายละเอียดของโปรเจกตไ์ด้ที่ suvarnabhumimap.gistda.or.thหรือhttps://www.facebook.com/gistda