Real People, Real Passion คนกล้า นักล่าฝัน ตามหาสิ่งที่รัก ไม่หยุดการพัฒนาตนเอง วิ่งเข้าหาโอกาส และลงมือทำ จนสำเร็จได้จริง แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หนึ่งในนั้น คือ ขนิษฐา พงษ์เอกวัฒน์ หรือ “น้ำตาล” นักศึกษาชั้นปี 3 จากสาขาวิชาการจัดการการบริการและการท่องเที่ยว (Hospitality and Tourism Management) คณะวิทยาการจัดการ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (พีไอเอ็ม) แชมป์รายการ Cooking Competition 2019 จัดโดยโรงแรมดิโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ เผยเส้นทางก้าวสำคัญ หลังจากทริปเปิดประสบการณ์ครั้งแรกที่ได้บินลัดฟ้าสู่ยุโรป เพื่อไปศึกษาดูงานด้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ และเรียนรู้การทำอาหารกับมาสเตอร์ เชฟ จากสถาบันชื่อดังในวงการการท่องเที่ยวและการบริการของเนเธอร์แลนด์ ที่โรงแรม โฮเทล โอกุระ อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้กลับมาถ่ายทอด Passion เพื่อหวังสร้าง แรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่มีฝัน “น้ำตาล” คือหนึ่งเดียวจากผู้เข้าแข่งขันจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศไทยที่คว้าโอกาสนี้ สนับสนุนโดยโรงแรม ดิโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ เธอเล่าฟังว่ามีสิ่งที่รักเรียกว่า Passion อยู่ 2 สิ่ง อย่างแรกตนแองหลงรักเสน่ห์ของการทำอาหาร มีความฝันอยากเป็นเชฟ อยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง ในมุมมองของน้ำตาลไม่ได้คิดเพียงทำอาหารขึ้นมา 1 เมนูเท่านั้น แต่มองลึกลงไปถึงความใส่ใจและรายละเอียดของเชฟที่จะใส่ในทุกๆ จาน เห็นคุณค่าและประโยชน์ของวัตถุดิบ ในหนึ่งจานที่ปรุงขึ้นมาเพื่อให้คนทานได้ทานอย่างมีความสุข สำหรับโครงการ Cooking Competition 2019 น้ำตาลกล่าวว่า “เป็นโครงการที่ดีมาก ต้องขอขอบคุณทาง โรงแรม ดิโอกุระ ที่ให้โอกาสกับทุกๆ คน อยู่ที่ว่าเราจะกล้าและก้าวเข้าไปไหม ตอนแรกเราไม่กล้า กลัวผู้เข้าแข่งขันที่มาจากมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียง แต่เราตั้งใจและมุ่งมั่นมากรายการนี้เป็นสนามแรกที่ท้าทาย เราลบการดูถูกตัวเองขอลองดูสักครั้ง สุดท้ายแล้วมันคุ้มค่าที่ได้ทำ โชคดีที่มีอาจารย์ในสาขาวิชาที่เป็นทั้งโค้ชและพี่เลี้ยงผลักดันต่อเนื่อง เคยท้อช่วงที่ฝึกเทรนงาน ในครัว กดดันมากๆและเครียดด้วยเพราะต้องฝึกทักษะการทำอาหาร ใช้อุปกรณ์งานครัวให้ชำนาญที่สุด และฝึกฝนภาษาอังกฤษไปควบคู่กัน แต่สิ่งที่พาเรามาถึงจุดนี้ได้คือความมุ่งมั่น คิดว่าโอกาสไม่ได้มาง่ายๆ เมื่อมีทั้งโอกาสและโค้ชที่เก่ง พร้อมที่จะให้วิชา จึงมั่นใจหวังว่าจะต้องคว้าฝันครั้งนี้ให้ได้ ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้เป็นแค่เป็นจุดสตาร์ท ยังมีความฝันอีกมากมายที่คอยให้ไล่ตามอีกต่อไป จากนี้อยากเป็นตัวอย่างที่ดีและสร้างแรงบันดาลใจให้กับน้องๆ ที่อยากไปแข่งขันทำอาหาร” น้ำตาลเสริมอีกว่า “ถ้ายังไม่ลองแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราทำได้ อย่าเพิ่งกลัวในสิ่งที่เรายังไม่เห็น” Passion อย่างที่สองคือการเรียน เพราะอยากพัฒนาตัวเอง ท้าทายความสามารถ จึงเลือกเรียนที่พีไอเอ็ม รู้และเข้าใจก่อนเข้ารั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้แล้วว่าเป็นอย่างไร เรียนและฝึกปฎิบัติงานไปด้วย ถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อยค่ะ เพราะเราเรียนแบบ Work-based Education ซึ่งไม่เหมือนที่อื่น ไม่มีปิดเทอม เราเจอของจริง ซึ่งจะเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีในอนาคต เราสามารถเอาความอดทน ความมุ่งมั่น ไปสู้กับปัญหา เป็นกำลังใจเล็กๆ น้อยๆ ให้กับตัวเอง แต่บอกกับตัวเองว่าจะไม่เอาอุปสรรคมากดดันตัวเอง แต่จะทำให้มันดีขึ้น ทำให้เต็มที่ คนอื่นอาจจะมองว่าทำไมเราต้องมาฝึกปฎิบัติงานทุกเทอม ไม่มีเวลาว่าง แต่น้ำตาลกลับมองว่า เรามีประสบการณ์ ได้ผ่านงานจริงมา ทำให้ได้เปรียบกว่าคนอื่นๆ ฝึกให้เราก้าวไปเป็นมืออาชีพ พีไอเอ็มไม่ได้สอนให้เราเรียนอย่างเดียวแต่เขาสอนให้เราทำงานเป็น อาจารย์อนุชิต แสงอ่อน หัวหน้าสาขาวิชาการจัดการโรงแรมและท่องเที่ยว คณะวิทยาการจัดการ พีไอเอ็ม โค้ชผู้ไม่หยุดนิ่ง ในการเรียนรู้พัฒนาตนเองและพร้อมพัฒนาผู้อื่น และหลงใหลในความ Challenge มี Passionที่จะเป็นผู้สร้างคนสู่เวทีสากล รับหน้าที่โค้ชของน้ำตาลครั้งนี้ เผยว่า น้ำตาล ฉายแววให้เห็นจากงานแข่งทำอาหารภายในสาขาวิชาฯ ซึ่งตอนนั้นเป็นตัวสำรอง เป็นคนที่ไม่ได้มีทักษะการทำอาหารมากนัก แต่ว่าเป็นคนมีความมุ่งมั่นมาก มี Passion จึงสนับสนุนการฝึกฝนทักษะที่สำคัญจำเป็น ซึ่งทุกอย่างเกิดจากการวางแผนตั้งแต่สังเกตแววความสามารถ คอยเทรนต่อเนื่องจนโค้ชและผู้เรียนเข้าใจงานเป็น เนื้อเดียวกัน รวมทั้งสถาบันฯให้การสนับสนุนทั้งสถานที่ห้องปฏิบัติการและอุปกรณ์เต็มที่ทำให้คล่องตัวเอื้อต่อการฝึก มากไปกว่านั้นน้ำตาลเองค่อยๆ พัฒนาศักยภาพมีฝีมือขึ้นเรื่อยๆ เมื่อโค้ชมั่นใจในตัวเขาแล้วจึงให้ไปลงสนามจริง ระหว่างทางช่วยศึกษาหาข้อมูล เสริมคำแนะนำเพื่อพัฒนาอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ต้นถึงวินาทีสุดท้ายนี้ของการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง อยากให้เขาสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักศึกษาคนอื่นๆ ในสถาบันฯ และจะต่อยอดโดยการบ่มเพาะรุ่นน้องตั้งแต่ปี 1 ฝึกทำอาหารเพื่อให้ไปคว้ารางวัลในเวทีระดับนานาชาติต่อไป น้ำตาลมุ่งมั่นตามหาสิ่งที่ตัวเองรัก เช่นเดียวกับอีกหลายคนที่มองหาสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ดังนั้นการรู้จักทำในสิ่งที่รักและรักในสิ่งที่ทำ หมายมั่นจะก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพในอนาคต โดยอาศัยสะสมประสบการณ์ฝึกซ้อม และพัฒนาตัวเองให้มากขึ้น น้ำตาลพยายามรับกับทุกสิ่งที่เข้ามาทักทายตลอดเส้นทาง ทั้งการฝึกปฎิบัติงานแน่นตาราง ในขณะเดียวกันก็สามารถแบ่งเวลาเรียนได้เป็นอย่างดี ทั้งการเรียนและการแข่งขันแม้ว่าสิ่งเหล่านี้อาจไม่ง่ายเลย แต่น้ำตาลก็ได้เรียนรู้และเติบโตกว่าเดิม จึงพูดได้เต็มปากว่าสิ่งที่ทำคือ Passion ที่แท้จริง