กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผยผลสำเร็จหลังนำคณะผู้ประกอบการกว่า 18 บริษัท ร่วมเจรจาการค้าพบผู้ซื้อผู้นำเข้าและเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Guangdong 21th Century Maritime Silk Road International Expo 2019 ณ นครกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน โชว์ศักยภาพสินค้าคุณภาพและมาตรฐาน T Mark ที่รับรองโดยรัฐบาลไทย ผลเจรจาการค้าพุ่งกว่า 66.7 ล้านบาท จากจำนวนการเจรจา 262 คู่ธุรกิจ นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จากนโยบายภาครัฐที่มุ่งสร้างโอกาสการเข้าถึงตลาดที่มีศักยภาพแก่ผู้ประกอบการไทย รวมทั้งการส่งเสริมและเร่งผลักดันเพื่อขยายตลาดในกลุ่มที่มีศักยภาพสูง ซึ่งจากข้อมูลสำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครกวางโจว ระบุว่าสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นคู่ค้ารายสำคัญของไทย โดยตลาดจีนเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ มีมูลค่าการค้าร่วมกันระหว่างไทยและจีนในปีที่ผ่านมา มีมูลค่าประมาณ 8.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และตั้งเป้าที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าร่วมกันในปี 2564 ให้เพิ่มขึ้นเป็น 1.4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ โดย 1 ใน 3 ของมูลค่าการค้าไทย-จีน จะผ่านมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งเป็นมณฑลที่มีจีดีพีสูงที่สุดในจีนติดต่อกันถึง 30 ปี สินค้าไทยยังมีโอกาสเติบโตในตลาดจีนได้อีกมาก “ภายหลังจากที่กรมนำคณะผู้ประกอบการสินค้าไทยคุณภาพที่ได้รับตรา Thailand Trust Mark หรือ T Mark ไปเจรจาการค้า ณ นครกวางโจวและเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Guangdong 21th Century Maritime Silk Road International Expo 2019 ณ นครกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 20-26 สิงหาคม ที่ผ่านมา พบว่าสินค้าไทยได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากกลุ่มผู้ซื้อผู้นำเข้าชาวจีน โดยส่วนใหญ่เชื่อมั่นในคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าไทย โดยสินค้าที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ผลไม้แปรรูป ขนมขบเคี้ยว เครื่องปรุงรสสำหรับอาหารไทย ลูกประคบสมุนไพรผลิตภัณฑ์สปา ผลิตภัณฑ์ที่นอนและหมอนยางพารา สินค้าบรรจุภัณฑ์อาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง เป็นต้น”นางสาวบรรจงจิตต์ กล่าว อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ทั้งนี้กรมได้ผลักดันให้เกิดการรับรู้ในตรา T Mark ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพและมาตรฐานของแบรนด์ไทยเพิ่มมากขึ้น เน้นการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ในทุกช่องทาง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ การจัดทำข้อมูลตรา T Mark เป็นภาษาจีนเผยแพร่ผ่านช่องทางผู้มีอิทธิพลทางความคิดของจีน (Key Opinion Leader:KOL) และโซเซียลมีเดียต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้ว่าถ้ามองเห็นตราสัญลักษณ์นี้ถือเป็นการรับรองคุณภาพสินค้าจากประเทศไทย โดยนับตั้งแต่ปี 2555 ได้มีผู้ประกอบการไทยที่ได้รับตรา T Mark เป็นจำนวนมากกว่า 800 บริษัท นับเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการยุคใหม่ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อให้ได้รับการยอมรับในระดับสากลในมิติต่างๆ ทั้งในด้านคุณภาพ สิ่งแวดล้อม และการใช้แรงงานที่เป็นธรรม ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล” นางสาวบรรจงจิตต์กล่าว ด้าน นายอุฬาร อภิธูปากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพ็นต้า อิมเพ็กซ์ จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารที่ได้รับตรา T mark ในสินค้าเครื่องต้มยำและซอสมะม่วง แบรนด์ Thaiboy กล่าวว่า อุตสาหกรรมอาหารนั้นสิ่งสำคัญลำดับแรกคือเรื่องความปลอดภัยและคุณภาพ โดยในปัจจุบันนอกจากคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าแล้ว ผู้บริโภคยังให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมรวมถึงประเด็นของการใช้แรงงานและความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย ตรา T Mark สามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้ เพราะเป็นตราที่ให้ความสำคัญครอบคลุมในทุกมิติที่กล่าวมาและ เป็นตราสัญลักษณ์ที่รับรองคุณภาพมาตรฐานสินค้าโดยรัฐบาลไทย ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและช่วยให้ขยายตลาดในต่างประเทศได้ง่ายขึ้น สำหรับผู้ประกอบการไทยที่สนใจจะสมัครขอรับตราสัญลักษณ์ T Mark สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.thailandtrustmark.com โทร 02-507-8266 #IFoundTMark #THAILANDHARDMADEQUALITY #ThailandTrustMark #TMARK #กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ #กระทรวงพาณิชย์ #DITP