วิกฤตน้ำท่วมหาดใหญ่กลบกระแสการเมืองในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ที่มีการต่อรองและชิงไหวชิงพริบอย่างหนัก!! ด้วยจังหวะการเร่งรัดให้รัฐสภาเปิดสมัยประชุมวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในวาระที่ 2 และ 3 ไม่ได้เป็นเพียงการทำตามพันธกิจใน MOA เท่านั้น แต่ยังเป็นการสะท้อนของ “ดีลลับแลกเปลี่ยนอำนาจ” อันซับซ้อนระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชน
เชื่อกันว่า พรรคภูมิใจไทยซึ่งเป็นแกนหลักในคณะรัฐมนตรี ยอมปล่อย “ไฟเขียว” ให้มีการประชุมรัฐสภาในวันที่ 10–11 ธันวาคม 2568 นั้น เป็นการแลกเปลี่ยนความมั่นคงของรัฐบาลกับการสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคประชาชนจำเป็นต้องใช้เสียงสนับสนุนเพื่อผ่านวาระแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะที่พรรคภูมิใจไทยต้องการเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาชนเป็นเครื่องมือในการแก้เกมทางการเมือง เพื่อรับมือกับแรงกดดันจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่อาจเกิดขึ้น
เนื่องจากการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 12 ธันวาคม 2568 เป็นเงื่อนไขที่เปิดช่องให้มีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ แต่เมื่อพรรคภูมิใจไทยส่งสัญญาณว่าจะชิงยุบสภาก่อน จึงทำให้พรรคประชาชนกังวลว่าประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจตกไป จึงชิงเคลื่อนไหวให้เปิดประชุมรัฐสภาดักหน้าก่อนในวันที่ 10–11 ธันวาคม 2568
ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชน ไม่ได้อยู่ในสถานะพรรคร่วมรัฐบาลโดยตรง แต่เป็นพันธมิตรในการจัดตั้งรัฐบาล ที่พึ่งพาอาศัยกันในเชิงยุทธศาสตร์ โดยที่พรรคประชาชน “ถือไพ่เหนือกว่า” ด้วยจำนวน ส.ส. ที่มากกว่า ขณะที่พรรคภูมิใจไทยมีอำนาจในการกำหนดทิศทางของวุฒิสภา ซึ่งเป็นคะแนนเสียงสำคัญในการโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3
เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงในการ “ค้ำยัน” รัฐบาล พรรคภูมิใจไทยจึงจำเป็นต้องยอมรับเงื่อนไขในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และต้องรักษาสถานะความเป็นรัฐบาลของพรรคภูมิใจไทยต่อไป โดยมี “รัฐบาลรักษาการ” หลังการยุบสภาเป็นเดิมพัน
ดีลนี้เกิดขึ้นจากความต้องการบรรลุเป้าหมายทางการเมืองของทั้งสองฝ่าย แม้ในเชิงลึกต่างฝ่ายต่าง “ไม่ไว้วางใจ” กันและกัน
พรรคประชาชนไม่ไว้วางใจวุฒิสภา ว่าจะยกมือสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีร่างของตนเป็นแกนหลัก
ขณะที่พรรคภูมิใจไทยก็ไม่ไว้วางใจพรรคประชาชน ว่าจะยกมือไว้วางใจรัฐบาล หากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยอาจอ้าง “ความชอบธรรม” ในการไม่ยกมือสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย ยิ่งในสถานการณ์ที่เรตติ้งรัฐบาลกำลังดิ่งจากวิกฤตน้ำท่วม
“ดีลลับ” ครั้งนี้จึงเป็นการแลกเปลี่ยนที่ซับซ้อน พรรคภูมิใจไทยให้การสนับสนุนที่จำเป็นแก่พรรคประชาชน เพื่อแลกกับการคงอยู่ของตำแหน่งและอำนาจในรัฐบาล รวมถึงอิทธิพลในการกำหนดทิศทางทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง หรือกระบวนการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ (หากมีขึ้นจริง)
หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญลุล่วง จะถือเป็นชัยชนะเชิงสัญลักษณ์ของพรรคประชาชน ที่สามารถขับเคลื่อนเป้าหมายของตนได้สำเร็จ แม้อาจเป็นชัยชนะเพียงชั่วคราว
#ดีลลับการเมือง #ภูมิใจไทย #พรรคประชาชน #แก้รัฐธรรมนูญ #เปิดสภา #อภิปรายไม่ไว้วางใจ #ข่าวการเมืองไทย #วิกฤตการเมือง







