เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 3 ธ.ค. 68 ที่กองบังคับการปราบปราม นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ จะส่งผลต่อการวางยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ว่า เจอแบบนี้ทุกการเลือกตั้ง เราไปก้าวล่วงไม่ได้ เพราะเป็นอำนาจของ กกต. พรรคการเมืองที่จะเข้าสู่การเลือกตั้ง ต้องปรับตัวเอง ไม่ใช่กกต.ปรับมาหาเรา แต่เราต้องปรับไปหา กกต. เพราะกกต.เป็นคนออกกฎเกณฑ์
เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยพร้อมสำหรับการเลือกตั้งหรือไม่ หากเกิดอะไรขึ้นภายใน 1-2 วันนี้ หรืออะไรก็ตาม นายอนุทิน ตอบว่า พร้อมไม่พร้อม เมื่อเป็นพรรคการเมืองก็ต้องไปเลือกตั้งในทุกเงื่อนไข ส่วนจะได้เปรียบเสียเปรียบอย่างไรนั้น เรามองว่าไปสร้างนโยบายที่โดนใจประชาชนดีกว่า ดีกว่ามานั่งคิดว่าได้เปรียบหรือเสียเปรียบใคร เพราะการแข่งขันเกิดขึ้นตลอดเวลา สิ่งสำคัญที่สุด คือนโยบาย และการสร้างความเชื่อมั่น เชื่อถือให้กับประชาชนว่า เมื่อเขาเลือกเราเข้ามาแล้ว เราจะทำงานให้เขาได้เป็นที่พอใจตรงนั้นสำคัญที่สุด
เมื่อถามว่า นโยบายในการเลือกตั้งครั้งนี้ของพรรคภูมิใจไทยครั้งนี้ มั่นใจว่าจะโดนใจประชาชนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราต้องทำนโยบายที่คิดว่าดีที่สุดเสนอประชาชนส่วนคนตัดสินคือประชาชน เราจะไปตัดสินตัวเองไม่ได้
เมื่อถามว่า หลังการเลือกตั้งจะมีโอกาสจับมือกับพรรคประชาชนหรือไม่ เนื่องจากได้ทำเอ็มโอเอร่วมกันมาแล้ว นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ ก่อนการเลือกตั้ง ไม่มีพรรคไหนพูดว่าจะจับมือ หรือไม่จับมือกับใคร ทุกคนทราบอยู่แล้วว่า ไม่น่าเกิน 2-3 เดือนจากนี้ จะมีการเลือกตั้งแล้ว ทุกวันนี้แต่ละพรรค อย่างพรรคภูมิใจไทยก็ต้องไปหาผู้สมัครที่ดีที่สุดมาให้กับประชาชนต้องไปทำไพรมารีโหวตให้ครบตั้งสาขาพรรคให้ตรงกับรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ปิดโอกาสพรรคการเมืองใดรวมถึงพรรคเพื่อไทยด้วยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราต้องพยายามทำตัวเราให้ดีที่สุด คือเราทำความมั่นใจกับประชาชนให้มากที่สุด เมื่อถามย้ำว่า การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคภูมิใจไทยหวังได้สส. 200 เก้าอี้ใช่หรือไม่นายอนุทิน ย้อนตอบว่า ถ้าหวังได้ หวังสัก 1,000 มีไหมละ
เมื่อถามอีกว่า ช่วงที่ยังเกิดวิกฤตและจำเป็นต้องฟื้นฟูพื้นที่ภาคใต้ ขณะเดียวกันก็มี ประเด็นการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจได้มีการพูดคุยกันบ้างหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน การช่วยประชาชน แก้ไขสถานการณ์วิกฤติตอนเป็นรัฐบาล จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ถึงจะหมดหน้าที่ในการช่วยเหลือประชาชน ตราบใดที่ยังเป็นรัฐบาลอยู่จะเต็มรูปแบบ หรือรัฐบาลรักษาการ ถ้ามีภัย หรือเรื่องฉุกเฉินขึ้นมา ก็ต้องลุยกันเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนพ้นจากความทุกข์ให้เร็วที่สุด
เมื่อถามว่า มีการเชื่อมโยงว่า การที่พรรคเพื่อไทยยังไม่ยื่นอธิบายไม่ไว้วางใจ เพราะมีดีลกับรัฐบาล นายอนุทิน ตอบว่า ไม่มีครับ เมื่อถามย้ำว่า หลังบ้านไม่มีการพูดคุยกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่าไม่มี
เมื่อถามว่า วิกฤตภาคใต้ทำให้พรรคภูมิใจไทยต้องพลิกเกมทางการเมืองหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ครับ ทุกวันนี้ที่เราต้องลงไปแก้ไขปัญหาสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่พรรคใต้ เพราะเราเป็นรัฐบาลที่ระดมความร่วมมือของทุกหน่วยงานไปช่วยเหลือประชาชนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งไม่ได้ไปในฐานะพรรคภูมิใจไทย
เมื่อถามถึง กรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นคำร้องต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ไต่สวนและชี้มูลความผิดนายกฯ กับพวก กรณีบริหารผิดพลาดล้มเหลวในการจัดการน้ำท่วมภาคใต้ 9 จังหวัด จะต้องแก้ไขปรับปรุงวิธีการอย่างไรบ้าง นายอนุทิน หัวเราะก่อนตอบว่า ไม่แก้ไขอะไร เราควบคุมตัวเราเองได้ แต่เราไปควบคุมคนอื่นไม่ได้ เรามั่นใจว่า เรามีเจตนารมณ์ที่ดีในการทำงานแก้ไขปัญหาบ้านเมืองให้กับประชาชน และทำงานอย่างเต็มที่ในฐานะรัฐบาลที่บริหารราชการแผ่นดิน
เมื่อถามอีกว่า กังวลหรือไม่ว่าสถานการณ์วิกฤติน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ครั้งนี้ จะกลายเป็นวิกฤติกระแสเสียงของพรรคภูมิใจไทยนายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้กังวลว่าเป็นกระแสของพรรคภูมิใจไทยจะขึ้นหรือลดลง แต่กังวลที่ช่วยเหลือประชาชนได้ไม่ทันใจตัวเอง
เมื่อถามว่า เสียงตำหนิในการบริหารจัดของรัฐบาลที่ขมหูนายกฯ ตอนนี้จะจัดการอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า น้อมรับทุกอย่างอันไหนฟังแล้วเข้าท่า มีเหตุมีผล ยังขออนุญาตก๊อปปี้ไปแก้ไขด้วยซ้ำ








