เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 26 ส.ค.62 พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ภ.จ.นครราชสีมาพร้อม พ.ต.อ.อิทธิพล นาคคำ รอง ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.จิรัฎฐ์ ธัญญ์จิโรจน์ ผกก.สภ.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงและอาสาสมัครรักษาดินแดนร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบตามที่ได้รับรายงานพบการลักลอบปลูกต้นกัญชาที่บ้านบุเนิน หมู่ 7 ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว โดยมีนายณัชศุภณ ทองโสภณ อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านบุเนิน หมู่ 7 ฯ และผู้นำชุมนำทางมาตรวจสอบ บนพื้นที่กว่า 1 ไร่ ตั้งอยู่ห่างจากถนนสาธารณะ 300 เมตร พบต้นกัญชาซึ่งเป็นตัวกระเทยที่สามารถนำช่อและดอกไปสกัดเป็นยารักษาโรคได้ อายุประมาณ 3 เดือน จำนวน 760 ต้น ลักษณะปลูกเป็นแปลงยกร่องมีระบบรดน้ำปลูกปนกับแปลงข้าวโพดและพืชสวนไว้ด้านหน้าอำพรางมิให้ถูกตรวจค้นจับกุม เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังถอนต้นกัญชาและสามารถตรวจยึดกัญชาแห้ง 1 กระสอบ น้ำหนักรวม 2 กิโลกรัม จากนั้นได้ควบคุมตัวนายผจญ กึนสันเทียะ อายุ 64 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 494 บ้านวังไทร หมู่ 2 ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว ให้การภาคเสธอ้างต้นกัญชาทั้งหมดเป็นของนายทุนจากกรุงเทพ ฯ ตนรับจ้างดูแลเฝ้าไร่ได้ค่าแรงวันละ 300 บาท หากต้นกัญชาโตเต็มที่ นายทุนจะนำไปบ่มสกัดเป็นยาซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของบรรดาผู้ป่วยโรคมะเร็งและโรคอื่นๆ มาใช้รักษาโรค แต่ติดขัดข้อกฎหมายสาธารณสุข ทำให้ต้องลักลอบผลิตใต้ดิน กัญชาเหบ่านี้มิได้นำไปสันทนาการ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อกล่าวหาผลิตและครอบครองยาเสพติดประเภท 5 (กัญชา) เพื่อจำหน่าย พล.ต.ต วัชรินทร์ ฯ ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า นายผจญ ฯ รับสารภาพเป็นเพียงผู้รับจ้างดูแลการลูกต้นกัญชาส่วนนายทุนอยู่ระหว่างขยายผลและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลจังหวัดนครราชสีมา อนุมัติออกหมายจับ อย่างไรก็ตามกัญชายังถือเป็นยาเสพติดประเภท 5 กฎหมายยังไม่อนุญาตให้ปลูกได้เสรี หากตรวจพบก็ต้องรับโทษทางกฎหมาย