เกษตรกรชัยภูมิ ยึดทฤษฎีใหม่ปรับตัวปลูกพืชอายุสั้น แซมสวนส้มโอ เพิ่มรายได้

รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นเยี่ยมชมสวนส้มโอ เกษตรกรชัยภูมิ ซึ่งยึดหลักทฤษฎีใหม่ทำการเกษตร พร้อมแนะรวมกลุ่มสร้างพลังต่อรองราคา นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหนะ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่อำเภอบ้านแท่น จังหวัดชัยภูมิ เพื่อติดตามการขับเคลื่อนโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ ของนายสมควร เฉื่อยสูงเนิน เลขที่ 121 หมู่ 1 บ้านหลุบค่าย ตำบลสามสวน อำเภอบ้านแท่น จังหวัดชัยภูมิ นายสมควร เฉื่อยสูงเนิน ทำการเกษตรบนมีที่ดิน 18 ไร่ แบ่งเป็นปลูกส้มโอ 5 ไร่ ทำนา 5 ไร่ ที่เหลือเป็นบ่อปลา ซึ่งจากการทำนาและปลูกส้มโอในสัดส่วนที่เท่ากัน มีรายได้จากการจำหน่ายส้มโอปีละประมาณ 150,000-200,000 บาท ขณะที่ทำนาพอได้กิน แต่ไม่พอจำหน่าย และต้องลงทุนทุกปี จึงได้ตัดสินใจปลูกส้มโอทั้งหมด โดยเริ่มลงมือปลูกในปีนี้ คาดว่าจะได้เก็บผลผลิตจำหน่ายในปี 2565 จึงได้ปลูกพริกในล่องกลางระหว่างต้นส้มโอ เพื่อสามารถเพิ่มรายได้เป็นประจำทุกวัน และปลูกกล้วยประมาณ 500 ต้น เพื่อเป็นการสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหนะ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า นายสมควร เฉื่อยสูงเนิน ได้เข้าร่วมโครงการขับเคลื่อนเกษตรทฤษฎีใหม่ ปี 2560 อยู่ในกลุ่มที่ 3 คือมีความพร้อม มีความสมัครใจ สนใจ และพร้อมลงทุนในกิจกรรมเพิ่มเติมในการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ถวายในหลวง ร.9 ถึงแม้พื้นที่จะ Start Zero คือเป็นการทำการเกษตรแบบผสมผสาน บางส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์ สิ่งที่เกษตรกรต้องการคือความรู้เพิ่มเติม รวมถึงการสนับสนุนจากภาครัฐ และจากการเยี่ยมชมเกษตรกรรายดังกล่าว จะเห็นว่า กล้าปรับเปลี่ยนที่จะไม่ปลูกข้าวเนื่องจากเห็นว่าทำไปก็ขาดทุน และปลูกส้มโอแทนซึ่งมีรายได้แน่นอน พร้อมทั้งปลูกพืชอายุสั้นในการหารายได้ให้กับครอบครัวในช่วงรอเก็บผลผลิตส้มโอ “อย่างไรก็ตาม ได้แนะนำเรื่องการรวมกันจำหน่ายส้มโอ เพราะที่ผ่านมาเกษตรกรจะจำหน่ายแบบต่างคนต่างจำหน่าย ทำให้พ่อค้าคนกลางกดราคา โดยใช้กลไกสหกรณ์ คือเกษตรกรต้องรวมตัวกันให้ได้ ให้พ่อค้าที่จะมารับซื้อประมูลราคาผ่านกลุ่มเท่านั้น เมื่อถึงเวลานั้นเกษตรกรจะสามารถกำหนดราคาที่เป็นธรรม คุ้มค่าต่อการลงทุน” รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว