“ดร.เซปิง” แถลงซัดแหลกพิธีกรดัง นำเสนอรายการกล่าวหาทำศัลยกรรมหน้าผี เปิดคลิปหลักฐานมัดคู่กรณี แหกตา ที่แท้ติ่งหูหาย หน้าเบี้ยว, จมูกเบี้ยว หน้าผีตั้งแต่ก่อนมาทำศัลยกรรมแล้ว
จากกรณีที่รายการหนึ่งที่มีพิธีกรชื่อดังเป็นผู้ดำเนินรายการ ได้ออกอากาศเทปศัลยกรรมหน้าผี ผู้ร่วมรายการ 8 คน แจ้งความกล่าวหา “ดร.เซปิง ไชยศาส์น” ประธานโครงการเฟซออฟ ศัลยกรรมใบหน้าจากหน้าคนให้ กลายเป็นหน้าผี ตำรวจบุกโครงการเฟซออฟดำเนินคดีกับ ดร.เซปิง สร้างความเสียหายทางธุรกิจนับ 100 ล้านบาทนั้น
ล่าสุดวันนี้ ดร.เซปิง ไชยศาส์น พร้อมด้วย “สุรชัย สมบัติเจริญ” และ “ดร.จำนงค์ ไชยมงคล” ทนายความ ก็ได้เปิดแถลงข่าวที่โครงการเฟซออฟ เปิดหลักฐานเด็ดเป็นคลิปสัมภาษณ์ของคู่กรณีทั้ง 8 ที่ได้ให้สัมภาษณ์กับโครงการ ก่อนจะทำการผ่าตัดศัลยกรรม
โดยคลิปดังกล่าวตัดสลับกับคำสัมภาษณ์ในรายการดังกล่าว ที่กล่าวหาว่า โครงการเฟซออฟ ได้ทำให้ใบหน้าเสียโฉมจนกลายเป็น หน้าผี ติ่งหูหาย , หน้าเบี้ยว จมูกเบี้ยว ฯลฯ กับคลิปที่คู่กรณีทั้ง 8 ได้ให้สัมภาษณ์กับโครงการไว้ก่อนที่จะทำการ ศัลยกรรม ซึ่งทั้ง 8 คนต่างยืนยันว่า ใบหน้าได้รับความเสียหายมาแล้ว ก่อนที่จะเข้าร่วมโครงการ และให้โครงการแนะนำโรงพยาบาลให้เพื่อแก้ไขความผิดปกติดังกล่าว ซึ่ง ดร.เซปิง ก็ได้เปิดใจถึงการแถลงข่าวครั้งนี้ว่า..
“ที่ผ่านมาเราต้องทนเจ็บปวดกับสังคมมากๆ กับคำพิพากษาของสังคมว่า ดร.เซปิง เป็นคนหลอกลวงและฉ้อโกงประชาชน กลุ่มผู้เข้าร่วมโครงการได้ไปออก รายการ และได้พูดกล่าวหาว่า ดร.เซปิง ทำร้ายพวกเขาจนกลายเป็นหน้า ผี บางคนก็บอกว่าหน้าเบี้ยว จมูกไม่เท่ากัน หน้าเป็นตะปุ่มตะป่ำ ต้องใช้ผมปิดหน้า น้ำหนักผอมจนตัวเล็กผิดปกติเหลือ 38 กก. แล้วเดี๋ยวความจริงเราจะได้ฟังไปพร้อมๆ กัน ก็จะขออนุญาตเปิดหลักฐานความจริงให้ได้ชมเดี๋ยวนี้เลย เป็นคลิปที่ถูกกล่าวหา ในรายการดังและคลิปที่คู่กรณีได้มาถ่ายไว้ก่อนผ่าตัด”
“อยากให้ประเทศไทยช่วยกันสนับสนุน ศัลยกรรมของเราไม่อยากให้ทำลาย กันและกันเองในประเทศของเรา (เสียงสั่น) เราจะสู้เขาไม่ได้ นั่นคือความตั้งใจจริงๆ ค่ะ ซึ่งในส่วนของคุณสุรชัยเร็วๆ นี้เราก็กำลังจะมีการผ่าตัดรอบที่สามค่ะ อยากหนุ่ม ทั้งหน้า โดยครั้งนี้จะมีการเสริมจมูกและทำซิกแพ็ค ปกติแล้วผู้ชายทั่วไปที่อายุไม่ เยอะกล้ามเนื้อท้องแข็งแรงก็ทำซิกแพคได้เลยนะคะ แต่อันนี้ต้องเตรียมร่างกายก่อน เพราะมีรายละเอียดการผ่าอีก 10 กว่ารายการค่ะ”
ทนายเผยที่ผ่านมาปิดเงียบ ไม่ยอมเปิดเผยหลักฐานคลิปนี้เพราะต้องการ ไปใช้ในชั้นศาล แต่ได้รับความเสียหายอย่างมากจำต้องตัดบางส่วนออกมาเพื่อให้ สังคมได้รับรู้ความจริง
“จริงๆ พวกนี้เป็นภาพทางคดีนะครับ แต่พอมันมีปัญหาอย่างนี้ผมก็เลย อนุญาตให้เปิดเผยได้บ้าง และมีภาพที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนไม่น้อยนะครับ อย่างน้อย ก็จะได้ให้สื่อเห็นว่าความจริงมันคืออะไร เพราะกว่ากระบวนการจะถึงที่สุด มันต้องใช้ เวลา 3-5 ปี บางคดีเป็น 10 ปี ก็เลยคิดว่า เมื่อวันนี้เรามีความจริงอยู่บางสิ่งบางอย่างก็ควรที่จะให้สื่อมวลชนได้เห็น สื่อมวลชนจะได้เอาไปประกอบว่าใครพูดอะไร และความจริงคืออะไร ในมุมคดีก็ต้องสู้กันไป อย่างการกล่าวหาว่าฉ้อโกงประชาชน ถ้าดูหลักฐานแล้วมันฉ้อโกงตรงไหน ในเมืองไทยนี่ก็กล่าวหาไว้ก่อน คนเสียหายก็เสียหายไปแล้ว ผมก็มีความมั่นใจว่าความยุติธรรมนั้นเราสามารถพิสูจน์ได้”
ด้าน “สุรชัย สมบัติเจริญ” ก็ได้กล่าวถึงการทำศัลยกรรมครั้งนี้ว่า มีความสุข ในการทำศัลยกรรมให้ตัวเองดูดีขึ้น มั่นใจ ดร.เซปิง ยืนยัน
“จากครั้งแรกมาก็ได้เปลี่ยนชีวิตเราได้หลายๆ อย่างเมื่อ 3 ปีที่แล้ว จากวันนั้น จนถึงวันนี้ น้องดร.เซปิง ก็ให้คำแนะนำที่ดีนะครับ ครั้งนี้ก็มาผ่าตัดอีกครั้งเพื่อให้มัน กระชับขึ้นกว่าเก่าและดูดีกว่าเก่า ก็ทำให้เรามีความสุขและเราแฮปปี้ สำหรับข่าวที่ เกิดขึ้นก็รู้สึกเป็นห่วงว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอได้ดูคลิปได้เห็นความจริงแล้ว ยังไงเราก็ หนีความจริงไปไม่พ้นนะครับ แล้วก็ตกใจในเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ในการเข้าไปลงตรวจจับ ก็ทำให้เรารู้สึกเป็นห่วงคนที่เขาไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ไม่ได้เป็นคนฆ่า คนตาย ไม่ได้ค้ายาเสพติด ไม่ได้ค้าประเวณี แต่ถูกสังคมทำเหมือนเป็นอาชญากร
วันนี้ก็อยากให้ทุกคนได้ทราบความจริง ผมก็เคยถามว่า ทำไมไม่เอาข้อเท็จจริงให้สังคมเขารู้ เขาก็บอกว่าสงสารคนที่ออกมาพูดเท็จ แต่ผมก็บอกว่าบางครั้งเรา ก็จำเป็นเหลือเกินที่จะต้องเอาความจริงออกมาให้สังคมได้รับทราบ ไม่อย่างนั้นก็จะ ถูกรังแกอยู่อย่างนี้ตลอดเวลา ผมว่ามันอาจจะมีอะไรเบื้องหลังอยู่ข้างในนะครับ อันนี้ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละท่านก็แล้วกัน ผมคิดว่าวันนี้เป็นวันที่หลายๆ ท่านได้ รับทราบ รู้ข่าวความเป็นจริงที่อยากนำเสนอให้ทุกๆ ท่านได้ทราบถึงที่มาที่ไปกันจาก วันนั้นจนถึงวันนี้ครับ ที่ผ่านมาผมก็เห็นว่าหลายๆ ท่านที่ประสบความสำเร็จจากความสุขที่ได้รับการดูแลจากน้องด็อกเตอร์ ก็ไม่ต่างอะไรกับผมเหมือนกัน พอผมกลับมาอีก ครั้งท่านก็ดูแลตลอด”
โดยในครั้งนี้สุรชัยได้ทำการผ่าตัดยุบโหนกเสริมโหนกแก้ม เติมไขมันขมับ ข้างซ้าย เติมไขมันขมับข้างขวา เติมไขมันบริเวณหน้าผาก เพื่อให้ใบหน้ามีมิติและ มีความละมุนมากขึ้นดูหนุ่มขึ้น และกำลังจะเข้ารับการผ่าตัดเสริมจมูก และทำศัลยกรรมซิกแพค โดยในครั้งนี้จะต้องมีการผ่าตัดถึง 13 จุด กำหนดผ่าตัดสิ้นเดือน สิงหาคมนี้
โดยคลิปดังกล่าวตัดสลับกับคำสัมภาษณ์ในรายการดังกล่าว ที่กล่าวหาว่า โครงการเฟซออฟ ได้ทำให้ใบหน้าเสียโฉมจนกลายเป็น หน้าผี ติ่งหูหาย , หน้าเบี้ยว จมูกเบี้ยว ฯลฯ กับคลิปที่คู่กรณีทั้ง 8 ได้ให้สัมภาษณ์กับโครงการไว้ก่อนที่จะทำการ ศัลยกรรม ซึ่งทั้ง 8 คนต่างยืนยันว่า ใบหน้าได้รับความเสียหายมาแล้ว ก่อนที่จะเข้าร่วมโครงการ และให้โครงการแนะนำโรงพยาบาลให้เพื่อแก้ไขความผิดปกติดังกล่าว ซึ่ง ดร.เซปิง ก็ได้เปิดใจถึงการแถลงข่าวครั้งนี้ว่า..
“ที่ผ่านมาเราต้องทนเจ็บปวดกับสังคมมากๆ กับคำพิพากษาของสังคมว่า ดร.เซปิง เป็นคนหลอกลวงและฉ้อโกงประชาชน กลุ่มผู้เข้าร่วมโครงการได้ไปออก รายการ และได้พูดกล่าวหาว่า ดร.เซปิง ทำร้ายพวกเขาจนกลายเป็นหน้า ผี บางคนก็บอกว่าหน้าเบี้ยว จมูกไม่เท่ากัน หน้าเป็นตะปุ่มตะป่ำ ต้องใช้ผมปิดหน้า น้ำหนักผอมจนตัวเล็กผิดปกติเหลือ 38 กก. แล้วเดี๋ยวความจริงเราจะได้ฟังไปพร้อมๆ กัน ก็จะขออนุญาตเปิดหลักฐานความจริงให้ได้ชมเดี๋ยวนี้เลย เป็นคลิปที่ถูกกล่าวหา ในรายการดังและคลิปที่คู่กรณีได้มาถ่ายไว้ก่อนผ่าตัด”
“อยากให้ประเทศไทยช่วยกันสนับสนุน ศัลยกรรมของเราไม่อยากให้ทำลาย กันและกันเองในประเทศของเรา (เสียงสั่น) เราจะสู้เขาไม่ได้ นั่นคือความตั้งใจจริงๆ ค่ะ ซึ่งในส่วนของคุณสุรชัยเร็วๆ นี้เราก็กำลังจะมีการผ่าตัดรอบที่สามค่ะ อยากหนุ่ม ทั้งหน้า โดยครั้งนี้จะมีการเสริมจมูกและทำซิกแพ็ค ปกติแล้วผู้ชายทั่วไปที่อายุไม่ เยอะกล้ามเนื้อท้องแข็งแรงก็ทำซิกแพคได้เลยนะคะ แต่อันนี้ต้องเตรียมร่างกายก่อน เพราะมีรายละเอียดการผ่าอีก 10 กว่ารายการค่ะ”
ทนายเผยที่ผ่านมาปิดเงียบ ไม่ยอมเปิดเผยหลักฐานคลิปนี้เพราะต้องการ ไปใช้ในชั้นศาล แต่ได้รับความเสียหายอย่างมากจำต้องตัดบางส่วนออกมาเพื่อให้ สังคมได้รับรู้ความจริง
“จริงๆ พวกนี้เป็นภาพทางคดีนะครับ แต่พอมันมีปัญหาอย่างนี้ผมก็เลย อนุญาตให้เปิดเผยได้บ้าง และมีภาพที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนไม่น้อยนะครับ อย่างน้อย ก็จะได้ให้สื่อเห็นว่าความจริงมันคืออะไร เพราะกว่ากระบวนการจะถึงที่สุด มันต้องใช้ เวลา 3-5 ปี บางคดีเป็น 10 ปี ก็เลยคิดว่า เมื่อวันนี้เรามีความจริงอยู่บางสิ่งบางอย่างก็ควรที่จะให้สื่อมวลชนได้เห็น สื่อมวลชนจะได้เอาไปประกอบว่าใครพูดอะไร และความจริงคืออะไร ในมุมคดีก็ต้องสู้กันไป อย่างการกล่าวหาว่าฉ้อโกงประชาชน ถ้าดูหลักฐานแล้วมันฉ้อโกงตรงไหน ในเมืองไทยนี่ก็กล่าวหาไว้ก่อน คนเสียหายก็เสียหายไปแล้ว ผมก็มีความมั่นใจว่าความยุติธรรมนั้นเราสามารถพิสูจน์ได้”
ด้าน “สุรชัย สมบัติเจริญ” ก็ได้กล่าวถึงการทำศัลยกรรมครั้งนี้ว่า มีความสุข ในการทำศัลยกรรมให้ตัวเองดูดีขึ้น มั่นใจ ดร.เซปิง ยืนยัน
“จากครั้งแรกมาก็ได้เปลี่ยนชีวิตเราได้หลายๆ อย่างเมื่อ 3 ปีที่แล้ว จากวันนั้น จนถึงวันนี้ น้องดร.เซปิง ก็ให้คำแนะนำที่ดีนะครับ ครั้งนี้ก็มาผ่าตัดอีกครั้งเพื่อให้มัน กระชับขึ้นกว่าเก่าและดูดีกว่าเก่า ก็ทำให้เรามีความสุขและเราแฮปปี้ สำหรับข่าวที่ เกิดขึ้นก็รู้สึกเป็นห่วงว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอได้ดูคลิปได้เห็นความจริงแล้ว ยังไงเราก็ หนีความจริงไปไม่พ้นนะครับ แล้วก็ตกใจในเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ในการเข้าไปลงตรวจจับ ก็ทำให้เรารู้สึกเป็นห่วงคนที่เขาไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ไม่ได้เป็นคนฆ่า คนตาย ไม่ได้ค้ายาเสพติด ไม่ได้ค้าประเวณี แต่ถูกสังคมทำเหมือนเป็นอาชญากร
วันนี้ก็อยากให้ทุกคนได้ทราบความจริง ผมก็เคยถามว่า ทำไมไม่เอาข้อเท็จจริงให้สังคมเขารู้ เขาก็บอกว่าสงสารคนที่ออกมาพูดเท็จ แต่ผมก็บอกว่าบางครั้งเรา ก็จำเป็นเหลือเกินที่จะต้องเอาความจริงออกมาให้สังคมได้รับทราบ ไม่อย่างนั้นก็จะ ถูกรังแกอยู่อย่างนี้ตลอดเวลา ผมว่ามันอาจจะมีอะไรเบื้องหลังอยู่ข้างในนะครับ อันนี้ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละท่านก็แล้วกัน ผมคิดว่าวันนี้เป็นวันที่หลายๆ ท่านได้ รับทราบ รู้ข่าวความเป็นจริงที่อยากนำเสนอให้ทุกๆ ท่านได้ทราบถึงที่มาที่ไปกันจาก วันนั้นจนถึงวันนี้ครับ ที่ผ่านมาผมก็เห็นว่าหลายๆ ท่านที่ประสบความสำเร็จจากความสุขที่ได้รับการดูแลจากน้องด็อกเตอร์ ก็ไม่ต่างอะไรกับผมเหมือนกัน พอผมกลับมาอีก ครั้งท่านก็ดูแลตลอด”
โดยในครั้งนี้สุรชัยได้ทำการผ่าตัดยุบโหนกเสริมโหนกแก้ม เติมไขมันขมับ ข้างซ้าย เติมไขมันขมับข้างขวา เติมไขมันบริเวณหน้าผาก เพื่อให้ใบหน้ามีมิติและ มีความละมุนมากขึ้นดูหนุ่มขึ้น และกำลังจะเข้ารับการผ่าตัดเสริมจมูก และทำศัลยกรรมซิกแพค โดยในครั้งนี้จะต้องมีการผ่าตัดถึง 13 จุด กำหนดผ่าตัดสิ้นเดือน สิงหาคมนี้