"อีสท์ เวสท์ ซีด" ครบรอบ 35 ปี เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ "Go Grow" ใหม่พลิกวงการเมล็ดพันธุ์ผักไทย พร้อมประกาศเสริมทัพยกระดับผักพื้นบ้านไทย ในปี 60 นี้ หากพูดถึงธุรกิจเมล็ดพันธุ์ในเมืองไทย หลายคนคงคิดว่าเป็นธุรกิจที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไร แต่หากมองลงไปถึงเกษตรกรผู้ปลูกพืชผักที่เป็นอาหารหล่อเลี้ยงทุกคนในประเทศแล้ว เมล็ดพันธุ์ถือเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับแรกเลยทีเดียว เพราะเมล็ดพันธุ์คือจุดเริ่มต้นของผลิตผลพืชผักเหล่านั้น และเป็นตัวแปรสำคัญที่จะตอบได้ว่าผลผลิตของเกษตรกรนั้นจะออกผลงอกเงยได้ตามที่ต้องการหรือไม่ หากเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ไม่มีคุณภาพแล้ว สิ่งที่ตามมาก็คือผลผลิตต่อไร่น้อย หรือได้ผลผลิตคุณภาพต่ำราคาขายไม่ดี มีผลกระทบให้รายได้ของเกษตรน้อย และต้นทุนการผลิตสูงตามมา บริษัทอีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ผักอันดับหนึ่งของประเทศไทยและในเอเชีย ภายใต้แบรนด์ “เมล็ดพันธุ์ผักตราศรแดง” ซึ่งในปี 2560 นี้ บริษัทได้ครบรอบ 35 ปี ตลอดระยะเวลาในการดำเนินกิจการที่ผ่านมาบริษัทมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับเกษตรกรในทุกระดับ โดยเฉพาะในระดับรากหญ้า บริษัทมีเจ้าหน้าที่กระจายเพื่อให้คำปรึกษาด้านการปลูกผัก แก้ปัญหา และให้ความช่วยเหลือเกษตรครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย และด้วยคุณภาพเมล็ดพันธุ์ที่บริษัทได้ทุ่มเทการวิจัย และการคัดเลือกสายพันธุ์อย่างจริงจัง เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ตรงต่อความต้องการของตลาด และได้ผลผลิตต่อไร่ดี มีความทนทานต่อสภาวะอากาศ โรคและแมลงต่างๆ จึงทำให้ “เมล็ดพันธุ์ผักตราศรแดง” ครองใจเกษตรกรไทยเป็นอันดับ 1 และไว้ใจในการเลือกใช้เมล็ดพันธุ์ของบริษัทมาตลอด 35 ปี  นายวิชัย  เหล่าเจริญพรกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด นายวิชัย เหล่าเจริญพรกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด เผยถึง การเติบโตของธุรกิจเมล็ดพันธุ์ผักของประเทศไทย ซึ่งในปี 2560 นี้ มีมูลค่าตลาดถึง 2,100 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบย้อนกลับไป 5 ปีที่แล้ว ตลาดขยายตัวขึ้นมากกว่า 15% (เฉลี่ยเติบโต 3% ต่อปี) เนื่องจากการความต้องการบริโภคผักของตลาดซึ่งเป็นอาหารหลักของคนไทยเพิ่มสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และในปี 2560 นี้เอง อีสท์ เวสท์ ซีด ยังคงมีความเชื่อมั่นว่าปีนี้บริษัทยังคงรักษาความเป็นผู้นำยอดขายอันดับหนึ่งในตลาดเมล็ดพันธุ์ผักเหมือนที่ผ่านมา กลยุทธ์ที่สำคัญที่ทำให้เราประสบความสำเร็จในปี 2559 ที่ผ่านมา บริษัทได้ทำการรับมือปัญหาภัยแล้งที่เป็นผลกระทบใหญ่ต่อการชะลอการปลูกของเกษตรกรในระดับมหภาค ด้วยการออกแคมเปญ “พืชน้ำน้อย จากร้อยสู่ล้าน” หรือ “Grow with the Drought” เพื่อส่งเสริมเกษตรกรให้หันมาปลูกผักบางชนิดที่ใช้น้ำปริมาณน้อยทดแทนเพื่อเป็นทางเลือกของเกษตรกรและสร้างรายได้ให้เกษตรกร และถือว่าบริษัทประสบความสำเร็จในแคมเปญนี้เป็นอย่างมาก ทำให้ยอดขายในปี 2559 ได้สูงทะลุเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งมากกว่าปี 2558 ถึง 13% และสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ถึง 5% ทำให้ยอดขายในปี 2559 ที่ผ่านมา เป็นปีที่บริษัทต้องจารึกว่า เป็นปีที่สามารถทำยอดขายได้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ สำหรับปี 2560 เป็นปีที่ อีสท์ เวสท์ ซีด จะมีกลยุทธ์ทางการตลาดที่เข้มข้นตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น เริ่มต้นจากการแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น 3 กลุ่มที่ชัดเจน ได้แก่ กลุ่มเกษตรกรปลูกผักมืออาชีพ หรือเพื่อการค้า (Professional Farming) กลุ่มเกษตรกรขนาดย่อม (Home Farming) และกลุ่มปลูกผักรับประทานในครัวเรือน (Home Gardening) ซึ่งในปี 2559 ที่ผ่านมา บริษัทมีสัดส่วนยอดขายส่วนใหญ่ถึง 85% ในกลุ่มปลูกผักเพื่อการค้า โดยมีสินค้าหลักคือ กลุ่มแพ็กเกจแบบกระป๋องและแบบถุงใหญ่ และมียอดขาย 15% ในกลุ่มซองเล็ก ซึ่งเป็นยอดขายที่มาจากกลุ่มเกษตรกรขนาดย่อม และ กลุ่มปลูกผักรับประทานในครัวเรือนรวมกัน ซึ่งใน 2 กลุ่มหลังนี้ บริษัทได้ตัดสินใจทำการตลาดอย่างจริงจังในปี 2560 นี้ เนื่องจากมองเห็นแนวโน้มการเติบโตของสินค้ากลุ่มซองเล็กอย่างต่อเนื่อง มากถึง 10% เมื่อเทียบปีที่ผ่านมา (2559) กับปีก่อนหน้า (2558) ด้วยการออกสินค้าใหม่ “ผลิตภัณฑ์ Go Grow” ที่ตั้งเป้าให้เป็นหัวหอกสำคัญในเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั้งสองกลุ่มนี้ “กลุ่มผลิตภัณฑ์ Go Grow” ถือเป็นการพลิกประวัติศาสตร์ผลิตภัณฑ์เมล็ดพันธุ์ในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ศรแดงเป็นรายแรกที่ออกผลิตภัณฑ์ที่มีคู่มือวิธีการปลูก การให้ปุ๋ย และการป้องกันโรคและแมลงแบบเข้าใจง่ายๆ แนะนำอยู่ข้างซอง พร้อมดีไซน์รูปแบบซองที่มีความทันสมัย ตอบโจทย์กลุ่มเกษตรกรขนาดย่อม และกลุ่มปลูกรับประทานในครัวเรือนที่ไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการปลูกเพียงพอ และรวมทั้งกลุ่มคนเมืองที่กำลังนิยมหันมาปลูกผักเพื่อบริโภคในครัวเรือนในเวลานี้ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยในปีแรกนี้ บริษัทวางแผนแนะนำสินค้าเมล็ดพันธุ์ผักจำนวน 115 ชนิดออกสู่ตลาด และนอกจากนี้ ในโอกาสที่ปี 2560 อีสท์ เวสท์ ซีด ได้ครบรอบ 35 ปี บริษัทมีความตั้งใจที่จะเฉลิมฉลองและตอบแทนคนไทย ด้วยการช่วยอนุรักษ์สายพันธุ์ผักพื้นบ้านที่เป็นผักท้องถิ่นในพื้นที่ต่างๆของประเทศไทย ให้คนไทยได้มีโอกาสปลูกรับประทานจากเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานที่เชื่อถือได้ของศรแดง บริษัทจึงได้เปิดตัวแนะนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ “ผักพื้นบ้าน” ใหม่เข้ามาเพิ่มเติม โดยวางแผนแนะนำ 35 สายพันธุ์ เพื่อฉลอง 35 ปี ในปีนี้ และในโอกาสที่บริษัทอีสท์ เวสท์ ซีด ครบรอบ 35 ปี บริษัทได้เฉลิมฉลองก้าวย่างสำคัญภายใต้สโลแกน “เพาะด้วยใจ... ให้ยั่งยืน” หรือ “Growing Opportunity”มร.เบิร์ท แวน เดอร์ เฟลท์ซ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด ได้กล่าวย้ำวิสัยทัศน์ว่า พันธกิจสำคัญของบริษัทตลอดระยะเวลา 35 ปีที่ผ่านมา คือ การเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรรายย่อย ระดับรากหญ้าของประเทศ ที่เป็นผู้ผลิตอาหารมากถึง 80% ของสัดส่วนอาหารทั้งหมดของโลกทุกวันนี้ และเกษตรกรรายย่อยเหล่านี้เองก็ประสบปัญหาและความท้าทายที่ยากขึ้นทุกวัน การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยเหล่านี้จึงเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก บริษัทจึงมีความตั้งใจที่จะส่งมอบเมล็ดพันธุ์ที่ดีที่สุด ที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศ โรค และแมลง รวมทั้งมีคุณค่าทางโภชนาการ เพื่อสนับสนุนเกษตรกรเหล่านี้ และในโอกาสที่บริษัทครบรอบ 35 ปีนี้ เราตั้งใจจะเป็นบริษัทผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ผักเขตร้อนที่มีความสำคัญบริษัทหนึ่งในโลกที่จะมีส่วนช่วยในการผลักดันเศรษฐกิจ สร้างคุณค่าทางสังคม และเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดให้กับเกษตรกรรายย่อยเหล่านี้ตลอดไป