“บิ๊กตู่” ยัน อีก 4 ปีรัฐบาลพร้อมเดินหน้าการศึกษา ฝากทุกคนรักสามัคคี ระบุคนไทยมีความอดทนน้อยลง คิดแต่ว่าประชาธิปไตยทำอะไรก็ได้ ย้ำประเทศไทยไม่ได้เป็นประชาธิปไตยน้อยกว่าใคร ถ้าน้อยคงไม่ปล่อยให้พูดจาเลอะเทอะ ท้าต่อให้เป็น “ลี เซียนลุง” หากไทยยังขัดแย้งก็เอาไม่ไหว เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นำคณะผู้แทนประเทศไทยฯ ผู้บริหารและคณะทำงาน เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อรายงานผลการแข่งขันคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า การได้พบกับเด็กทุกคนทำให้มีความสุข หากเปรียบเป็นพีระมิดต้องถือเป็นคนที่มีสมอง มีความตั้งใจ มีขีดความสามารถอยู่บนยอดพีระมิด แต่ฐานพีระมิดยังกว้างอยู่ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการกำลังแก้ไข โดยรัฐบาลกำลังดำเนินงานทุกปัญหา เพราะเป็นผู้รับผิดชอบในการแก้ไข ขอเพียงความเข้าใจและกำลังใจให้กับรัฐบาล และรัฐมนตรี “ ส่วนการเมืองเป็นเรื่องของการเมือง เป็นเรื่องของการพูดแล้วไม่รับผิดชอบอะไร ซึ่งควรจะต้องเปลี่ยนแปลงได้แล้ว ผมขอยืนยันว่า 4 ปีต่อไปนี้ของรัฐบาล จะทำงานอย่างเต็มที่โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา หลายอย่างต้องแก้ไข มีกติกาและกฎหมายที่ซ้ำซ้อน ทำให้การแก้ไขปัญหาล่าช้า ขอฝากให้ทุกคนรักและสามัคคีกัน ทุกวันนี้คนไทยมีความอดทนน้อย ความอดทนที่จำกัด ไม่ชอบอะไรที่รอนาน เพราะคิดแต่ว่าโลกประชาธิปไตยจะทำอะไรก็ได้ แต่แล้วจะได้อะไรกลับมา หากไม่มีหลักการก็ไม่ได้อะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน ประชาธิปไตยทุกอย่างมีทั้งดีและไม่ดี อาจจะดีที่สุดในโลกปัจจุบัน แต่ก็มีปัญหามากพอสมควรในการบริหารประเทศ ไม่ใช่ว่าประเทศเรามีประชาธิปไตยน้อยกว่าใคร ถ้าหากน้อยคงไม่มีใครมาพูดจาเลอะเทอะอยู่แบบนี้ และนี่คือประชาธิปไตย สื่ออยากเขียนอะไรก็เขียน ดังนั้นขออย่าเบื่อหน้าลุง เพราะสื่อจะพาดข่าวหน้า 1 ทุกวัน ขอร้องอย่าเบื่อกัน เพราะผมก็ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้ดีที่สุด เพราะถือเป็นอนาคตของประเทศ โดยต้องรู้จักแบ่งปัน ไม่เห็นการทุจริตเป็นเรื่องปกติหากตัวเองได้ประโยชน์ เพราะหากเป็นเช่นนั้น ประเทศล่มจม การนำตัวอย่างประเทศมหาอำนาจมาใช้ต้องมองด้วยว่า ที่ผ่านมาประเทศเหล่านั้นผ่านอะไรมาบ้าง อาจมีการทำสงคราม รบรากัน ขณะที่ประเทศไทยก็มีการรบกันด้วยปาก ทะเลาะเบาะแว้งกันและทำให้ตนเองอารมณ์เสียอยู่ทุกวัน แม้วันนี้จะพยายามอารมณ์ดี มีคนข้างนอกเข้ามาช่วย เช่น โฆษกรัฐบาล มาช่วยเป็นปากเป็นเสียงให้ ซึ่งตนก็จะไม่พยายามไปโต้เถียงเพราะขี้เกียจพูด พูดมา 5 ปีแล้วเหนื่อย จากนั้น นายกฯ ถามเด็ก ๆ ว่า เคยมาเยี่ยมทำเนียบรัฐบาลหรือยัง อยากให้ไปเยี่ยมชม วันหน้าจะได้มาเป็นนายกฯ ถ้าไหว ก็ช่วยนายกฯหน่อย “เพราะประเทศไทย ต่อให้เป็นนายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ก็เอาไม่ไหว หากความเกลียดชังยังอยู่ประเทศไทยจะเดินต่อไปไม่ได้ โดยเฉพาะความพยายามที่จะให้รัฐบาลเป๋ไปเป๋มา ความน่าเชื่อถือก็จะหายไป ผมยืนยันว่า ผมทำทุกอย่างถูกต้องทุกประการ เราไม่อาจไปก้าวล่วงใด ๆ ได้ทั้งสิ้น เพราะถือว่าเป็นการกระทำของนายกฯ กับทั้งครม.ตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นอย่ากังวลไม่ต้องห่วง"