แม้การแต่งตั้งโยกย้ายทหาร ครั้งนี้จะมีการเปลี่ยน ผบ.ทอ.แค่คนเดียวแต่ก็เป็นโผที่น่าจับตามองยิ่ง เพราะถือเป็นโผแรกในมือของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ควบนั่ง รมว.กลาโหม เองเป็นครั้งแรก แม้จะมี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ อดีตรมว.กลาโหม ที่เหลือเก้าอี้ รองนายกรัฐมนตรี เก้าอี้เดียว ยังช่วยจัดโผทหาร อยู่เบื้องหลัง เช่นเดิมก็ตาม แต่การตัดสินใจท้ายสุด จะอยู่ที่ตัวพล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นทั้งรมว. กลาโหมและนายกรัฐมนตรี ในการมาเป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ครั้งแรก ในฐานะ รมว.กลาโหม เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้หารือนอกรอบ กับ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ หรือที่เรียกว่า เป็น “วงเล็ก” กันก่อน เฉพาะ 7 คน ในนามคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับนายพลของกระทรวงกลาโหม ตาม พระราชบัญญัติจัดระเบียบกระทรวงกลาโหมปี 2551 หรือที่เรียกว่า “7 เสือกลาโหม” ที่มี คือ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ รมว.กลาโหม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช. กลาโหม “บิ๊กณัฐ” พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม “บิ๊กกบ” พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก “บิ๊กลือ” พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ “บิ๊กต่าย” พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผู้บัญชาการทหารอากาศ เพื่อหารือบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะลงนาม ท้ายคำสั่งร่วมกันท้ายบัญชีรายชื่อ เพื่อส่งให้พล.อ.ประยุทธ์ ไปพิจารณา เพื่อนำสู่ขั้นตอนการตรวจสอบ และนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป ที่ถูกจับตามากที่สุดคือ ในส่วนของกองทัพบก ที่ พล.อ.อภิรัชต์ ได้เสนอชื่อ “บิ๊กบี้” พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ แม่ทัพภาค1 ขึ้นเป็น พล.อ. ตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก. เพื่อเตรียมจ่อคิวเป็น ผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ ต่อจาก พล.อ.อภิรัชต์เองที่จะเกษียณ ตุลาคม 2563 โดย พล.ท.ณรงค์พันธ์ มีอายุราชการถึงตุลาคม 2566 นั่นหมายถึง จะนั่งเป็นผบ.ทบ.ยาว ถึง 3 ปี แล้วเสนอชื่อ “บิ๊กหนุ่ย” พล.ท.ธรรมนูญ วิถี แม่ทัพน้อยที่ 1 ขึ้นเป็น แม่ทัพภาคที่ 1 คนใหม่ โดยทั้ง พล.ท.ณรงค์พันธ์ และ พล.ท.ธรรมนูญ เป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 22 ด้วยกัน และเป็นนายทหารที่ผ่านการฝึก “หลักสูตร ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์” มาแล้ว ขึ้นอยู่กับ “หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภ รักษาพระองค์ 904” (ฉก.ทม.รอ.904) ที่เรียกว่า ทำให้ “เป๊ะ” มีระเบียบวินัย การฝึกท่าทางต่างๆ เป็นไปตามแบบพระราชทาน ทั้งนี้ “หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภ รักษาพระองค์ 904” (ฉก.ทม.รอ.904) มี พล.อ.อภิรัชต์ ซึ่งเป็นนายทหารพิเศษประจำ กรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เป็น ผู้บังคับหน่วย ฉก.ทม.รอ.904 นอกจากนี้ ยังมี นายทหารสายเป๊ะ ทม.รอ. ที่ขยับขึ้นมาจ่อ คือ “เสธ.อ๊อบ” พล.ต.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์(ผบ.พล.1รอ.) ที่กำลังหลักของ ฉก.ทม.รอ.904 ขึ้น เป็นรองแม่ทัพภาค 1 และถูกคาดหมายว่า จะขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ในอนาคต และถึงเป็น ผบ.ทบ. ในอนาคตเลยทีเดียว และเสนอชื่อ “เสธ.เนี๊ยว” พ.อ.ทรงพล สาดเสาเงิน รองผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ขึ้นเป็น ผบ.พล.1 รอ. คนต่อไป แทน รวมทั้ง การดัน “บิ๊กช้าง” พล.ต.เอกรัตน์ ช้างแก้ว รองผบ.รร.นายร้อย จปร. ที่เป็นนายทหาร สายเป๊ะนี้ ขึ้นเป็น ผบ.รร.นายร้อย จปร. ที่น่าจับตามองไม่แพ้ก้น คือ พล.อ.อภิรัชต์ ยังเสนอชื่อ “บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ เตรียมทหาร21 ที่สนิทสนมกันเหมือนเพื่อน ให้ข้ามห้วยไปที่กองบัญชาการกองทัพไทย. เป็นเสนาธิการทหาร เพื่อเตรียมจ่อขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดในปลายปีหน้า แทน พล.อ.พรพิพัฒน์ ที่จะเกษียณตุลาคม 2563 ทั้งนี้พล.อ.เฉลิมพลยังดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 ที่มี พล.อ. อภิรัชต์ เป็น ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 นั่นเอง พล.อ.เฉลิมพล เป็นนายทหารม้า ที่เคยเป็น ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.ม.2รอ.) ซึ่งเป็นหน่วยขุมกำลังและเป็นขุมกำลังปฏิวัติสำคัญหนึ่ง ของกองทัพบก อายุราชการถึง ตุลาคม 2566 แม้ว่า พล.อ.พรพิพัฒน์ เคยเล็งเสนอชื่อ คนใน ทัพไทย อย่าง “บิ๊กเบิร์ด” พล.อ.ปริพัฒน์ ผลาสินธุ์ รองเสนาธิการทหาร (ตท.20) ให้ขึ้น แข่งเป็นเสนาธิการทหาร เพื่อจองคิวชิงเก้าอี้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในปีหน้าก็ตาม แต่ดูเหมือนพลังของพล.อ.อภิรัชต์ ที่ใกล้ชิด กับพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร จะมากกว่า อีกทางด้วยเหตุผลเรื่องการปรับโครงสร้างกองทัพทั้งกองทัพบกและกองทัพไทยให้สอดรับกับแนวทางพระราชทานในด้านต่างๆ จึงทำให้ชื่อ ของ พล.อ.เฉลิมพลนายทหารสายเป๊ะ เป็น เต็งหนึ่ง ในส่วนของ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ มีเพียง พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ที่เกษียณราชการ เพียงคนเดียวใน 30 กันยายนนี้ จึงมีการเสนอชื่อ พล.อ.อ.มานัต วงวาทย์ เสนาธิการทหารอากาศ ขึ้นเป็น ผบ.ทอ. คนใหม่ โดยเขาเป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 20 ของ พล.อ.อภิรัชต์ ผบ.ทบ. ด้วย ขณะที่กองทัพเรือมีการเตรียมวางตัว ผู้บัญชาการทหารเรือคนใหม่ในปีหน้าที่จะมาแทน พล.ร.อ.ลือชัย ที่จะเกษียณตุลาคม 2563 ไว้ 2 คนที่ล้วนเป็นเพื่อนเตรียมทหาร 20 ของ พล.อ.อภิรัชต์ คือ “บิ๊กอุ้ย” พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน เสนาธิการทหารเรือ จะขึ้นเป็น ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ เพื่อจ่อคิวชิงเก้าอี้ผู้บัญชาการทหารเรือ กับ “บิ๊กแก๋ง” พล.ร.ท.สิทธิพร มาศเกษม ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 3 จะขึ้นมาเป็น เสนาธิการทหารเรือ ขณะที่ในกระทรวงกลาโหม “บิ๊กตู่” พล.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา ผช.ผบ.ทบ. จะข้ามมาเป็น รอง ปลัดกระทรวงกลาโหม ส่วน “บิ๊กอั๋น” พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา รองปลัดกลาโหม ที่จะย้ายมาเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ( สมช,) คนใหม่ แทนพล.อ.วัลลภ รักเสนาะ ที่จะเกษียณ 30 กันยายนนี้ ทั้งนี้คาดว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยลงตัวโดยไม่ต้องมีการโหวต สู้กันใน 7 เสือกลาโหม รอดูฝีมือการจัดโผทหาร ของ พล.อ.ประยุทธ์ รมว.กลาโหม มือใหม่ ว่าจะมีเซอร์ไพรซ์หรือไม่โดยเฉพาะทีมงานหน้าห้อง รมว.กลาโหม