การท่าอากาศยานฮ่องกงกร้าว พร้อมจัดการเข้มกับม็อบบุกสนามบินอย่างเด็ดขาด หลังศาลไฟเขียว สั่งให้เป็นเขตคุ้มครองชั่วคราว ด้านยูเอ็นประณามตำรวจฮ่องกงใช้ยุทธวิธีต้องห้าม พร้อมจี้ทางการเร่งสอบ ขณะที่ เฉิน หลง เปิดใจสุดหดหู่กับเหตุชุมนุม ก่อนแสดงความหวังให้ความสงบคืนสู่เกาะ เมื่อวันที่ 14 ส.ค.62 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การท่าอากาศยานแห่งเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดเผยว่า ได้รับการอนุมัติตามคำสั่งของศาลท้องถิ่นฮ่องกง ให้ทางการท่าอากาศยานฯ สามารถสกัดบุคคลที่จะดำเนินการใดๆที่ผิดกฎหมายในการที่จะขัดขวาง หรือแทรกแซงการใช้บริการภายในท่าอากาศยานนานาชาติเช็กแลปก็อก ของฮ่องกง ตลอดจนพื้นที่อื่นๆ ในความดูแลของการท่าอากาศยานฯ ได้ รายงานข่าวแจ้งว่า การอนุมัติข้างต้น มีขึ้นภายหลังจากศาลท้องถิ่นฮ่องกง มีคำสั่งให้พื้นที่ของการท่าอากาศยานนานาชาติเช็กแลปก็อกของฮ่องกง ซึ่งเป็นท่าอากาศยานานาชาติที่พลุกพล่านมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็น “เขตคุ้มครองชั่วคราว” ในการพิจารณาเมื่อช่วงค่ำของวันอังคารที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง จำนวนหลายพันคน ได้บุกเข้าไปภายในท่าอากาศยานฯ ติดต่อถึง 2 ครั้งแล้ว ระหว่างการชุมนุมประท้วงต่อรัฐบาลฮ่องกง ตลอดช่วง 10 สัปดาห์เป็นต้นมา จนส่งผลให้บรรดาสายการบินต่างๆ ในท่าอากาศยานต้องระงับการให้บริการนับร้อยเที่ยวบิน พร้อมกันนี้ การท่าอากาศยานฯ ยังได้เรียกร้องและมีคำเตือนต่อกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงว่า อย่าเข้ามาชุมนุมประท้วงในเขตพื้นที่ของท่าอากาศยานฯ โดยเด็ดขาด มิเช่นนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด โดยทางการท่าอากาศยานฯ จะไม่ยอมความ ขณะเดียวกัน ทางด้านปฏิกิริยาจากองค์การระหว่างประเทศ ได้แก่ สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นโอเอชซีเอชอาร์ โดยนางมีเชลล์ บาเชเลต์ ในฐานะข้าหลวงใหญ่ฯ ออกมาประณามต่อการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงต่อกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง ข้าหลวงใหญ่ของยูเอ็นโอเอชซีเอชอาร์ ยังระบุด้วยว่า มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกง ใช้ “ยุทธวิธีต้องห้าม” ในการจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง จำนวนไปสู่การบาดเจ็บอย่างรุนแรงต่อกลุ่มผู้ชุมนุมฯ เช่น การยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมฯ แทนที่จะยิงในแบบวิถีโค้ง ก็ใช้วิธียิงแบบวิถีตรง จนทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมฯ ได้รับบาดเจ็บอย่างร้ายแรง และขอเรียกร้องให้ทางการฮ่องกงสอบสวนต่อปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุมฯ ขณะที่ ปฏิกิริยาจากบุคคลผู้มีชื่อเสียงของฮ่องกง เช่น แจ็คกี ชาน หรือเฉินหลง ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีว่า รู้สึกหดหู่กับสถานการณ์ในฮ่องกง โดยส่วนตัวของเขาแล้ว ทั้งฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ เปรียบเสมือนบ้านของตน พร้อมกับแสดงความหวังว่า สถานการณ์จะเข้าสู่ความสงบโดยเร็ว และยังระบุด้วยว่า ไม่เห็นด้วยต่อกลุ่มผู้ชุมนุมกระทำต่อธงชาติฮ่องกง ที่ตัวเขาภาคภูมิใจ