วันที่ 14 ส.ค.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีเหตุ พ่อของลูกสาววัย 14 ปี ร้องเรียน บก.ป. กองบัญชาการสอบสวนกลาง ว่าบุตรสาวถูกผู้รับเหมาก่อสร้างพร้อมคนงานรุมข่มขืนมานานกว่าครึ่งปี โดยผลคดียังไม่มีความคืบหน้าได้รับรายงานจาก บก.ป. กองบัญชาการสอบสวนกลาง ว่าเมื่อวันที่ 13 ส.ค. 62 ผู้เสียหายพร้อมบิดาได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาเป็นชาย 5 คน และหญิง 2 คน ในความผิดฐาน ”โดยปราศจากเหตุอันสมควร พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา มารดาหรือผู้ปกครอง เพื่อการอนาจาร,กระทำชำเราเด็กซึ่งอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และพาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร” ซึ่งเกิดเหตุในหลายท้องที่ โดยพนักงานสอบสวน บก.ป. ได้สอบปากคำผู้กล่าวหา (ซึ่งเป็นบิดาของผู้เสียหายเบื้องต้น) และส่งมอบพยานหลักฐาน สำนวนการสอบสวนให้พนักงานสอบสวน บก.ปคม. ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ในส่วนประเด็นที่บิดาผู้เสียหาย มาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ กรณีบุตรสาวผู้เสียหายออกจากบ้านและไม่สามารถติดต่อได้นั้น ซึ่งได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐาน โดยเกรงว่าจะเกิดอันตราย และเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวบุตรสาว ต่อมาภายหลังบิดาผู้เสียหาย(ผู้กล่าวหา) สามารถติดต่อผู้เสียหายได้แล้ว โดยพบว่าไปอาศัยอยู่กับอดีตนายจ้างของบิดา ที่ อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา ซึ่งภายหลังทราบว่าได้ถูกอดีตนายจ้าง และคนงานรับเหมาก่อสร้าง 4 ราย ข่มขืนกระทำชำเรา สำหรับกรณีที่บิดาผู้เสียหายได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ในพื้นที่ สน.ประเวศนั้น ได้สอบปากคำผู้กล่าวหา (บิดาผู้เสียหาย) ให้เจ้าหน้าที่สืบสวนลงพื้นที่ที่เกิดเหตุเพื่อพิสูจน์ทราบและสืบสวนติดตามตัวคนร้าย โดยในวันนี้ 14 ส.ค. 62 พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ได้นัดผู้เสียหายเข้ามาสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพ พนักงานอัยการและนักสังคมสงเคราะห์และผู้เกี่ยวข้องตามขั้นตอนของกฎหมายคดีนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้เสียหายเป็นเยาวชน และมีความผิดเกิดขึ้นเกี่ยวพันกันในหลายท้องที่ ตลอดจนอาจจะเข่าข่ายในความผิดฐานค้ามนุษย์ ซึ่งต้องสอบสวนปากคำร่วมกับพนักงานอัยการและนักสังคมสงเคราะห์ และรอผลรับรองจากแพทย์ เพื่อนำมาประกอบคดี โดยในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถพิสูจน์ทราบตัวผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว อยู่ในระหว่างการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเพื่อนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว คดีนี้ถือเป็นเหตุสะเทือนขวัญ เพราะเป็นการใช้ความรุนแรงกระทำทางเพศกับเด็ก โดยได้เน้นย้ำให้การดำเนินการสืบสวนสอบสวน ด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ดำเนินการตามหลักกฎหมาย อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์หรือพยานหลักฐานที่ชี้ถึงตัวผู้กระทำความผิดเป็นสำคัญ และต้องสามารถนำผู้ก่อเหตุมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็ว และให้ผู้บังคับบัญชาควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อเยียวยาความเสียหาย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนและสังคม