โรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 โตต่อเนื่อง-เปิดเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา 3 โครงการ ผลักดันรายได้ “CKPower”ไตรมาส 2 กำไรเพิ่ม 26.5%
นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน)(CKPower)ชื่อย่อหลักทรัพย์ “CKP” เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 CKPower มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,312 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,965 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักมาจากรายได้ของโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 ที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาอีกจำนวน 3 โครงการ
ทั้งนี้ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นเป็น 83.7 ล้านบาท คิดเป็นกำไรเพิ่มขึ้น 26.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าในไตรมาสนี้จะมีการหยุดเดินเครื่องเพื่อซ่อมบำรุงใหญ่ตามแผน ของโรงไฟฟ้าบางปะอินโคเจนเนอเรชั่น โครงการ 1(BIC1)ก็ตาม
โดยนอกจากผลประกอบการที่เติบโตขึ้นแล้ว ในเดือนพ.ค.62 บริษัทได้ดำเนินการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในบริษัท เซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี จำกัด อีกร้อยละ 5.33 คิดเป็นมูลค่าการลงทุนเพิ่มเติมรวม 681.5 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นทางอ้อมในโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 จากร้อยละ 42.0 เป็นร้อยละ 46.0
ขณะเดียวกันตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน CKPower ได้เปิดดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา เพิ่มเติมอีกรวม 4 โครงการคือ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ บางเลน จ.นครปฐม กำลังการผลิตติดตั้ง 0.97 เมกะวัตต์,โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พุทธมณฑลสาย 5 จ.นครปฐม กำลังการผลิตติดตั้ง 0.97 เมกะวัตต์,โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มหาชัย จ.สมุทรสาคร กำลังการผลิตติดตั้ง 0.72 เมกะวัตต์และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร กำลังการผลิตติดตั้ง 0.52 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ในส่วนของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี ขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้ากว่า 99% โดยได้เริ่มจ่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อย่างเป็นทางการแล้ว โดยเครื่องที่ 1 เริ่มจ่ายไฟฟ้าตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และ ณ เดือนก.ค.62 ทางโครงการได้เริ่มเดินเครื่องแล้วรวมจำนวน 6 เครื่องจากทั้งหมด 7 เครื่อง ซึ่ง CKPower คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้าครบทั้งหมดได้ภายในเดือนส.ค.62 และเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ตามแผนในไตรมาสที่ 4 ของปี 62
โดยเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.62 บริษัทได้รับเงินจองซื้อหุ้นสามัญจากการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิ CKP-W1 จำนวน 3,565 ล้านบาท ส่งผลให้ฐานะทางการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก โดยบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวม (Net Interest-bearing Debt to Equity Ratio)อยู่ที่ 0.62 เท่า ณ สิ้นไตรมาส 2
สำหรับCKPower ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานประเภทต่างๆ 3 ประเภท จำนวน 13 โครงการ รวมขนาดกำลังการผลิตติดตั้งที่ 2,167 เมกะวัตต์ประกอบด้วย โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ 2 โครงการ ภายใต้ บริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 46% ถือผ่านบริษัทเซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี จำกัด ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 615 เมกะวัตต์ และบริษัทไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 37.5% ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 1,285 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม จำนวน 2 โครงการ ภายใต้ บริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ 65% ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 238 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ยังมีโครงการไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ 9 โครงการ ภายใต้ บริษัทบางเขนชัย จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 100% จำนวน 7 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 15 เมกะวัตต์ ภายใต้ บริษัท เชียงรายโซล่าร์ จำกัด ซึ่งบริษัท ถือหุ้น 30% จำนวน 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 8 เมกะวัตต์ และภายใต้บริษัท นครราชสีมา โซล่าร์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 30% จำนวน 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 6 เมกะวัตต์
ขณะเดียวกันตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน CKPower ได้เปิดดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา เพิ่มเติมอีกรวม 4 โครงการคือ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ บางเลน จ.นครปฐม กำลังการผลิตติดตั้ง 0.97 เมกะวัตต์,โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พุทธมณฑลสาย 5 จ.นครปฐม กำลังการผลิตติดตั้ง 0.97 เมกะวัตต์,โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มหาชัย จ.สมุทรสาคร กำลังการผลิตติดตั้ง 0.72 เมกะวัตต์และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร กำลังการผลิตติดตั้ง 0.52 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ในส่วนของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี ขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้ากว่า 99% โดยได้เริ่มจ่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อย่างเป็นทางการแล้ว โดยเครื่องที่ 1 เริ่มจ่ายไฟฟ้าตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และ ณ เดือนก.ค.62 ทางโครงการได้เริ่มเดินเครื่องแล้วรวมจำนวน 6 เครื่องจากทั้งหมด 7 เครื่อง ซึ่ง CKPower คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้าครบทั้งหมดได้ภายในเดือนส.ค.62 และเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ตามแผนในไตรมาสที่ 4 ของปี 62
โดยเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.62 บริษัทได้รับเงินจองซื้อหุ้นสามัญจากการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิ CKP-W1 จำนวน 3,565 ล้านบาท ส่งผลให้ฐานะทางการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก โดยบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวม (Net Interest-bearing Debt to Equity Ratio)อยู่ที่ 0.62 เท่า ณ สิ้นไตรมาส 2
สำหรับCKPower ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานประเภทต่างๆ 3 ประเภท จำนวน 13 โครงการ รวมขนาดกำลังการผลิตติดตั้งที่ 2,167 เมกะวัตต์ประกอบด้วย โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ 2 โครงการ ภายใต้ บริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 46% ถือผ่านบริษัทเซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี จำกัด ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 615 เมกะวัตต์ และบริษัทไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 37.5% ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 1,285 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม จำนวน 2 โครงการ ภายใต้ บริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ 65% ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 238 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ยังมีโครงการไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ 9 โครงการ ภายใต้ บริษัทบางเขนชัย จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 100% จำนวน 7 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 15 เมกะวัตต์ ภายใต้ บริษัท เชียงรายโซล่าร์ จำกัด ซึ่งบริษัท ถือหุ้น 30% จำนวน 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 8 เมกะวัตต์ และภายใต้บริษัท นครราชสีมา โซล่าร์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 30% จำนวน 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 6 เมกะวัตต์