"จาตุรนต์"แนะ"บิ๊กตู่"หยุดเฉไฉ หลังสภาพการคงอยู่รบ.กำลังหนักหน่วง ชี้ขาดความเป็นมืออาชีพแก้ปัญหา เร่งแก้ปัญหาให้ตรงจุด อย่าปล่อยให้ปัญหาร้ายแรงสะสมจนยากเกินกว่าใครแก้ได้ วันที่ 10 ส.ค.62 นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่า ขณะที่ปัญหาการคงอยู่ของรัฐบาลกำลังหนักหน่วงรุนแรง ดังที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ออกอาการ โดยมีคำพังเพยว่า "เริ่มต้นดี สำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง” แต่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์กลับอยู่ในสภาพ เริ่มต้นผิดพลาด ล้มเหลวไปแล้วครึ่งหนึ่ง ในขณะที่ปัญหาเศรษฐกกิจกำลังหนักหนาสาหัส ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่ประชาชนจะมีความคาดหวังสูงที่จะเห็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้งมาแก้ปัญหาได้ดีกว่าที่ผ่านมา ขณะนี้ดูเหมือนความคาดหวังต่อรัฐบาลกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว ถ้าสถานการณ์ยังเป็นอย่างนี้อยู่ต่อเนื่องไป ประชาชนอาจจะสิ้นหวังในเร็วๆนี้ก็ได้ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า แล้วก็เกิดการซ้ำเติมด้วยปัญหาความไม่สงบที่เกิดในกทม.ที่ศูนย์กลางการบัญชาการด้านความมั่นคงและสงบเรียบร้อยโดยตรง ซ้ำเติมด้วยการจัดการแบบไม่เป็นมืออาชีพ มุ่งผลทางการเมืองมากกว่าการแก้ปัญหาความไม่สงบ เพื่อความมั่นคงของรัฐบาลเองมากกว่าความมั่นคงของประเทศ จนไม่เป็นที่น่าเชื่อถือ และเรื่องนี้กำลังส่งผลกระทบร้ายแรงต่อการลงทุนทั้งจากต่างประเทศและในประเทศเอง นายจาตุรนต์ กล่าวว่า รัฐบาลนี้มีที่มาที่ไม่ชอบธรรม ตั้งแต่การอาศัย “รัฐธรรมนูญของพวกเรา” การใช้อำนาจและงบประมาณแผ่นดินเพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้ง การมีตัวช่วยจากการนับคะแนน การคำนวณจำนวนที่นั่งส.ส.จนในที่สุดก็ตั้งรัฐบาลได้ การเริ่มต้นที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงก็เกิดขึ้นแบบประเดประดังเต็มไปหมด ทั้งการถวายสัตย์ไม่ครบ การแถลงนโยบายโดยไม่ได้ระบุแหล่งที่มาของงบประมาณส่วนนโยบายที่แถลงก็กว้าง เลื่อนลอย ไม่มีอะไรชัดเจน เป็นนโยบายที่ไม่มีใครหรือพรรคใดรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนเลย ไม่มีวี่แววว่าจะตอบสนองความต้องการของประชาชน คนสำคัญในรัฐบาลนี้พูดถึงปัญหาของบ้านเมืองแบบโทษแต่คนอื่น โทษรัฐบาลสมัยนานมาแล้วไปจนถึงโทษประชาชนว่าไม่ร่วมมือ แต่กลับไม่เคยตอบคำถามว่า 5 ปีมานี้พวกตนทำไมไม่ทำทั้งๆที่มีอำนาจเต็ม ขณะนี้จึงมีความจำเป็นที่พล.อ.ประยุทธ์จะต้องรีบแก้ปัญหาต่างๆให้เร็วและตรงจุด อย่าเฉไฉ แถไปแถมาไปวันๆแล้วปล่อยให้ปัญหาร้ายแรงสะสมมากขึ้นๆอย่างที่เป็นอยู่ ซึ่งจะเป็นความเสียหายต่อประเทศชาติจนอาจจะยากเกินกว่าที่ใครจะแก้ได้