เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 62 ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก 5 บก.ป. พ.ต.ต.นิธิ ตรีสุวรรณ สว.กก.5 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายปรีชา หรือหนู ไทยโสภา อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 777 หมู่ 16 ต.วังสมบูรณ์ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ตามหมายจับศาลจังหวัดสระแก้วที่ 1639/46 ลงวันที่ 8 ธ.ค. 46 ข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" ได้ที่บ้านเลขที่ 128 หมู่ 9 ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.นครปฐม พ.ต.อ.เนติ กล่าวว่า นายปรีชา ผู้ต้องหา ได้ร่วมกับ นายสมหมาย ไทยโสภา และนายสมศักดิ์ เสรีไตรรัตน์ ปล่อยเงินกู้นอกระบบ โดยคิดดอกเบี้ยในอัตราเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 3 ต.วังสมบูรณ์ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่นั้นเป็นลูกหนี้ตามโครงการแก้ปัญหาความยากจน (กข.คจ.) เมื่อถึงกำหนดชำระหนี้ตามโครงการดังกล่าว ชาวบ้านจะยืมเงินจากกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปใช้หนี้ตามโครงการ โดยกลุ่มผู้ต้องหาจะคิดดอกเบี้ยในอัตราสูง และมักข่มขู่ชาวบ้านที่ไม่มีเงินชำระหนี้ พ.ต.อ.เนติ กล่าวต่อว่า จากนั้น นายสมจิตร แก้วมงคล อายุ 34 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ทราบเรื่องจึงพยายามเป็นตัวแทนชาวบ้านไปพูดคุยไกล่เกลี่ยกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 3 คนอยู่หลายครั้ง กระทั่งเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2544 เวลา 21.00 น. นายสมจิตร ได้ไปพูดคุยไกล่เกลี่ยกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ที่บริเวณหน้าสำนักงานบริษัท ส.บุญเหลือ หมู่ 3 ต.วังสมบูรณ์ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว แต่เกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ทำให้นายปรีชา ไม่พอใจใช้อาวุธปืนลูกซอง เบอร์ 12 ที่เตรียมมายิงขึ้นฟ้า 1 นัด และยิงใส่ นายสมจิตร อีก 1 นัด จนเสียชีวิตแล้วแยกย้ายกันหลบหนี จากนั้น นายสมหมาย และ นายสมศักดิ์ ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนนายปรีชา ยังคงหลบหนีคดีอยู่เรื่อยมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบสืบทราบว่านายปรีชา ได้มาประกอบอาชีพเป็นช่างซ่อมรถ และทำไร่อ้อยใน จ.นครปฐม จึงนำกำลังจับกุมได้หลังหลบหนีคดีมากว่า 18 ปี จากการสอบสวน นายปรีชา ผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงแจ้งข้อหาตามหมายจับ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ดำเนินคดีต่อไป