สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรเคียงคู่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรในพื้นที่ต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ไม่ว่าจะต้องทรงลุยน้ำลุยป่า ขึ้นเขาทุรกันดาลยากลำบากแค่ไหนก็มิทรงย่อท้อที่จะเสด็จฯไปเพราะราษฎรของพระองค์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เหล่านั้นเดือดร้อนทุกข์ยาก ขาดแคลนปัจจัยหลักสำคัญการดำรงชีวิตการพัฒนาคุณภาพชีวิต เสด็จฯไปทรงแก้ไขบรรเทาความทุกข์ความเดือดร้อนอันเกิดจากความแล้นแค้นและได้พระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อความอยู่ดีมีสุขของพสกนิกรมาอย่างต่อเนื่องด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันเกิดจากพระราชหฤทัยห่วงใย เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2562 ในวันนี้ ในนามของหนังสือพิมพ์สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์ ปวงข้าพระพุทธเจ้าขอถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงให้ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง มีพระชนมพรรษายิ่งยืนนานด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่เปรียบมิได้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงพระราชสมภพ เมื่อวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2475 ทรงมีพระนามเดิมว่า หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร โดยทรงเป็นพระธิดาองค์ใหญ่ของหม่อมเจ้านักขัตรมงคล (ภายหลังได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็น พลเอกพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ) กับ หม่อมหลวงบัว กิติยากร สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรชาวไทย ด้วยพระวิริยะ อุตสาหะ และขันติธรรม ด้วยพระราชหฤทัยที่ทรงเมตตาและทรงห่วงใยในประชาราษฎร์และแผ่นดินเป็นสำคัญ นับแต่ทรงได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯสถาปนาเป็นสมเด็จพระบรมราชินีในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียนทุกข์สุขของราษฎรในทั่วทุกภูมิภาค โดยทรงงานเคียงคู่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทำให้ทรงทราบถึงปัญหาต่างๆ ของราษฎร และได้ทรงริเริ่มโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในการช่วยเหลือราษฎร รวมทั้งทรงส่งเสริมงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ราษฎรในหลากหลายด้าน ดังพระราชดำรัสถึงสาเหตุที่ต้องทรงงานหนัก พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย พระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2522 ความตอนหนึ่งว่า “...ความจริงที่ข้าพเจ้ามีกำลังใจและกำลังกายที่จะปฏิบัติหน้าที่รับใช้บ้านเมือง ก็เนื่องด้วยเหตุนึกถึงคำของพ่อที่สอนมาตั้งแต่เล็กๆ และก็เมื่อแต่งงาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงสอนตลอดมาว่า แผ่นดินนี้มีคุณ มีบุญคุณแก่ชีวิตของพวกเรามากมายนัก เพราะฉะนั้นชีวิตที่เกิดมานี้อย่าได้ว่างเปล่า จงตอบแทนให้รู้สึกตัวเสมอว่าเป็นหนี้บุญคุณ... พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และข้าพเจ้ารู้สึกว่า ทำงานเท่าไรก็ยังไม่คุ้ม ยังไม่สมกับที่บรรพบุรุษของเผ่าไทยทั้งหลายผู้มีพระคุณ ผู้ที่ได้ปกป้องยึดผืนแผ่นดินนี้ได้มาตลอด แล้วดูตามประวัติศาสตร์แล้ว ท่านทั้งหลายได้ประสบความทุกข์ยากอย่างมากมาย ท่านทั้งหลายก็แน่วแน่ในปณิธานที่จะทำนุบำรุงผืนแผ่นดินนี้ไว้ให้เป็นแผ่นดินที่ร่มเย็น เป็นแผ่นดินที่ทุกคนมีอิสรเสรีที่จะมีความเชื่อถือในศาสนาใดก็ได้ มีความสงบสุขอยู่ในศาสนาของตน โดยที่ไม่มีการข่มเหงรังแกบีบคั้น อันนี้เป็นลักษณะประเสริฐของบรรพบุรุษของไทยทั้งหลาย ซึ่งข้าพเจ้าอยากขอให้ทุกท่านนำคำพูดของข้าพเจ้าไปคิดดูให้ดี แล้วก็จะเห็นว่าข้าพเจ้านั้นไม่ได้ดีวิเศษอะไรเลย เพียงแต่ว่าเมื่อนึกถึงพระคุณอย่างนี้แล้ว ก็ต้องยิ่งพยายามที่จะทำให้สุดความสามารถ...” หลักการทรงงานตามแนวพระราชดำริ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจครอบคลุมหลายด้าน แต่ไม่ว่าจะเป็นด้านใด ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความห่วงใยในประชาราษฎร์และแผ่นดินไทย และนับเป็นการสร้างประโยชน์สุขแก่คนไทยประเทศชาติทั้งสิ้น ดังพระราชดำรัสพระราชทานแก่คณะกรรมการอาสาสมัครและอาสาสมัครสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2510 ความตอนหนึ่งว่า “...เรามีความสุขแต่ลำพัง โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของคนอีกหลายคนที่แวดล้อมเราอยู่นั้นไม่ได้ ผู้มีเมตตาจิตหวังประโยชน์ส่วนรวมย่อมรู้จักแบ่งปันความสุขเพื่อผู้อื่น และพร้อมที่จะช่วยบรรเทาความทุกข์ของผู้อื่นตามกำลังและโอกาสเสมอ...” พระราชดำรัสพระราชทานในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย พระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2535 ความตอนหนึ่งว่า “...เราเรียกแผ่นดินนี้ว่าแผ่นดินแม่ เพราะแผ่นดินนี้เป็นที่เกิด และเลี้ยงดูคนไทยมากว่า 700 ปี ควรที่เราทั้งหลายจะบำรุงรักษาแผ่นดินให้คงความอุดมสมบูรณ์ไว้ ถ้าเรามัวแต่ตักตวงผลประโยชน์จากผืนดิน... สักวันหนึ่งแผ่นดินแม่คงตายจากเราไป โดยไม่มีวันหวนกลับคืนมา คงเหลือไว้ซึ่งพื้นดินที่แห้งแล้ง สิ้นสภาพจากการเป็นดินที่จะทำการเพาะปลูกได้ คงจะมีแต่ฝุ่นตลบไปหมด เสมือนแผ่นดินที่ไร้วิญญาณไร้ความหมายใดๆ ต่อชีวิตบนผืนโลก ขณะนี้ เรายังมีเวลาและโอกาสที่จะฟื้นฟูรักษาแผ่นดินแม่...” ด้วยพระราชปณิธานข้างต้น สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจและเสด็จฯไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อทรงรับฟังทุกข์สุขของราษฎรที่มาเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จ และได้พระราชทานแนวทางแก้ไขปัญหา มุ่งเน้นที่การพัฒนาอาชีพและพัฒนาคน อันเป็นการช่วยเหลือในระยะยาว จึงเกิดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานให้จัดตั้งทั่วประเทศ เพื่อเป็นต้นแบบและแหล่งเรียนรู้ปฏิบัตินำสู่การพัฒนาระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น เริ่มด้วยโครงการส่งเสริมศิลปาชีพ อันเป็นการส่งเสริมอาชีพและขณะเดียวกันยังอนุรักษ์และส่งเสริมงานศิลปะพื้นบ้านที่มีความงดงามหลายสาขา นอกจากจะเป็นการเสริมรายได้ให้แก่เกษตรกรและราษฎรผู้มีรายได้น้อยแล้ว ยังช่วยอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านซึ่งเป็นภูมิปัญญาของคนไทย และพัฒนาคุณภาพของฝีมือให้ดียิ่งขึ้น โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริป่ารักน้ำ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี อ. ปราณบุรี จ. ประจวบคีรีขันธ์ โครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงและฟาร์มตัวอย่าง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ. นราธิวาส โครงการธนาคารอาหารชุมชนตามพระราชดำริ (Food bank) “หนึ่งในพระราชดำริ จากป่าสู่คนเพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน” สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงยึดมั่นในพระราชปณิธานที่ว่า " ทุกข์สุขของทวยราษฎร์ คือทุกข์สุขของพระองค์เอง" จึงเสด็จพระราชดำเนินไปในทุกถิ่นฐานที่ประชาชนได้รับทุกข์เข็ญโดยมิได้ทรงคำนึงถึงภยันตราย จนสามารถกล่าวได้ว่า " ไม่มีที่แห่งหนใดบนผืนแผ่นดินนี้ที่พระองค์มิได้เสด็จฯไปพระราชทานพระเมตตา "ด้วยเหตุนี้ราษฎรจึงเทิดทูนพระองค์ว่าทรงเป็น " แม่ของแผ่นดิน " ผู้ทรงเป็นรัตนนารีที่มีพระราชจริยวัตรงามเลิศ จากพระราชกรณียกิจที่ทรงบำเพ็ญด้วยพระวิริยะอุตสาหะอย่างต่อเนื่องยาวนาน ได้สะท้อนให้เห็นถึงน้ำพระราชหฤทัยอันเปี่ยมล้นที่ทรงรักประชาชนและรักประเทศชาติมาตลอดจนปัจจุบัน ฯลฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและของรัฐบาล ดังพระราชดำรัสพระราชทานในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย พระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2522 ความตอนหนึ่งว่า “...บ้านเมืองของเรานี้ยังมีคนที่ยากจนและรอความช่วยเหลืออีกมากมายก่ายกอง เพราะฉะนั้นเมื่อใครทำอะไรได้เราก็ควรจะทำเพื่อช่วยสนับสนุนให้ประเทศชาติและรัฐบาลมีความมั่นคงยิ่งขึ้น แปลว่าช่วยกันคนละไม้คนละมือ โดยที่ไม่เกี่ยงกัน ช่วยกันทำความดี...” เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงขอถวายพระพรชัยมงคลให้พระองค์ทรงพระเจริญและทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงสถิตเป็นร่มโพธิ์ทองของปวงพสกนิกรไทยตราบนานเท่านาน ขอทรงพระเจริญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่หนังสือพิมพ์สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์