ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ที่ตำบลนาดี จ.สมุทรสาคร” นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร พร้อมด้วยจนท.สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดฯ เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลนาดี ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.นาดี ได้ร่วมกับ นายโรเจอร์ โลหนันท์ เลขาธิการสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย (AGA) พร้อมเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิ The Voive เข้าช่วยเหลือสุนัข หลังรับแจ้งว่า ถูกกักขังอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ในเขตเทศบาลตำบลนาดี โดยไม่มีเจ้าของดูแลมานาน ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบเพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้น ตามที่สมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย (AGA) ระบุได้รับแจ้ง ปรากฏว่า เจอสุนัข 6 ตัว ถูกล่ามโซ่และกักขังไว้กระทั่งสภาพร่างกายผ่ายผอมอย่างมาก เพราะมีสภาพหิวโซ เนื้อตัวยังเป็นโรคผิวหนัง ซึ่งมีทั้งเห็บและหมัดทั่วลำตัว ซึ่งหลังมีการเจรจากันระหว่างทางเจ้าของบ้าน ว่าจะนำสุนัขทุกตัวไปบำบัดรักษา ทั้งนี้ ถ้าหากปล่อยไว้สัตว์ที่ไม่สบายและหิวโซจนตายล้มไปในที่สุด
ส่วนเจ้าของบ้านยังจะมีความผิดตามไปด้วย โทษฐานทรมานและทารุณกรรมสัตว์เลี้ยงตามสภาพที่พบเห็น จากนั้นเจ้าของจึงค่อยยินดีให้มูลนิธิหรือทางสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย นำสุนัขทั้ง 6 ตัว ที่ถูกล่ามโซ่กักขังไว้นำไปได้ เนื่องจากสาเหตุตนเองก็ไม่สามารถที่จะดูแลพวกเหล่านี้ได้ แม้จะรักทุกตัวก็ตาม
นายวุฒิพงษ์ นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร เปิดเผยว่า นอกจากนี้ยังพบว่าที่บ้านพักอาศัยที่อยู่ข้างกันนั้น ก็ผู้เลี้ยงสุนัขอีก 2 ตัว และปล่อยให้สัตว์ที่เลี้ยงไว้ให้มีในสภาพผอมโซ สภาพเนื้อตัวใกล้เคียงกับสุนัขบ้านรายแรก แม้จะไม่รุนแรงเท่ากัน แต่ก็มีโรคผิวหนัง ซึ่งก็ถือเป็นความผิดได้เช่นกัน ดังนั้นจึงขอนำตัวไปดูแลรักษาจนกว่าสุนัขทั้ง 8 ตัว จะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และหายขาดจากโรคผิวหนัง ซึ่งถ้าสุนัขทุกตัวกลับมามีสุขภาพร่างกายที่ดีแข็งแรงแล้ว ทั้งนี้หากเจ้าของประสงค์จะขอรับกลับมาดูแลก็สามารถกระทำได้ภายหลัง ซึ่งจะได้ไม่ถูกข้อหาทรมานสัตว์ต่อไป
ส่วนเจ้าของบ้านยังจะมีความผิดตามไปด้วย โทษฐานทรมานและทารุณกรรมสัตว์เลี้ยงตามสภาพที่พบเห็น จากนั้นเจ้าของจึงค่อยยินดีให้มูลนิธิหรือทางสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย นำสุนัขทั้ง 6 ตัว ที่ถูกล่ามโซ่กักขังไว้นำไปได้ เนื่องจากสาเหตุตนเองก็ไม่สามารถที่จะดูแลพวกเหล่านี้ได้ แม้จะรักทุกตัวก็ตาม
นายวุฒิพงษ์ นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร เปิดเผยว่า นอกจากนี้ยังพบว่าที่บ้านพักอาศัยที่อยู่ข้างกันนั้น ก็ผู้เลี้ยงสุนัขอีก 2 ตัว และปล่อยให้สัตว์ที่เลี้ยงไว้ให้มีในสภาพผอมโซ สภาพเนื้อตัวใกล้เคียงกับสุนัขบ้านรายแรก แม้จะไม่รุนแรงเท่ากัน แต่ก็มีโรคผิวหนัง ซึ่งก็ถือเป็นความผิดได้เช่นกัน ดังนั้นจึงขอนำตัวไปดูแลรักษาจนกว่าสุนัขทั้ง 8 ตัว จะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และหายขาดจากโรคผิวหนัง ซึ่งถ้าสุนัขทุกตัวกลับมามีสุขภาพร่างกายที่ดีแข็งแรงแล้ว ทั้งนี้หากเจ้าของประสงค์จะขอรับกลับมาดูแลก็สามารถกระทำได้ภายหลัง ซึ่งจะได้ไม่ถูกข้อหาทรมานสัตว์ต่อไป