เตือนอย่ายืมยากัน เสี่ยงอันตราย กำชับทุกรพ.ต้องมียาเพียงพอให้บริการ ระบุกระบวนการตรวจสอบเอกสารจัดซื้อจะแล้วเสร็จใน 1-2 เดือนนี้ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดก.สาธารณสุขกล่าวถึงกรณีที่โรงพยาบาลกมลาไสย ยาขาดแคลนจนคนไข้ต้องยืมยากันกินว่า ได้รับรายงานจากผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 7 ว่าโรงพยาบาลกมลาไสยมียาเพียงพอสำหรับรักษาผู้ป่วยในพื้นที่ ในส่วนผู้ป่วยที่ออกมาบอกว่ามีปัญหาขาดยานั้น จะได้ให้ผู้ตรวจฯลงพื้นที่ติดตามผู้ป่วยโรคเรื้อรังเป็นรายบุคคล รวมทั้งให้โรงพยาบาลจัดทำแผนจัดซื้อยาระยะสั้นและระยะยาวให้เพียงพอในการรักษา กรณีข้อร้องเรียนสงสัยมีการทุจริตจัดซื้อยาได้เก็บเอกสารหลักฐานตั้งแต่ต้นปี 2562 ขณะนี้อยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมการสอบวินัยกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด หากพบมีการกระทำผิดจะลงโทษทางวินัยและอาญาขั้นเด็ดขาด “ผมมั่นใจว่า โรงพยาบาลมีความพร้อม มียาเพียงพอ สำหรับผู้ป่วยทุกคน หากผู้ป่วยยาหมดควรกลับมาปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาล เพื่อขอรับยาเพิ่ม ไม่ควรยืมยากันเอง เพราะจะเกิดอันตราย ยาที่ยืมนั้นอาจไม่ตรงกับโรค หรือเป็นยาเก่าที่หมดอายุ” ด้านนพ.อิทธิพล สูงเเข็ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 7 กล่าวว่า จากการลงพื้นที่กับสาธารณสุขนิเทศก์  มีนโยบาย สั่งการให้ โรงพยาบาลทั้ง 77 แห่งในเขตสุขภาพต้องมียาเพียงพอต่อการให้บริการประชาชน กรณีโรงพยาบาลกมลาไสย ได้มีแผนดำเนินการดังนี้ 1.ให้โรงพยาบาลกมลาไสยจัดซื้อยา หากยาตัวใดที่ไม่สามารถจัดซื้อเองได้ เบื้องต้นให้ยืมจากโรงพยาบาลแม่ข่าย 3 แห่ง คือ โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ โรงพยาบาลสมเด็จ และโรงพยาบาลยางตลาด 2.ให้โรงพยาบาลกมลาไสยจัดซื้อยาตามระเบียบพัสดุ โดยด่วนเพื่อนำยาไปใช้คืนให้โรงพยาบาลกาฬสินธุ์และเครือข่าย เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากปัญหาการจัดซื้อยา “ในส่วนกระบวนการตรวจสอบเอกสารการจัดซื้อที่มีปัญหาจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1-2เดือน พร้อมลงพื้นที่ร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และอสม. ตรวจสอบในเรื่องการขาดยา ว่าไม่ได้รับความสะดวกในเรื่องใด ซึ่งมีข้อมูลผู้ป่วยโรคเรื้อรังทุกคนอยู่แล้ว” นพ.อิทธิพลกล่าว