เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 ส.ค. ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนเป็นประธานประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีเหตุระเบิดทั่วกรุง โดยมี พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.เสนิต สําราญสํารวจกิจ ผบก.น.1 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบก.สส.บช.น. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้า มีรายงานข่าวว่าทาง พ.ต.อ.ปริญญา เหลืองอุทัย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง พร้อมพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานขออยุมัติหมายจับมือวางระเบิด 2 ราย ตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ก่อเหตุวางระเบิดภายในศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ โดยรายแรกเป็นชาย อายุ 2-30 ปี สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขายาวสีน้ำตาล รองเท้าผ้าใบสีดำ สวมหน้ากากอนามัย ใส่หมวกแก๊ปสีขาว สะพายกระเป๋าสีดำคาดที่ลำตัว และกระเป๋าสีเขียวคล้องไว้ที่ไหล่ซ้าย ที่ก่อเหตุวางระเบิดจุดที่ 1 และจุดที่ บริเวณสวนหย่อมหน้าอาคารบี คนร้ายรายที่ 2 เป็นชาย อายุ 20-30 ปี สวมหน้ากากอนามัย เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงสีเทาดำ รองเท้าผ้าใบสีดำ สะพายกระเป๋าสีดำที่หลัง และยังถือกระเป๋าสีส้มวางระเบิดจุดที่ 3 และจุดที่ 4 บริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพไทย ห่างจากจุดระเบิดอาคารบี ประมาณ 200 เมตร ทั้งนี้ยังมีรายงานข่าวอีกว่าพนักงานสอบสวนสน.พญาไท อยู่ระหว่างการขออนุมัติหมายจับบุคคลตามภาพวงจรปิด ที่ลงมือก่อเหตุวางระเบิดเพลิงจนทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ ร้านค้าเสื้อผ้าย่านประตูน้ำจำนวน 3 จุด ประกอบด้วย 1.ตลาดไซด์วอร์ค​ ดีดีเฮาส์ ภายชอยในซอยเพชรบุรี​ 19 ทำให้มีร้านค้าได้รับความเสียหายจำนวน 60 แผง 2.ร้านขายเสื้อผ้า​ ร้าน​ "ฮ็อบ" และ 3.ร้าน "ปุ๋ย​ แฟชั่น" ชั้นล่างโรงแรมอินทรา รวมถึงห้องแถวที่อยู่ด้านหน้าตลาดเฉลิมลาภในส่วนสน.ยานนาวา ที่เกิดเหตุบริเวณ ทางลงประตู3 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ และอีก 2 จุด หน้าตึกมหานคร ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุระเบิดโดยพนักงานสอบสวนทั้ง 3 ท้องที่ได้นำพยานหลักฐานที่ได้มาอาทิ ภาพถ่าย(ที่จับภาพผู้ต้องสงสัยได้)ที่รวบรวมมาจากจุดต่างๆ เข้าประชุมในวันนี้ ภายหลังนการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง พล.ต.ท.สุวัฒน์ เปิดเผยว่า ในเร็วๆนี้น่าจะมีข่าวดีแต่จะมีการแถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่นั้นตนไม่รับปาก หากมีเหตุผลที่จำเป็นทางโฆษกตร.ก็คงจะแถลง อะไรที่จะแถลงได้ก็จะแถลง แต่ในส่วนปฏิบัติคงให้ข้อมูลอะไรมากไม่ได้ ส่วนจะมีการออกหมายจับใครหรือไม่นั้นในส่วนนี้เมื่อถึงเวลาก็จะบอก ขอให้มั่นใจว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งใจทำจนถึงขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก ส่วนของการรายงานความคืบหน้าให้ทางนายกรัฐมนตรีทราบ ส่วนนี้ก็คงต้องรายงานตามสายการบังคัญบัญชา ซึ่งผู้บังคับบัญชามีการรายงานอยู่แล้ว แต่ตนเองไม่ทราบในรายละเอียด ในส่วนของการปฏิบัติก็ทำกันอยู่ ซึ่งแยกกันอย่างชัดเจน ทั้งนี้การให้ข่าวกับพี่น้องประชาชนถ้าถึงจุดที่ทำได้ก็จะให้ข่าวอย่างแน่นอนตอนนี้ขอให้เชื่อมั่นการทำงานซึ่งทุกคนก็หวังเช่นนั้นเหมือนกัน ภายหลังให้สัม พนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องในคดี รวมถึงนายตำรวจที่ชำนาญการด้านการสืบสวนสอบสวน ได้ย้ายการประชุมจากห้องประชุมจากชั้น 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ลงมาที่ห้องประชุมชั้น 2