ป้าป่วยหลงลืม ออกเดินบนถนนถูกรถบรรทุกเหยียบเละดับสยองคาที่ ร่างกายถูกบดขยี้แหลกเป็นจุณ กลายเป็นเศษชิ้นเนื้อและซากกระดูกป่นกระจายเกลื่อนไปทั่วบริเวณไกลกว่า 100 เมตร ขณะกู้ภัยฯ เก็บรวบรวมส่งคืนให้แก่ญาติไปประกอบพิธีทางศาสนาได้แค่เพียงห่อผ้าเดียว สร้างความอนาถใจต่อผู้พบเห็น
เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 4 ส.ค.62 ร.ต.อ.พุฒิพงษ์ ชื่นชม รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังได้รับแจ้งมีคนเดินถนนถูกรถยนต์บรรทุกไม่ทราบชนิดเหยียบทับจนเสียชีวิต ที่บริเวณบนถนนสาย 314 ฉะเชิงเทรา-บางปะกง ก่อนถึงหน้าปั้มก๊าซ ปตท. เอ็นจีวี ด้านฝั่งขาออกมุ่งหน้า อ.บางปะกง ประมาณ 200 เมตร พื้นที่ ม.2 ต.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา
ที่เกิดเหตุพบภาพความสยดสยอง หลังร่างกายของผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกรถบรรทุกเหยียบทับนั้น ถูกบดขยี้เหยียบจนเละ มีเศษกระดูกและชิ้นเนื้อปลิวกระจัดกระจายเกลื่อนอยู่บนพื้นถนนเป็นระยะทางไกลกว่า 100 เมตร โดยเหลือเพียงเสื้อผ้าที่สวมใส่มาและผ้าห่ม ที่ญาติยังสามารถจดจำได้เท่านั้น ทราบชื่อต่อมา คือ นางขาร สีทะนนชัย อายุ 71 ปี ผู้ป่วยโรคหลงลืม ที่ออกจากบ้านพักมาเดินบนท้องถนนตั้งแต่ก่อนรุ่งสาง
จากการสอบถาม นางดวงสมร ไพรศาลผล อายุ 49 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 15 ม.11 ต.เมืองบัว อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด พร้อมสามี เล่าว่า มารดานั้นป่วยเป็นโรคความจำเสื่อม หลงลืม ได้เดินออกมาจากบ้านพัก ซึ่งเป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์บริเวณใกล้กับปากทางแยกเข้าวัดแสนภูดาษ ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 1 กม. ซึ่งตนพร้อมญาติมาเปิดเป็นอู่ซ่อมรถนั้น
โดยไม่มีใครทราบว่านางขาร นั้นออกมาเดินตั้งแต่เมื่อไหร่ จนมาได้รับแจ้งว่าผู้เสียชีวิตนั้นน่าจะเป็นมารดาของตนเอง เนื่องจากยังคงจดจำผ้าห่มและเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้ ซึ่งปกติมารดาของตนนั้นมักจะออกมาเดินอยู่แค่บริเวณแถวหน้าบ้านเท่านั้น โดยมีญาติๆ คอยช่วยกันดูและพากลับเข้าบ้าน ไม่เคยเดินออกมาไกลและข้ามถนนมาก่อน แต่มาในครั้งนี้ไม่ทราบว่าผู้เป็นมารดาจะเดินข้ามฝั่งถนนหรือไม่ จึงถูกรถบรรทุกเฉี่ยวชนและเหยียบจนร่างกายจนแหลกเละถึงขนาดนี้ จึงรู้สึกสงสารผู้เป็นมารดามาก นางดวงสมร กล่าว
ด้าน ร.ต.อ.พุฒิพงษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเป็นรถอะไรที่ขับชนผู้เสียชีวิต แต่ก่อนเกิดเหตุมีผู้พบเห็นว่าผู้ตายเดินอยู่บนกลางถนนเมื่อช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. จนมาถูกรถบรรทุกเฉี่ยวชนดังกล่าวและถูกผู้ใช้เส้นทางรายอื่นๆ ที่ขับผ่านเหยียบย่ำซ้ำจนมีชิ้นส่วนกระจัดกระจายเกลื่อน ซึ่งจะได้ทำการติดตามหารถบรรทุกคันก่อเหตุมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป ร.ต.อ.พุฒิพงษ์ กล่าว
ที่เกิดเหตุพบภาพความสยดสยอง หลังร่างกายของผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกรถบรรทุกเหยียบทับนั้น ถูกบดขยี้เหยียบจนเละ มีเศษกระดูกและชิ้นเนื้อปลิวกระจัดกระจายเกลื่อนอยู่บนพื้นถนนเป็นระยะทางไกลกว่า 100 เมตร โดยเหลือเพียงเสื้อผ้าที่สวมใส่มาและผ้าห่ม ที่ญาติยังสามารถจดจำได้เท่านั้น ทราบชื่อต่อมา คือ นางขาร สีทะนนชัย อายุ 71 ปี ผู้ป่วยโรคหลงลืม ที่ออกจากบ้านพักมาเดินบนท้องถนนตั้งแต่ก่อนรุ่งสาง
จากการสอบถาม นางดวงสมร ไพรศาลผล อายุ 49 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 15 ม.11 ต.เมืองบัว อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด พร้อมสามี เล่าว่า มารดานั้นป่วยเป็นโรคความจำเสื่อม หลงลืม ได้เดินออกมาจากบ้านพัก ซึ่งเป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์บริเวณใกล้กับปากทางแยกเข้าวัดแสนภูดาษ ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 1 กม. ซึ่งตนพร้อมญาติมาเปิดเป็นอู่ซ่อมรถนั้น
โดยไม่มีใครทราบว่านางขาร นั้นออกมาเดินตั้งแต่เมื่อไหร่ จนมาได้รับแจ้งว่าผู้เสียชีวิตนั้นน่าจะเป็นมารดาของตนเอง เนื่องจากยังคงจดจำผ้าห่มและเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้ ซึ่งปกติมารดาของตนนั้นมักจะออกมาเดินอยู่แค่บริเวณแถวหน้าบ้านเท่านั้น โดยมีญาติๆ คอยช่วยกันดูและพากลับเข้าบ้าน ไม่เคยเดินออกมาไกลและข้ามถนนมาก่อน แต่มาในครั้งนี้ไม่ทราบว่าผู้เป็นมารดาจะเดินข้ามฝั่งถนนหรือไม่ จึงถูกรถบรรทุกเฉี่ยวชนและเหยียบจนร่างกายจนแหลกเละถึงขนาดนี้ จึงรู้สึกสงสารผู้เป็นมารดามาก นางดวงสมร กล่าว
ด้าน ร.ต.อ.พุฒิพงษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเป็นรถอะไรที่ขับชนผู้เสียชีวิต แต่ก่อนเกิดเหตุมีผู้พบเห็นว่าผู้ตายเดินอยู่บนกลางถนนเมื่อช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. จนมาถูกรถบรรทุกเฉี่ยวชนดังกล่าวและถูกผู้ใช้เส้นทางรายอื่นๆ ที่ขับผ่านเหยียบย่ำซ้ำจนมีชิ้นส่วนกระจัดกระจายเกลื่อน ซึ่งจะได้ทำการติดตามหารถบรรทุกคันก่อเหตุมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป ร.ต.อ.พุฒิพงษ์ กล่าว