กฟภ.จับมือไปรษณีย์ไทย ยกเครื่องรถขนส่งไปรษณีย์ หันมาใช้รถ EV แทน เผยต้นทุนพลังงานแค่ กม.ละ 0.50 บาท ตีปิ๊บเรียกค่ายรถมาทดสอบคุณภาพ 2 เดือนก่อนเคาะประมูล นายจรัญ บุญยะคงรัตน์ ผอ.กองส่งเสริมอนุรักษ์พลังงาน เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากโครงการความร่วมมือระหว่าง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)กับบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด(ปณท)ที่เซ็นเอ็มโอยูร่วมกันศึกษาวิจัยด้านการประหยัดพลังงานของบริษัทไปรษณีย์ไทยใน 3 แนวทางคือ 1.ประหยัดพลังงานไฟฟ้าภายในสำนักงานไปรษณีย์ 2.นำพลังงานสะอาดคือ โซล่าร์เซลมาติดตั้งใข้งาน 3.ต้องการได้รถประหยัดพลังงาน หรือรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มาใช้ในการขนส่งในกิจการไปรษณีย์ ทั้งนี้ปัจจุบัน ปณท.มีสาขามากถึงกว่า 1 พันสาขาทั่วประเทศจำเป็นต้องใช้รถจำนวนมาก มีรถยนต์มากกว่า 3 พันคันและมอเตอร์ไซต์มากกว่า 1 หมื่นคัน และจากการที่มีปริมาณขนส่งเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ ที่ซื้อขายผ่านไปรษณีย์ ทาง ปณท.จึงมีความต้องการใข้รถมากขึ้น และมองไปที่การประหยัดพลังงานด้วย ทาง กฟภ.จึงได้คัดเลือกหารถที่มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ตามที่ ปณท.ต้องการ โดยบริษัทแอดวานซ์ เพาเวอร์เทค จำกัด มีรถยนต์ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียง จึงได้ให้นำรถมาทำการทดสอบ ในเบื้องต้นคุณภาพถือว่าอยู่ในเกณฑ์ และจะมีการทดสอบต่อไปอีก 2 เดือนจนกว่าจะแน่ใจว่า สามารถใช้งานกับกิจการไปรษณีย์ได้จริง ถูกต้องตามแนวคิดประหยัดและอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งหลังจากทดสอบแล้วเสร็จจะทำการประมูลจัดซื้อจัดจ้างต่อไปตามระเบียบราชการ “ที่ต้องการให้มีการทดสอบรถไฟฟ้าในครั้งนี้ เพราะต้องให้สังคมได้ทราบว่า รถยนต์ไฟฟ้าสามารถใช้งานได้จริง ปัจจุบันคนยังไม่ค่อยมั่นใจ และ กฟภ.ได้ทำโครงการนำร่องมาก่อนแล้ว โดยมีรถบัสไฟฟ้าใช้ขนส่งพนักงาน 2 คันและมีปั๊มเติมไฟฟ้า ซึ่งประชาชนที่ใช้รถไฟฟ้าสามารถเข้ามาเติมที่นี่ได้ อยากบอกว่า รถยนต์ไฟฟ้า ใข้งานได้จริง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และประหยัด มีค่าใข้จ่ายด้านพลังงานเพียง กม.ละ 0.50 บาทเท่านั้น” นายสมนึก วิทยารักษ์สรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแอดวานซ์ เพาเวอร์เทค จำกัด กล่าวว่า ตามโครงการนี้ บริษัทได้นำเสนอรถตู้ขนส่ง EV ตามสเป็คที่ไปรษณีย์ไทยต้องการใช้ขนส่งวัสดุ โดยเป็นรถใช้มอเตอร์ขนาด 49 KW ชาร์จ 1 ครั้ง วิ่งได้ 300 กม.สามารถชาร์จได้ทั้งแบบทั่วไปคือ 10 ชม.เต็ม ชาร์จเร็ว 6 ชม. และชาร์จด่วน 1.30 ชม.รับน้ำหนักขนส่งวัสดุได้ 500 ก.ก. ทำความเร็วได้ 90 กม.ต่อชม. อัตราค่าพลังงาน 0.50 บาทต่อกม. สามารถวิ่งบนถนนน้ำท่วมได้ไม่เกิน 60 ซ.ม. และยังรับประกันแบตเตอรี่เป็นเวลา 8 ปี “การนำเสนอครั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยสามารถซื้อ หรือเช่าก็ได้ ถ้ายังไม่แน่ใจก็เช่าไปก่อน สัญญาเช่าจะครอบคลุมถึงการประกันภัย การซ่อมบำรุง และสามารถเปลี่ยนรถได้ภายใน 24 ชม. ถ้านอกเขต กทม.ระยะทางเกินกว่า 300 กม. เปลี่ยนได้ภายใน 48 ชม. รวมทั้งสามารถหักค่าเช่า ในวันที่ไม่สามารถทำการขนส่งได้อีกด้วย” นายสมนึกกล่าวอีกว่า รถ EV ที่นำมาเสนอเจ้าหน้าที่ของ กฟภ.และไปรษณีย์ไทย เคยเดินทางไปดูการทดสอบที่ประเทศจีนแล้ว ซึ่งการทดสอบผ่านทั้งการวิ่งในน้ำระดับลึก 60 ซ.ม. วิ่งผ่านถนนขรุขระ ทดสอบการบรรทุกขนส่งต่างๆ อย่างไรก็ตามยังต้องผ่านการทดสอบขั้นตอนของไทย รวมถึงกรมการขนส่งทางบก พร้อมกันนี้ ยังได้แนะนำสถาบันการเงินของกระทรวงการคลังจีนคือ บริษัทซิโนชัวร์ และบริษัทคอมแพลนต์ บริษัทรับเหมาก่อสร้างใหญ่ที่สุดในประเทศจีนต่อนายศรัณย์พงศ์ อาชว์สุนทร รองผู้ว่าฯกฟภ. และนายเลิศชาย แก้ววิเชียร ผู้ช่วยผู้ว่าฯกฟภ.