อุทาหรณ์แม่ค้าร้านอาหารอีสานและอาหารตามสั่ง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ทอดหมูกรอบทิ้งไว้ไปทำก๋วยเตี๋ยวให้ลูกค้า ได้กลิ่นไฟไหม้กระบะตกใจทำอะไรไม่ถูก ใช้น้ำสาดใส่กระทะเกิดไฟลุกท่วมไหม้ห้องครัวเสียหาย ขณะเจ้าตัวถูกไฟลวกตามใบหน้าลำตัวบาดเจ็บ กู้ภัยเร่งนำส่ง รพ. ด้าน จนท.เตือนหากเกิดไฟไหม้กระทะที่มีน้ำมันอย่าใช้น้ำฉีดเด็ดขาด ควรปิดถังแก๊สและใช้ผ้าชุบน้ำปิดคลุมกระทะ
วันนี้ (30 ก.ค.62) ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรนางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้ ร้านขายอาหารอีสานและอาหารตามสั่ง หน้าหมู่บ้านคชา ถนนนางรอง-ละหานทราย จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองนางรอง และหน่วยกู้ภัยนางรอง ร่วมตรวจสอบและระงับเหตุเพลิงไหม้
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบไฟลุกไหม้ภายในห้องครัว บริเวณหลังร้านขายอาหารอีสาน และอาหารตามสั่ง จึงได้ใช้ถังเคมีฉีดดับไฟที่กำลังลุกไหม้กระทะ และรีบปิดถังแก๊สซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเพื่อป้องกันไม่ให้แก๊สระเบิด โชคดีที่ข้าวของเสียหายเพียงเล็กน้อย แต่เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นางสุพิน แมลงผึ้ง อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายอาหารที่เกิดเหตุ ถูกไฟลวกและน้ำมันที่ร้อนจัดในกระทะกระเด็นใส่ตามใบหน้า แขน และลำตัว หน่วยกู้ภัยจึงได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ช่วยเหลือ โชคดีที่อาการไม่สาหัสมาก
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า นางสุพิน เจ้าของร้าน ได้ตั้งกระทะน้ำมันเพื่อเตรียมจะทอดหมูกรอบในครัวด้านหลังร้าน ระหว่างนั้นมีลูกค้ามาซื้อก๋วยเตี๋ยวที่หน้าร้านพอดี จึงได้ออกมาทำก๋วยเตี๋ยวให้ลูกค้า สักพักได้กลิ่นเหม็นไหม้จึงรีบวิ่งไปดูก็ พบว่าไฟกำลังลุกไหม้กระทะน้ำมันที่ตั้งไว้ ด้วยความตกใจทำอะไรไม่ถูก นางสุพิน จึงเอาน้ำไปสาดใส่กระบะเพื่อหวังจะดับไฟ แต่ไฟกลับลุกไหม้แรงกว่าเดิม จนเจ้าตัวถูกไฟลวกที่ใบหน้า แขน และลำตัว ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่เพื่อนบ้านจะเข้ามาช่วยเหลือ และแจ้งเจ้าหน้าที่ช่วยดับไฟ
จากกรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นอุทาหรณ์เตือนภัย โดยเจ้าหน้าที่ บอกว่า หากเกิดไฟลุกไหม้หม้อหรือกระทะขณะที่ทำอาหาร อันดับแรกควรตั้งสติแล้วรีบปิดเตาแก๊สเพื่อป้องกันไม่ให้แก๊สระเบิด จากนั้นให้ใช้ผ้าชุบน้ำให้เปียกไปปิดครอบที่หม้อกระหรือกระทะที่ไฟไหม้ ห้ามใช้น้ำสาดใส่เด็ดขาดเพราะจะยิ่งทำให้ไฟลุกไหม้แรงขึ้น หากเป็นไปได้ควรจะติดตั้งถังเคมีดับเพลิงไว้ก็จะดีที่สุด