แพทย์ยืนยันตรงกัน กระดูกสันหลังของเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.3 คดงอ น่าจะไม่ได้เกิดจากการสะพายกระเป๋าที่หนักเกินไป แต่อาจจะเกิดจากภาวะทางพันธุกรรมหรือภาวะอื่นๆ ซึ่งต้องละเอียดอีกครั้ง เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (30 ก.ค.62) ที่ โรงพยาบาลขอนแก่น ราม อ.เมือง จ.ขอนแก่น นพ.กิตติพงษ์ วิทยาไพโรจน์ ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์(โรคกระดูกสันหลัง) โรงพยาบาลขอนแก่น ราม ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ที่ จ.ขอนแก่น ว่า จากกรณีการพบกระดูกสันหลัง ของ ด.ญ.ปารย์ทองแท้ ดีบุญมี ณ ชุมแพ หรือ น้องโทนี่อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนชุมแพศึกษา อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ที่มีอาการคดงอ ซึ่งคนในครอบครัวของน้องโทนี่ เชื่อว่าน่าจะเกิดจากการสะพายกระเป๋านักเรียนที่หนักเกินไป และเป็นระยะเวลานานนั้น ซึ่งในการเจ็บปวดที่หลังหรือไหล่อาจจะเกิดจากผลข้างเคียงที่กล้ามเนื้อในร่างกายของผู้ป่วยไม่ปกติ อันมีผลมาจาก กระดูกสันหลังน้องไม่ปกติ ส่วนอาการกระดูกสันหลังน้องคดงอนั้นยังไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งอาจจะเกิดจากภาวะทางพันธุกรรมหรือภาวะอื่นๆซึ่งยังคงต้องรอผลการตรวจจากทีมแพทย์เฉพาะทางอีกครั้ง ทำให้ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด อย่างไรก็ดีภาวะกระดูกสันหลังคดงอ สามารถเกิดขึ้นได้กับประชาชนโดยทั่วไปแต่ไม่มากนัก และโดยส่วนใหญ่มักจะพบในผู้หญิง ช่วงประถมศึกษาตอนปลายและช่วงมัธยมศึกษาตอนต้น " การสะพายสิ่งของหนักนั้น มีผลกับการเกิดกระดูกสันหลังคดได้หรือไม่ ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่จะเกิดอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อมากกว่า ซึ่งก็อยากให้ประชาชนทุกคนได้มีการดูแลรักษาร่างกายตัวเองหรือคนในครอบครัว ทุกคนควรจะสังเกตสรีระร่างกายของคนใกล้ชิดว่าไหล่หรือซี่โครงมีความผิดปกติหรือไม่ การเดิน การนั่ง หลังยังตรงหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนควรจะสังเกต หากพบความผิดปกติก็ให้เข้าพบแพทย์เพื่อขอรับคำปรึกษาได้ ซึ่งในส่วนของน้องโทนี่นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ตรวจร่างกายน้อง จึงยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่ากระดูกหลังคดเกิดจากสาเหตุใด โดยแนวทางการรักษามีเพียงอย่างเดียวคือการผ่าตัด" ขณะที่ ผศ.นพ.ชัชวาล ศาลติพิพัฒน์ อาจารย์ประจำภาควิชาออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า โรคกระดูกสันหลังคด ปัจจุบันไม่สามารถระบุสาเหตุที่ชัดเจนได้ เป็นโรคในกลุ่มอีโดฟาติก ที่ระบุสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ จากการวิเคราะห์พบว่ามักเกิดกับกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นหญิงวัยรุ่นอายุ 12 ปีขึ้นไป โดยมีงานวิจัยจากต่างประเทศระบุว่า เป็นการถ่ายทอดทางพันธุกรรมรูปแบบหนึ่งที่ถ่ายทอดจากยายสู่แม่จากแม่สู่ลูก โดยการเอาโครโมโซม เอายีนจากผู้ที่เป็นไปตรวจพบว่าเป็นกลุ่มคล้ายๆกัน ซึ่งน่าจะเป็นยีนกลุ่มนี้ที่ทำให้หลังคดได้ "ปัจจุบันไม่สามารถระบุได้ว่ามีจำนวนผู้ป่วยเท่าใด แต่ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีผู้ป่วยรายใหม่เข้ามาขอรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นปัญหาหลักอีกปัญหาหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่น เพราะหากเป็นแล้ว แล้วเลยวัยที่จะสามารถทำการรักษาได้จะต้องเข้ารับการผ่าตัดนำเหล็กเข้าไปดามอย่างเดียว แต่หากทราบว่าเป็นตั้งแต่จำนวนองศาที่คดงอไม่มาก อาจรักษาด้วยวิธีใส่เสื้อช่วยพยุงให้ดีขึ้นแทนการผ่าตัด จึงขอแนะนำว่าให้ผู้ปกครองหมั่นสังเกตรูปร่างของบุตรหลานตั้งแต่ช่วงเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จะได้ทำการรักษาได้ทันท่วงที" ผศ.นพ.ชัชวาล กล่าวต่ออีกว่า สำหรับโรคกระดูกสันหลังคดในวัยรุ่นหญิง หากเป็นแล้วยังได้รับสิ่งกระตุ้นให้เป็นหนักขึ้นเช่น หิ้วประเป๋าที่หนักเป็นเวลานานๆ และเป็นประจำ จะเป็นการกระตุ้นให้กระดูกคดงอมากยิ่งขึ้น สำหรับแนวทางการรักษาจะประเมินจากมุมคดงอของกระดูกว่าหากเป็นไม่มากและอยู่ในวัยเจริญเติบโตอยู่ จะรักษาด้วยการช่วยพยุง เช่น สวมเสื้อพยุง หลีกเลี่ยงการยกของหนัก แต่หากพบว่ามีมุมมากกว่า 40 องศา อาจจะต้องได้รับการผ่าตัด