เผยแพร่ออกมาให้สะท้านวงการทหารโลกกันอีกคำรบ สำหรับ รายงาน “สมุดปกขาว” ฉบับล่าสุดของ “พญามังกร” จีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ภายใต้ ชื่อว่า “การป้องกันแห่งชาติของจีนในยุคใหม่ (China's National Defense in the New Era)” ซึ่งทาง “สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของรัฐ” หรือ “เอสซีไอโอ (SCIO : State Council Information Office)” แห่งรัฐบาลปักกิ่ง เป็นผู้เผยแพร่ ที่เปรียบไปก็เสมือนแผนการยุทธศาสตร์ทางการทหารของจีนแผ่นดินใหญ่ ที่จะใช้เป็นคู่มือดำเนินการไปอย่างไรอย่างนั้น เจ้าหน้าที่ “สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของรัฐ” กำลังลำเลียงสมุดปกขาวว่าด้วย “การป้องกันแห่งชาติของจีนในยุคใหม่” ฉบับปีล่าสุด ออกแจกจ่าย และก็ต้องถือว่า ไม่ว่าพญามังกรจะร่อน “สมุดปกขาว” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับทางการทหาร ออกมาครั้งใด โลกทั้งใบก็จำต้องเงี่ยหูฟังด้วยความตระหนัก หรือถึงขั้นเกิดความตระหนกกันมานั้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพลานุภาพแห่งอำนาจของพญามังกร ที่นับวันจะผงาดฟ้า จนเป็นที่คร้ามเกรงกัน ดังสมุดปกขาวด้านการทหารฉบับหนก่อน ซึ่งทางเอสซีไอโอ เผยแพร่ไปเมื่อ 4 ปีก่อน ก็ได้สร้างความสั่นสะท้านไปทั้งโลกกันมาแล้ว โดยในครั้งนั้น จีนแผ่นดินใหญ่ มีหมุดหมายที่ยกเครื่องแสนยานุภาพทางทะเลเป็นสำคัญ ก็เขย่าขวัญในหมู่ประเทศที่กำลังมีปัญหาเผชิญหน้ากับจีนแผ่นดินใหญ่ ในกรณีพิพาทดินแดนทางทะเล เช่น ในทะเลจีนใต้ เป็นอาทิ ส่วนรายงานสมุดปกขาวของจีนแผ่นดินใหญ่ ฉบับล่าสุด ก็กล่าวถึงงบประมาณด้านกลาโหม ที่ทะยานพุ่งสูงขึ้น ตลอดช่วง 5 ปีเป็นต้นมา คือ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 – 2560 (ค.ศ. 2012 – 2017) ที่เพิ่มจาก 98,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สู่ 152,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ แสดงทรรศนะว่า เป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมากกว่า ร้อยละ 50 หรือกว่าครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว และเมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี ก็อยู่ที่ร้อยละ 1.28 โดยรายงานของจีน ระบุว่า ยังเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับของสหรัฐฯ รัสเซีย หรือแม้กระทั่งอินเดีย ด้วยซ้ำ พร้อมกันนี้ สมุดปกขาวรายงานถึงแผนยุทธศาสตร์ของกองทัพยุคใหม่ที่กำลังดำเนินไปในสมัยของนายสี จิ้นผิง เป็นประธานาธิบดีจีน นับแต่นี้ต่อไปด้วยว่า จะมุ่งพัฒนาให้กองทัพเป็นกองทัพเทคโนโลยีชั้นสูง หรือ “กองทัพไฮเทค” เช่น การใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ คลาวด์คอมพิวติง ระบบข้อมูลขนาดใหญ่ หรือบิ๊กดาตา มาใช้ในกองทัพอย่างแพร่หลาย การพัฒนาหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ในกองทัพจีนแผ่นดินใหญ่ โดยรายงานของสมุดปกขาว ระบุว่า การพัฒนากองทัพให้ไฮเทคข้างต้น ก็หาได้มุ่งหมายให้จีนไปครอบงำ หรือแผ่ขยายอิทธิพลดังที่ประชาคมโลกวิตกกังวลแต่ประการใด ก่อนตำหนิติเตียนกล่าวโทษไปยัง “สหรัฐอเมริกา” เจ้าของฉายา “พญาอินทรี” คู่ปรปักษ์สำคัญว่า เป็นประเทศที่บ่อนทำลายเสถียรภาพความมั่นคงของโลก นอกจากสหรัฐฯ แล้ว สมุดปกขาว ยังรายงานในเชิงขู่กันกลายๆ ไปยัง “ไต้หวัน” ด้วยว่า ถ้าประกาศเอกราชจากจีนแผ่นดินใหญ่เป็นทางการเมื่อใด ก็เตรียมทำสงครามกับจีนแผ่นดินใหญ่ได้เลย ขีปนาวุธของไต้หวัน ที่สั่งซื้อจากสหรัฐฯ ทั้งนี้ นอกจากไต้หวันแล้ว ก็ยังมีธิเบต และพวกอุยกูร์ ในซินเจียง ที่ทางการปักกิ่ง เตือนว่า จะใช้มาตรการทางทหารหากแว่นแคว้นเหล่านั้น คิดแยกดินแดนเป็นเอกราช บรรดานักวิเคราะห์ แสดงทรรศนะต่อสมุดปกขาวของทางการปักกิ่งที่ออกมา “ปล่อยของ” ในช่วงนี้ด้วยว่า ไม่ผิดอะไรกับการส่งสารเตือนไปยังกลุ่มปรปักษ์ โดยเฉพาะสหรัฐฯ กับไต้หวัน ที่มี “ดีล” ซื้อขายอาวุธยุทโธปกรณ์ มูลค่า 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมทั้งการที่สหรัฐฯ เปิดดินแดนให้ “ไช่ อิง-เหวิน” ประธานาธิบดีหญิงของไต้หวัน ไปแวะพักค้างถึง 4 คืน ทั้งๆ ที่ไม่ได้สถาปนาทางการทูตระหว่างกัน เมื่อช่วงกลางเดือน ก.ค. ที่เพิ่งผ่านพ้นไป แบบส่งสารเตือนกันแรงๆ ว่า กลุ่มปรปักษ์พวกนี้ “อย่าเล่นกับไฟ” โดยเฉพาะไฟจากพญามังกร เป็นอันขาด ประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน ของไต้หวัน เดินทางถึงสหรัฐฯ เมื่อช่วงกลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา