กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แจ้งสถานการณ์โรคคอตีบในไทยปี 62 มีรายงานพบผู้ป่วยแล้ว 15 ราย เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้ใหญ่ ใน 9 จังหวัดได้แก่ ยโสธร นครราชสีมา อุดรธานี สระแก้ว ตากเชียงราย ยะลา สตูล สงขลา นอกจากนี้ ยังพบว่าอัตราป่วยของโรคปีนี้สูงขึ้นประมาณ 2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 61 และค่ามัธยฐาน 5 ปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มอายุแรกเกิด-9 ปี เป็นกลุ่มที่มีอัตราป่วยสูงสุด รองลงมาคือกลุ่มอายุ 10-19 ปี พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่ามีโอกาสจะพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กและเด็กวัยเรียน (แรกเกิด-9 ปี และ 10-19 ปี) เป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ทั้งในสถานที่ที่มีผู้คนอยู่รวมกันจำนวนมาก เช่น โรงเรียนประจำ ศุนย์เด็กเล็ก รวมถึงบางพื้นที่ของประเทศที่ความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนยังไม่เพียงพอ ทั้งนี้ โรคนี้เป็นโรคติดเชื้อเฉียบพลันของระบบทางเดินหายใจ มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียทำให้เกิดการอักเสบ ในรายที่รุนแรงจะมีการตีบตันของทางเดินหายใจ ถ้าเป็นรุนแรงจะทำให้เป็นอัมพาตและเสียชีวิตได้ ซึ่งเชื้อจะพบในคนเท่านั้น โดยจะพบอยู่ในจมูกหรือลำคอของผู้ป่วย หรือผู้ที่ติดเชื้อโดยไม่มีอาการ และสามารถติดต่อกันได้ง่าย ได้รับเชื้อจากการไอจามรดกัน หรือพูดคุยในระยะใกล้ชิด เชื้อจะเข้าสู่ผู้สัมผัสทางปากหรือทางหายใจ บางครั้งอาจติดต่อกันโดยใช้ภาชนะร่วมกัน หลังจากได้รับเชื้อ จะมีไข้ต่ำๆ คล้ายหวัดในระยะแรก ไอเสียงก้อง เจ็บคอ เบื่ออาหาร ในเด็กโตอาจบ่นเจ็บคอหรือคออักเสบ บางรายอาจพบต่อมน้ำเหลืองที่คอโตด้วย ในรายที่รุนแรงจะพบแผ่นเนื้อเยื่อสีขาวหรือเทาที่คอหอย ซึ่งอาจอุดกั้นทางหายใจ และอาจพบภาวะแทรกซ้อน เช่น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เส้นประสาทอักเสบได้ สำหรับการป้องกัน โดยให้วัคซีน ให้นำบุตรหลานตั้งแต่อายุ 2 เดือนขึ้นไป รับวัคซีนตามเกณฑ์ และหญิงตั้งครรภ์ควรได้รับวัคซีน dT ครบตามเกณฑ์