จากแนวคิด "ความรับผิดชอบต่อสังคม เริ่มต้นจากข้าวเมล็ดเดียว" เป็นเวลากว่า 7 ปี นับตั้งแต่ปี 2555 ที่ โรงเรียนชาวนาพุทธเศรษฐศาสตร์ มหาวิชชาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์ จังหวัดเชียงราย ซึ่งก่อตั้งโดย พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) ได้แก้ปัญหาความยากจนของเกษตรกรไทย โดยยึดหลักสัมมาชีพ "เกษตรอินทรีย์" ในการผลิตข้าวพันธุ์ท้องถิ่นและผลผลิตทางการเกษตรที่สอดคล้องกับภูมิเกษตร ตลอดจนส่งเสริมการสร้างศูนย์การเรียนรู้และการผลิตผลแบบอินทรีย์ในกลุ่มเกษตรกรโรงเรียนชาวนา เพื่อเป็นแบบอย่างและเครือข่ายที่เข้มแข็งและมีคุณธรรม พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี  (ว.วชิรเมธี) ล่าสุด บมจ.ซีพี ออลล์ ร่วมกับ โรงเรียนชาวนาพุทธเศรษฐศาสตร์ ไร่เชิญตะวัน จ.เชียงราย เดินหน้าโครงการเสริมสร้างทักษะองค์ความรู้ให้กับชาวนาในรูปแบบต่างๆ เพื่อการสร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตชาวนา โดยโครงการดังกล่าวยังคงให้ความสำคัญกับการทำเกษตรกรรมในรูปแบบเกษตรอินทรีย์ตามแนวคิดของโรงเรียนชาวนาพุทธเศรษฐศาสตร์ รวมทั้งสร้างชาวนามืออาชีพและมีคุณธรรม ครอบคลุมเนื้อหาการจัดการผลผลิต, การตลาด, การสื่อสาร, การแปรรูป และการบริหารผลิตผลทางการเกษตรอย่างปลอดภัย เป็นผลิตภัณท์ที่สามารถสร้างรายได้และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเน้นการให้ธรรมชาติคืนสู่ธรรมชาติ บัญญัติ คำนูณวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีพี ออลล์ นายบัญญัติ คำนูณวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย กล่าวว่า ซีพี ออลล์ ได้ดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์สู่ความยั่งยืนมาตั้งแต่ปี 2560 ภายใต้กรอบการทำงาน 3 เสาหลัก คือ มุ่งมั่นทำธุรกิจด้วยใจที่เป็นธรรม โปร่งใสตรวจสอบได้ (Heart) มุ่งมั่นสร้างสังคมที่ยั่งยืน มีคุณภาพชีวิตที่ดี (Health) และเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน (Home) ดังนั้นบริษัทฯจึงได้ดำเนินงานภายใต้ปณิธาน "ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน" มาอย่างต่อเนื่อง กิจกรรมทำนาโยน "โรงเรียนชาวนาฯ เป็นโครงการที่น่าสนใจเพราะช่วยส่งเสริมชาวนาอย่างเป็นรูปธรรม คือมีโรงเรียน มีหลักสูตร และมีการแลกเปลี่ยนความรู้ ซีพีออล์จึงเข้ามามีส่วนร่วมด้วยการสนับสนุนในรูปแบบของเงินทุนและองค์ความรู้ เช่น การประกอบการธุรกิจ ที่ต้องคำนึงถึงต้นทุน ต้องคำนึงถึงการจัดจำหน่าย โดยอาจเป็นการเชิญผู้ทรงคุณวุฒิที่ไม่จำเป็นต้องเป็นคนของซีพีออลล์มาให้ความรู้ ซึ่งเราจะเข้าไปดูแลในเรื่องค่าใช้จ่าย แต่เราจะไม่เข้าไปก้าวก่าย โดยในเบื้องต้นได้มอบเป็นทุนสนับสนุนโครงการฯ ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่อง 3 ปี นอกจากนี้เราอาจจะสนับสนุนในเรื่องของการให้ทุนการศึกษา เพราะที่สถาบันการจัดการภิวัฒน์ มีคณะนวัตกรรมการเกษตร อาจจะให้ทุนของลูกหลานชาวนาได้เรียนฟรี" นายบัญญัติ กล่าว เทียบ จันต๊ะนาเขต นายบัญญัติกล่าวทิ้งท้ายว่า "อยากจะให้ทุกฝ่ายหันมาเหลียวมองชาวนา ชาวนาคือผู้อยู่ในเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ... ซีพี ออลล์ ในฐานะภาคเอกชนขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาศักยภาพของชาวนาในการเป็นผู้ประกอบการที่มีคุณภาพ คุณธรรมใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม พร้อมกับขอยกย่องเชิดชูชาวนาผู้ปลูกข้าว ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความมั่นคงและยั่งยืนในทุกด้านแก่ประเทศ" ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ด้าน นางเทียบ จันต๊ะนาเขต ศิษย์เก่าโรงเรียชาวนาพุทธเศรษฐศาสตร์ รุ่นที่ 1 กล่าวว่า ในช่วง3 ปีแรก ถือว่าเป็นช่วงปรับเปลี่ยนจริงๆ เมื่อดินดีน้ำดีผลผลิตก็ดีขึ้น และทำให้เราได้รับใบรับรองของเกษตรอินทรีย์ออแกนิคไทยแลนด์ ซึ่งเมื่อก่อนไม่คิดว่าต้องไปติดต่อกับหน่วยงานราชการ การมาเรียนที่โรงเรียนชาวนาฯ ทำให้ได้รับความรู้ เช่น การตลาด การปรับปรุงแพคเกจ และยังได้เพื่อนได้เครือข่าย นอกจากนี้แต่เดิมที่ปลูกเพียงข้าวกล้องอย่างเดียว ปัจจุบันเราได้ปลูกสมุนไพรหลายๆตัวเสริมขึ้น ทำให้ตอนนี้มีผลิตภัณฑ์จำหน่ายที่หลากหลาย เช่น ตะไคร้ไล่ยุง ยาดม ชาหญ้ารีแพร์ หัวเชื้อเห็ดโคน ทุกวันนี้ชีวิตเปลี่ยนจากเดิมไปมาก เมื่อก่อนต้องรอแม่ค้า แต่ทุกวันนี้มีตลาดติดต่อเข้ามาเอง ครอบครัวไม่ต้องพึ่งหมอ เพราะเราปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่เรามี เหลือก็ขายหรือไม่ก็แบ่งให้ญาติพี่น้อง