นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กหัวข้อเรื่อง "สภาที่ 1 จะรับลูกสภาที่ 3 เรื่องไฮสปีดเรล หรือไม่?" ความว่า...
“สภาที่ 1 จะรับลูกสภาที่ 3 เรื่องไฮสปีดเรล หรือไม่?” สภาที่ 3 จัดตั้งขึ้นเพื่อถกแถลงและเผยแพร่ความรู้แก่ประชาชน และเพื่อส่งต่อข้อมูลไปยังสภาที่ 1 (คือสภา สส.) และสภาที่ 2 (คือสภา สว.) เพื่อช่วยกันรักษาหลักการธรรมาภิบาลให้แก่ประเทศ ก่อนหน้านี้ คุณหมอระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ได้ใช้เวทีสภาที่ 3 The Third Council Speaks รายงานให้ประชาชนทราบถึงปัญหาค่าโง่การทางพิเศษฯ (กทพ.) ที่จู่ๆ กทพ. มีข้อเสนอจะต่อสัญญาให้บริษัทเอกชนอีก 30 ปี เพื่อแลกกับภาระทางกฎหมายที่ยังไม่เกิดขึ้น คุณหมอระวีได้นำเรื่องนี้ไปเสนอให้สภาที่ ๑ ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ และสภาที่ 1 ได้รับลูกไปแล้ว ล่าสุด คุณวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ได้ใช้เวทีสภาที่ 3 The Third Council Speaks รายงานให้ประชาชนทราบถึงความไม่ชอบมาพากล ของโครงการไฮสปีดเรลเชื่อม 3 สนามบิน ตามข่าวข้างล่าง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีคมนาคมคนใหม่กล่าวเปิดทาง อาจให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาโครงการนี้ให้รอบคอบได้เช่นเดียวกัน ผมเห็นว่าเป็นนิมิตรหมายดี ที่สภาที่ 1 จะประสานได้กับสภาที่ ๓ เช่นนี้ โดยเห็นว่าควรตั้งประเด็นศึกษาให้ชัดเจน อะไรดีกว่ากัน เช่น 1. เปรียบเทียบระหว่าง รฟท. ทำรถไฟรางคู่ความเร็วปานกลาง ลงทุนห้าหมื่นล้านบาท เชื่อมเข้ากัมพูชาได้เลย กับไฮสปีดเรลที่ทางการจะต้องควักเงินอุดหนุนหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านบาท 2. เปรียบเทียบระหว่าง รฟท. ทำรถไฟรางคู่เอง ที่จะไม่มีปัญหาส่งมอบพื้นที่ กับไฮสปีดเรล ที่จะมีปัญหาส่งมอบพื้นที่ และจะนำไปสู่ค่าโง่ในอนาคต 3. เปรียบเทียบระหว่างการใช้ที่ดิน รฟท. เพื่อแก้ปัญหา รฟท. ไปด้วยในตัว กับการใช้ที่ดิน รฟท. ไปเพื่อประโยชน์แก่เอกชน 4. เปรียบเทียบระหว่าง รฟท. ตั้งบริษัทลูก เพื่อนำที่ดินออกพัฒนารับเงินกินเปล่า และเพื่อร่วมในการบริหารเพื่อรับกำไรอนาคตอีกด้วย กับโยกที่ดินและงานเดินรถไฟไปให้เอกชนทำธุรกิจ ปล่อยให้ รฟท. ยืนแห้งตาย! ผมหวังว่า ความร่วมมือระหว่างสภาที่ 1 กับสภาที่ 3 เพื่อประโยชน์ของประชาชนเช่นนี้ จะมีอีกหลายเรื่อง