จากรายงานของ ทรานพาเรนซี่มาร์เก็ต รีเสิร์ช พบว่า ตลาดโรงแรมลักชูรี่ยังคงขยายตัวที่ 4 %ในปี 2559-2564 สำหรับตลาดลักชูรี่เอเชียใต้ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่าภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งจากนี้ถึง ปี 2568 ตัวเลขของลักชูรี่ทริปจากประเทศ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน จะเพิ่มขึ้น ขณะที่ประเทศจีน และอินเดียน่าจะเพิ่มขึ้นถึง 12.8% โดยลักชูรี่ในประเทศไทย จุดหมายปลายทางของตลาดนี้จะอยู่ที่กรุงเทพ สมุย ภูเก็ต เชียงใหม่ และภาคใต้ และเดสติเนชั่นรองจากกลุ่มแรกเป็นกระบี่ หัวหิน พัทยา ซึ่งในเรื่องนี้นางสาวพรพรรณ รัตนพิทักษกุล ผู้จัดการโรงแรมเมสันพัทยา ได้สะท้อนถึงตลาดโรงแรมลักชูรี่ได้อย่างน่าสนใจ นำเสนอเดสติเนชั่นใหม่ ทั้งนี้ นางสาวพรพรรณ รัตนพิทักษกุล ผู้จัดการ โรงแรมเมสันพัทยา กล่าวว่า เมสันพัทยา เป็นพูลวิลล่าสุดหรูติดชายหาดส่วนตัวแห่งใหม่ในพัทยามีมูลค่าการลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท ในพื้นที่โครงการประมาณ 30 ไร่ ตั้งแต่ถนนสุขุมวิท ถึงหน้าหาด โดย เมสันพัทยา เป็นเฟสแรก ส่วนเฟสสองตั้งเป้าไว้ประมาณ 3 ปี โดยดูจากความต้องการของลูกค้า ซึ่งยังคงใช้เป็นแบรด์เมสันเหมือนเดิม อาจจะเป็นพลูวิลล่า หรือพูลวิลล่า ผสมมิกซ์ยูส ทั้งนี้คงต้องดูความต้องการของตลาดลักชูรี่ที่สามารถเพิ่มกำลังซื้อ และกลุ่มเป้าหมายที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก ซึ่งหลังจากโรงแรมเปิดบริการมา 3 เดือน มีคนไทยเข้ามาใช้บริการประมาณ 50 % และชาวต่างชาติประมาณ 50% มีทั้งชาวจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ตะวันออกลาง มาเลเซีย ฮ่องกง สิงคโปร์ เนื่องจากมีระยะเดินทางที่ใกล้ โดยเฉพาะชาวเกาหลีถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มองหาพลูวิลล่า และสนามกอล์ฟ โดยทางพัทยามีสนามกอล์ฟอยู่ประมาณ 4-5 แห่ง ด้วยเหตุนี้จึงเป็นการตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยวดังกล่าวเป็นอย่างดี อีกทั้งหลังจากเปิดเป็นทางการ ทางกลุ่มประเทศออสเตรเลีย เริ่มสนใจที่จะเดินทางเข้ามา เพราะจากการไปทำโรดโชว์โดยนำเสนอเดสติเนชั่นใหม่ที่ใกล้สัตหีบ เช่น เกาะขามแบบเที่ยวดำน้ำตื้นวันเดย์ทริป หรือ การล่องเรือยอร์ช ที่ โอเชี่ยน มารีน่า ยอร์ช คลับ พัทยา ซึ่งทำให้ชาวออสเตรเลียได้เห็นสินค้าใหม่ที่ตรงความต้องการ และด้วยโรงแรมเป็นสมาชิกของดีไซน์โฮเทลที่มีการทำโรดโชว์ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดหลักจะอยู่ในยุโรป รองลงมา คือ ตลาดเอเปค อย่างประเทศออสเตรเลีย บรูไน ดารุสซาลาม แคนาดา ชิลี จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เป็นต้น ซึ่งสามารถขยายตลาดให้กับกลุ่มโรงแรมลักชูรี่นี้เป็นอย่างดี กระจายกลุ่มนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม นางสาวพรพรรณ กล่าวว่า ในตลาดระยะยาว เป็นกลุ่มต่างชาติที่เดินทางไปโรดโชว์จะทยอยเข้ามาตามฤดูกาลของการพักผ่อนแต่ละประเทศ โดยส่วนใหญ่จะมาพักผ่อนในช่วงวันธรรมดา ซึ่งตรงกับกลยุทธ์ของโรงแรมที่ต้องการกระจายกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งวันธรรมดา และวันหยุดสุดสัปดาห์ส่วนตลาดรยะสั้นจะเป็นกลุ่มคนไทย โดยจะมีการออกโปรโมชั่นพิเศษ เป็นการเพิ่มการบริการ เช่น บริการสปา เป็นต้น ด้วยโปรโมชั่นลด 40% กับวิลล่าทุกประเภท พร้อมอาหารเช้า ถึงเดือนกันยายน และสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตธนาคารกรุงไทยหากจองกับเคทีซีพิเศษไปอีกขั้นกับ Last Check-Out แถมสปา 45 นาที เมื่อพัก 2 คืน ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562นี้ โดยในช่วง 3 เดือนที่เปิดบริการมีอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นเดือนละ 20% บางสัปดาห์ส่วนใหญ่เป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์มีอัตราการเข้าพักสูงถึง 95-100% เป็นการเปิดบริการพูลวิลล่าเต็มรูปแบบ 35 หลัง ทั้งนี้สิ้นปีได้ตั้งเป้าอัตราการเข้าพักประมาณ 75% และตั้งเป้าอัตราการเข้าพักโตปีละ 10% โดยแบ่งกลยุทธ์ทางการตลาดเป็น วันธรรมดาจะมีชาวต่างชาติประมาณ 80% ที่เหลือเป็นคนไทย ส่วนวันหยุดสุดสัปดาห์เป็นคนไทย 80% ที่เหลือเป็นชาวต่างชาติ โดยหวังกลุ่มลองสเตย์ไว้ประมาณ 5 % จาก 35 หลัง หรือโดยเฉลี่ยเดือนๆ หนึ่งได้ประมาณ2-3 หลัง คิดเป็นรายได้ต่อเอนหลังละครึ่งล้านบาท ถือว่าทำรายได้ให้กับรีสอร์ทได้มากทีเดียว อีกทั้งด้วยพฤติกรรมของลูกค้าที่มีความหลากหลาย ดังนั้นทางโรงแรมจึงต้องตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้าให้ตรงจุด อาทิ กลุ่มสัมมนา ที่หาโลเคชั่นใกล้กรุงเทพฯ กลุ่มนี้กำลังมาแรง และส่วนใหญ่มาใช้บริการในวันธรรมดา ดังนั้นห้องประชุมที่รองรับได้ถึง 150 คนจึงตอบโจทย์ในจุดนี้ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ได้ตั้งเป้ากลุ่มสัมมนา และกลุ่มเว็ดดิ้งไว้สัปดาห์ละ1-2 กรุ๊ป โดยเฉพาะกลุ่มเว็ดดิ้งจะแบ่งเป็น 2 แบบ 1. ใช้พื้นที่ของโรงแรมบางส่วน 2.ปิดรีสอร์ท เพื่อจัดงานดังกล่าวโดยเฉพาะ สำหรับห้องประชุมที่จะจัดงาน สัมมนา และงานเว็ดดิ้ง คิดวันละ 120,000 บาท ทั้งนี้ นางสาวพรพรรณ กล่าวว่า ได้ตั้งเป้าจุดคุ้มทุนไว้ที่ 10ปี เพราะฉะนั้นในการตั้งราคาค่าที่พัก จึงต้องเหมาะสมกับสถานที่ และการการบริการที่จัดอยู่ในระดับลักชูรี่โดยกลยุทธ์ของโรงแรมยังคงรักษาราคาให้อยู่ในระดับไฮเอนด์ จะไม่ลดราคาลงมาแข่งกับโรงแรมที่อยู่รอบๆ โดยเฉพาะการร่วมงานกับพันธมิตรทางการค้า ก็จะต้องมั่นใจได้ว่า เมื่อลูกค้าเข้ามาใช้บริการแล้วจะได้การบริการอย่างที่นำเสนอไว้