“ข้าราชการส่วนท้องถิ่นในสายงานอำนวยการและสายงานบริหารจะได้รับการแต่งตั้งให้เลื่อนตำแหน่งในระดับที่สูงขึ้น ต้องใช้วิธีสอบคัดเลือก โดยมีการกำหนดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง เงินเดือน ประสบการณ์ และผลงานในด้านบริหารงานท้องถิ่น แต่จากบัญชีแนบท้ายประกาศนี้กลับเปิดช่องให้ข้าราชการพลเรือนซึ่งมีระดับตำแหน่งที่ต่ำกว่า และคนละสายงาน สามารถโอนมาดำรงตำแหน่งในสายงานอำนวยการและสายงานบริหารได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านระบบการสอบคัดเลือก”
สมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย นำโดยนายพิพัฒน์ วรสิทธิดำรง นายกสมาคมฯ ออกแถลงการณ์ เรื่อง  ขอให้ทบทวนบัญชีเทียบระดับตำแหน่งเพื่อรับโอนข้าราชการตามกฎหมายอื่นมาบรรจุเป็นพนักงานส่วนท้องถิ่น โดยใจความระบุว่า ตามที่คณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น โดย นายพงศ์โพยม วาศภูติ ประธานกรรมการได้ลงนามในประกาศมาตรฐานกลางเกี่ยวกับการรับโอนข้าราชการตามกฎหมายอื่นมาบรรจุเป็นพนักงานส่วนท้องถิ่น ลงวันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๒ และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๗๗ ง ลงวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒ โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ กันยายน ๒๕๖๒ เป็นต้นไป นั้น คณะกรรมการสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ได้พิจารณารายละเอียดของประกาศฉบับดังกล่าวอย่างถ้วนถี่แล้ว จึงมีมติในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ไม่เห็นด้วยกับประกาศและบัญชีเทียบระดับตำแหน่งเพื่อรับโอนข้าราชการตามกฎหมายอื่นมาบรรจุเป็นพนักงานส่วนท้องถิ่นแนบท้ายประกาศฉบับดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า ๑.การเทียบตำแหน่งตามบัญชีนี้ไม่เป็นธรรม ไม่สอดคล้อง หรืออาจขัด หรือแย้งกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๕๑ ซึ่งบัญญัติให้การบริหารงานบุคคลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องใช้ระบบคุณธรรม คำนึงถึงความเหมาะสมและความจำเป็นของแต่ละท้องถิ่นและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละรูปแบบ โดยให้มีมาตรฐานที่สอดคล้องกันเพื่อให้นำไปสู่การพัฒนาร่วมกันหรือการสับเปลี่ยนบุคลากรระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วยกันได้ จึงจะเห็นได้ว่าเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรานี้ได้บัญญัติให้ความสำคัญกับบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในปัจจุบันให้มีขวัญกำลังใจ ในการปฏิบัติหน้าที่ สามารถจะพัฒนาทักษะประสบการณ์ของตนเองเพื่อให้มีความเจริญก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่สูงขึ้นตามลำดับ ดังนั้น การประกาศใช้มาตรฐานฉบับนี้รวมทั้งบัญชีแทบท้าย จึงเป็นการลิดรอนสิทธิของข้าราชการส่วนท้องถิ่น ทำลายขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการส่วนท้องถิ่น เป็นการขัดขวาง ตัดตอน ความก้าวหน้าของข้าราชการส่วนท้องถิ่น และเป็นการละเมิดหรือขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ๒.การที่คณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น อ้างอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓๓ (๑) ของพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒ เพื่อออกประกาศฉบับนี้นั้น อาจไม่ชอบด้วยบทบัญญัติตามมาตราดังกล่าว เพราะบทบัญญัตินี้ มีเจตนารมณ์ให้คณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่นได้ยึดถือหลักคุณธรรมเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล แต่การออกประกาศฉบับนี้ มีความขัดแย้งกับคุณธรรมอย่างชัดเจน เพราะหลักคุณธรรมซึ่งเป็นส่วนสำคัญของระบบคุณธรรม (THE MERIT SYSTEM) ในการบริหารทรัพยากรบุคคลนั้น มีองค์ประกอบที่สำคัญได้แก่ หลักความเสมอภาคในโอกาส หลักความสามารถ หลักความมั่นคงในอาชีพ และหลักความเป็นกลางทางการเมือง กล่าวคือ   (๑) ความไม่เสมอภาคในโอกาส เนื่องจากข้าราชการส่วนท้องถิ่นหากมีความประสงค์ต้องการย้ายเปลี่ยนสายงานจากสายงานวิชาการเป็นสายงานอำนวยการและสายงานบริหารนั้น ต้องใช้วิธีสอบคัดเลือกและ ก.กลางมีการกำหนดหลักเกณฑ์ปิดกั้นกรณีที่มีระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งในระดับชำนาญการไม่ครบถ้วนตามหลักเกณฑ์กำหนด แต่ประกาศและบัญชีแนบท้ายประกาศฉบับนี้ได้ให้สิทธิแก่ข้าราชการพลเรือนในระดับชำนาญการสามารถโอนเป็นสายงานอำนวยการในระดับต้นได้ทันที จึงเป็นการกีดกันข้าราชการส่วนท้องถิ่นแต่กลับเปิดช่องให้มีการรับโอนข้าราชการประเภทอื่นโดยไม่เป็นธรรมและไม่เสมอภาค (๒) กีดกันความสามารถของข้าราชการส่วนท้องถิ่น เนื่องจากการที่ข้าราชการส่วนท้องถิ่นในสายงานอำนวยการและสายงานบริหารจะได้รับการแต่งตั้งให้เลื่อนตำแหน่งในระดับที่สูงขึ้น ต้องใช้วิธีสอบคัดเลือก โดยมีการกำหนดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง เงินเดือน ประสบการณ์ และผลงานในด้านบริหารงานท้องถิ่น แต่จากบัญชีแนบท้ายประกาศนี้กลับเปิดช่องให้ข้าราชการพลเรือนซึ่งมีระดับตำแหน่งที่ต่ำกว่า และคนละสายงาน สามารถโอนมาดำรงตำแหน่งในสายงานอำนวยการและสายงานบริหารได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านระบบการสอบคัดเลือก ซึ่งเป็นการกีดกันความสามารถของข้าราชการส่วนท้องถิ่นและไม่เป็นธรรมกับข้าราชการส่วนท้องถิ่นที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ เป็นการลดเกียรติศักดิ์ของข้าราชการส่วนท้องถิ่น ตอกย้ำความด้อยโอกาสและตอกย้ำความรู้สึกอัดอั้นตันใจของข้าราชการส่วนท้องถิ่นที่มีความคิดว่าถูกข้าราชการพลเรือนกดขี่มาอย่างต่อเนื่องโดยผ่านกระบวนการที่ข้าราชการพลเรือนเหล่านั้น เป็นผู้กำหนดกฎในการบริหารงานบุคคลทั้งในระดับมาตรฐานกลาง มาตรฐานทั่วไป และหลักเกณฑ์ทั่วไปที่ผ่านมติของคณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น (กถ.) คณะกรรมการกลางข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น (ก.จ./ก.ท./ก.อบต.) และคณะกรรมการข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นจังหวัด (ก.จ.จ./ก.ท.จ./ก.อบต.จังหวัด) (๓) ขาดความมั่นคงในอาชีพ การประกาศใช้มาตรฐานกลางฉบับนี้ นอกจากบั่นทอนขวัญกำลังใจของข้าราชการส่วนท้องถิ่นอย่างมากแล้ว ยังสร้างความไม่เชื่อมั่นต่อระบบคุณธรรมในการบริหารงานบุคคล สั่นคลอนความมั่นคงในอาชีพของข้าราชการส่วนท้องถิ่น ที่มีความตั้งใจปฏิบัติหน้าที่แต่หากมีการเปิดช่องให้มีการรับโอนข้าราชการประเภทอื่นที่มีระดับตำแหน่งต่ำกว่าระดับตำแหน่งของข้าราชการส่วนท้องถิ่นมาดำรงตำแหน่งในสายงานบริหารและสายงานอำนวยการได้ จะทำให้ข้าราชการส่วนท้องถิ่นไม่มีโอกาสได้เจริญก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ที่สูงขึ้นได้ เพราะอาจมีข้าราชการพลเรือนหรือข้าราชการประเภทอื่นจำนวนมากโอนมาดำรงตำแหน่งเหล่านั้นแทน อนึ่ง ประกาศฯฉบับดังกล่าวมีสภาพเป็นกฎที่เห็นได้ชัดแจ้งว่าเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น สมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย จึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น ชี้แจงเหตุผลความจำเป็นที่ประกาศใช้มาตรฐานฉบับนี้ให้ชัดแจ้ง  และขอให้มีการทบทวนการบังคับใช้ตามประกาศดังกล่าว โดยให้มีการขยายเวลาการบังคับใช้บัญชีเทียบระดับตำแหน่งเพื่อรับโอนข้าราชการตามกฎหมายอื่นมาบรรจุเป็นพนักงานส่วนท้องถิ่น แนบท้ายประกาศคณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น เรื่อง มาตรฐานกลางเกี่ยวกับการรับโอนข้าราชการตามกฎหมายอื่นมาบรรจุเป็นพนักงานส่วนท้องถิ่น ลงวันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๒ ออกไปอย่างไม่มีกำหนด และให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นศึกษารายละเอียดอีกครั้งหนึ่งโดยมีผู้แทนของข้าราชการส่วนท้องถิ่นสายงานบริหารท้องถิ่น สายงานอำนวยการท้องถิ่น และสายงานวิชาการท้องถิ่น เข้าร่วมเป็นคณะทำงานไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง เพื่อร่วมกันพิจารณาให้เกิดความเท่าเทียม เหมาะสม และเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยทันที ในโอกาสนี้ สมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทยขอเชิญชวนข้าราชการส่วนท้องถิ่นทุกตำแหน่ง ทุกระดับ ที่ไม่เห็นด้วยกับประกาศมาตรฐานฉบับนี้ ได้ร่วมเป็นอาสาสมัครในการที่จะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อเพิกถอนประกาศฉบับดังกล่าว หากคณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่นไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้องข้างต้นเป็นรายจังหวัด โดยสามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ นายกสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ผ่านช่องทาง เฟสบุ๊ค หรือทางไอดีไลน์ @getu2553 หรือทางอีเมล์ [email protected] ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป +++++++