สัปดาห์พระเครื่อง / ราม วัชรประดิษฐ์ “พระปิดตาหลวงปู่แย้ม วัดด่านสำโรง สุดยอดพระปิดตาของเมืองสมุทรปราการ ที่มีความเก่าแก่ และโด่งดังมากมาตั้งแต่อดีต และยังคงเป็นที่นิยมอย่างกว้างในแวดวง นักนิยม สะสมพระปิดตามา จนปัจจุบัน ดัวยพุทธคุณที่เขัมขลังเป็นที่ปรากฏ โดยเฉพาะด้านเมตตามหานิยม” หลวงปู่แย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดด่านสำโรง จ.สมุทรปราการ พระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมในสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) รุ่นเดียวกับ หลวงพ่อเชย วัดบางกระสอบ จ.สมุทรปราการ และ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง ธนบุรี อัตโนประวัติของท่าน เป็นชาววัดด่านสำโรงโดยกำเนิด เกิดเมื่อปี พ.ศ.2387 เริ่มศึกษา อักขระสมัยตั้งแต่เป็นสามเณร จนอายุครบบวชจึงบรรพชาเป็นพระภิกษุ ณ วัดด่านสำโรง เข้าศึกษาพระปริยัติธรรม คันถธุระ และวิปัสสนาธุระ ที่ วัดโพธิ์ ท่าเตียน กรุงเทพฯ จนเชี่ยวชาญแตกฉาน โดยเฉพาะการปฏิบัติวิปัสสนา จากนั้นท่านเริ่มออกธุดงค์ไปตามสถานที่เงียบสงบต่างๆ เพื่อฝึกฝนปฏิบัติ และในที่สุดก็เดินทางกลับมาจำพรรษาที่วัดด่านสำโรงแต่นั้นมา ท่านเป็นพระภิกษุที่เคร่งครัดใน พระธรรมวินัยและวัตรปฏิบัติเป็นอย่างยิ่ง มีอภิญญาสูงส่ง และหลุดพ้นแล้วซึ่งกิเลสต่างๆ ปฏิเสธยศฐา บรรดาศักดิ์ที่ได้รับการแต่งตั้ง มุ่งเพียงดูแลปกครองวัดและพระลูกวัด รวมทั้งลูกศิษย์ลูกหาและญาติโยม ที่มีทุกข์มีความเดือดร้อน แม้จะเป็นที่กล่าวขวัญกันว่า ท่านดุเอามากๆ แต่ท่านก็เป็นที่เคารพรักของชาวบ้าน ด่านสำโรงและละแวกใกล้เคียง ที่ประจักษ์ในความอัศจรรย์และอภินิหารต่างๆ ยกตัวอย่างเรื่องราวที่เล่าขาน กันมาว่า ... สมัยก่อนมีเรือกลไฟฝรั่งลำหนึ่งวิ่งผ่านหน้าวัดด่านสำโรงทุกวัน ในเวลาหลวงปู่แย้มลงสรงน้ำ แต่ฝรั่งผู้นั้นไม่มีความเคารพในหลวงปู่ จึงขับเรือผ่านไปด้วยความเร็ว ทำให้เกิดลูกคลื่นซัดไปกระทบกับตัวท่าน ต่อมาภายหลังเมื่อเรือกลไฟลำนั้นวิ่งผ่านหน้าวัดคราใด เครื่องยนต์ก็จะดับสนิททุกครั้งไป จนฝรั่งคนนั้น ไม่สามารถที่จะแล่นเรือผ่านหน้าวัดหลวงปู่ไปได้อีกเลย ... นอกจากนี้ หลวงปู่แย้มยังเป็นพระนักพัฒนา ท่านสามารถพลิกฟื้นสภาพวัดด่านสำโรง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยาและมีสภาพรกร้างว่างเปล่า ให้เป็นปึกแผ่นมั่นคงรุ่งเรือง ทั้งบูรณ ปฏิสังขรณ์และจัดสร้างโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ เสนาสนะต่างๆ จนถึงกุฏิสงฆ์ ด้วยการร่วมแรง ร่วมใจของเหล่าลูกศิษย์ลูกหา และชาวบ้านที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสในหลวงปู่แย้มนั่นเอง หลวงปู่แย้ม มรณภาพเมื่อปี พ.ศ.2481 สิริอายุ 94 ปี 74 พรรษา แต่ชื่อเสียงเกียรติคุณความดี รวมถึงอิทธิปาฏิหาริย์ต่างๆ ของท่าน ยังคงจารึกในใจสาธุชนโดยเฉพาะชาวบ้านด่านสำโรงและใกล้เคียง ที่เล่าขานสืบต่อกันมา ณ ปัจจุบันผู้คนยังแวะเวียนไปกราบไหว้บูชาและขอพร ‘รูปหล่อหลวงปู่แย้ม’ ที่วัดด่านสำโรง อยู่เป็นเนืองนิจ วัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังของหลวงปู่แย้ม มีทั้ง พระปิดตา ตะกรุดพิสมร ผ้าประเจียด และมงคล แต่ที่เป็นที่นิยมเล่นหากันที่สุดเห็นจะเป็น “พระปิดตา” ที่ขึ้นชื่อลือชาด้านเมตตามหานิยมยิ่งนัก ลักษณะเป็นพระพิมพ์เนื้อผง สร้างจาก ‘ผงอิทธิเจ’ ซึ่งมีพุทธคุณทางเมตตามหานิยม ผสมกับว่านยาและวัสดุ อาถรรพ์ต่างๆ อาทิ ยอดสวาท เครือสาวหลง ฯลฯ และใช้น้ำมันตังอิ๊วเป็นตัวประสาน เมื่อกดแม่พิมพ์เป็นที่ เรียบร้อยก็จะปลุกเสกด้วยตัวเองทีละองค์ แล้วรวมใส่ในบาตรเพื่อบริกรรมคาถาอีกครั้ง จากนั้นจึงนำองค์ พระมาลงรักปิดทองเพื่อรักษาเนื้อพระเป็นอันเสร็จพิธี เนื่องด้วยท่านไม่ได้จัดสร้างพระปิดตาในคราวเดียวกันเป็นรุ่นๆ เช่นพระเกจิทั่วไป ท่านจะค่อยทำค่อย ไป และส่วนผสมต่างๆ ก็ไม่ได้มีการชั่งตวงวัด จึงทำให้เนื้อในขององค์พระปิดตามีสีสันต่างกันไป โดยสามารถ แบ่งออกได้เป็น 3 สี คือ “สีน้ำตาลอ่อน” เป็นเนื้อผงขาวผสมน้ำมันตังอิ๊ว เมื่อถูกเหงื่อหรือสัมผัส จึงออกไปทาง สีน้ำตาล “สีเขียว” มีส่วนผสมของใบโพธิ์ และ “สีดำ” มีส่วนผสมของเถ้าใบลานเผา เนื้อที่ได้รับความนิยม สูงสุดจะเป็น เนื้อสีน้ำตาล ซึ่งมีลักษณะคล้ายเนื้อกะลา ที่สมบูรณ์จริงๆ สนนราคาขึ้นถึงหลักแสนไปแล้ว การจะเล่นหา “พระปิดตาหลวงปู่แย้ม” นั้น ขอเตือนว่าต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน เพราะของปลอม ค่อนข้างเยอะมากและค่อนข้างเหมือนมากอีกด้วย เบื้องต้นให้สังเกตลักษณะการลงรักปิดทองให้ดี ไม่ใช่ใช้ “รัก” เป็นตัวประสาน ของแท้เป็นการใช้ “น้ำมันตังอิ๊ว” ประสาน ดังนั้น สีก็จะไม่ใช่ สีน้ำตาลของ “ชะแล็ก” อย่างที่บางท่านเห็นและชื่นชมกันอยู่ครับผม