ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ต.บางโทรัด อ.เมืองสมุทรสาคร บริษัท สมุทรสาคร เนเชอรัล คลีนเอนเนอร์จี จำกัด นำโดยนายอนุพงศ์ มุทราอิศ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัทสมุทรสาคร เนเชอรัล คลีนเอนเนอร์จี จำกัด “ในฐานะโรงงานกำจัดขยะ ผลิตกระแสไฟฟ้า นำร่องของจังหวัดสมุทรสาคร" ตังแต่ในยุค คสช. ได้มีประกาศให้การแก้ไขปัญหาขยะล้นเมือง เป็นวาระแห่งชาติ จึงจัดโครงการ "ฝึกซ้อมการดับเพลิง และการอพยพหนีไฟ ประจำปี 2562" เพื่อเป็นให้พนักงานทุกคนได้ตระหนักถึงอันตราย ทั้งการรู้จักรเอาชีวิตรอดและทรัพย์สินต่างๆ ที่สำคัญต้องไม่เกิดความเสียหายในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง โดยมีวัตถุประสงค์ในครั้งนี้เพื่อให้ทุกคนเล็งเห็นความสำคัญ เพราะถือว่า เมื่อมีเหตุการณ์หลายพื้นที่เกิดขึ้นจริง จึงเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก นายอนุพงศ์ ผอ.ฝ่ายปฏิบัติการฯ ระบุสำหรับการฝึกซ้อมในครั้งนี้ว่า ถือเป็นสิ่งที่ดีและสำคัญมาก เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มีการตรวจสอบข้อบกพร่อง ในจุดต่างๆ อาทิเช่น มีเครื่องหมายชัดเจน มองเห็นง่ายหรือไม่ สัญญาณเตือนภัยได้ยินชัดทุกจุดหรือไม่, อุปกรณ์ที่ใช้ดับ เพลิงพร้อมหรือไม่, หรือมีชำรุดมีการตรวจสอบสภาพหรือไม่, น้ำมีเพียงพอตลอดฤดูหรือไม่ และสุดท้ายมีทีมดับเพลิงที่พร้อมปฏิบัติการหรือไม่ เพื่อพร้อมรับมือกับเหตุไม่คาดฝันดังกล่าวซึ่งหากเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ บ.สมุทรสาคร เนเชอรัล คลีนเอนเนอร์จี จก. ได้เป็นโรงงานกำจัดขยะผลิตพลังงานไฟฟ้า (ต้นแบบของจังหวัด) ในยุค คสช. ที่ประกาศนโยบายร่วมแก้ไขปัญหาขยะล้นเมือง ให้เป็นวาระแห่งชาติ และให้ทุกจังหวัดหาแหล่งจำกัดขยะ (ต้นแบบ) “ทั้งนี้กระทั่งเมื่อวันที่ 18 พ.ค.2561 ทางโรงงานได้ใบรับรองมาตรฐาน ISO 9001-14001 จากการผ่านสำรวจด้านประสิทธิจัดการสิ่งแวดล้อมขยะ ที่สมบูรณ์แบบสากล ซึ่งได้รับการันตีจากหน่วยงานรับรอง (Certification Body) หรือ CB ฐานะเป็นหน่วยงาน หรือบุคคลที่สามารถได้ให้บริการการตรวจประเมิน และรับรองระบบ ซึ่งผ่านการตรวจสอบรับรองระบบต่างๆ ตามเงื่อนไขใน ในข้อกำหนด Requirements for Bodies Providing Audit and Certification of Management System : หรือ ISO/IEC17021 ทั้งนี้ความมาตรฐาน ISO 9001 และ 14001 ถือว่า เป็นเครื่องหมายการันตี ว่ามีมาตรฐานระดับสากล ของเรื่องการจัดการในด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งการบริหารงานกำจัดขยะ ในส่วนขององค์กรที่มีประสิทธิภาพอย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบตามมาตรฐานของหลักสากล ซึ่งปัญหาขยะล้นของประเทศ กระทั่งมีไหลรอดออกสู่ทะเล ก็นับเป็นปัญหาที่สำคันต้องเร่งแก้ไขอย่างด่วนต่อไป” ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการฯ ระบุว่า ที่ดินใช้งานได้ลงทุนทั้งหมด 60 ไร่ ราคา 120 ล้านบาท มีแบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็น 4 ส่วน คือ (1) อ่างกักเก็บน้ำสำรอง 4 ไร่ 2) ส่วนโรงงานคัดแยกขยะ รีไซเคิลขยะ บำบัดน้ำเสีย 20 ไร่ 3) ส่วนโรงงานผลินไฟฟ้า ในอนาคต 10 ไร่ 4) ในส่วนประกอบใช้ต่างๆอีก เช่น ออฟฟิศ ส่วนที่ล้างรถ งานระบบต่างๆ ของช่องทางเดินรถ เป็นต้น “อย่างไรก็ดีขณะนี้ได้เปิดรับกำจัดขยะเข้ามาแล้วที่โรงคัดแยกทำงานแล้วบางส่วนพอสมควร ขณะที่มูลค่าเงินลงทุนโครงการนี้ทั้งหมด คิดเป็นกว่า 1,200 ล้านบาท”