จากกรณี ผศ.ดร.วาสนา วงศ์สุรวัฒน์ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พี่สาวของนายวิญญู วงศ์สุรวัฒน์ หรือ จอห์น พิธีกรชื่อดัง ทวีตข้อความถึงนักร้องยุค 90’s โดยมีใจความว่า
“เศรษฐกิจมันคงย่ำมากจริงๆ บรรดานักร้องยุค 90’s ถึงได้เรียงหน้ากันมาเรียกแขกเต็มไปหมด ถ้าศึกษาประวัติศาสตร์จะเห็นว่า สลิ่มไม่เคยช่วยสลิ่มถังแตกด้วยกันนะคะ ตั้งแต่ Bangkok Joyride ถึงปั้นจั่น”ล่าสุดนางหฤทัย ม่วงบุญศรี หรือ อุ๊ ได้โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กตอบโต้ ความว่า![]()
มึงคือใคร? กูไม่รู้จัก แต่ที่มึงบอกว่า"คงเพราะเศรษฐกิจมันคงแย่มาก นักร้องยุค90'sเรียงหน้ากันออกมาเรียกแขกเต็มไปหมด" เป็นความคิดเห็นที่ อ่อนด้อยหรืออ่อนโลกมากอะ" เพราะว่ากูไม่กลัวพวกมึง กูไม่กลัวกระแสใดๆเลยต่างหาก กูถึงกล้าเผชิญหน้ากับพวกมึง! คนอย่างกู ก็เป็นคนไทยคนนึงที่ติดตามการเมือง ติดตามความเป็นไปของชาติบ้านเมืองมาตลอด ตอนกูอายุ3-16 ขวบ พ่อแม่กูพากูไปงานรำลึก14ตุลาฯที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทุกปีไม่เคยขาด กูเป็นคนรักชาติ รักประชาธิปไตยเหมือนคนไทยคนอื่นๆ กูไม่ชอบที่ทหารปฏิวัติแล้วยึดอำนาจในยุคประภาสและจอมพลถนอมเหมือนกัน แต่กูแยกแยะได้ อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศชาติ ในยุครัฐประหารโดย รสช.มึงคงจำได้ กูนี้แหละคือ"นักศึกษาช่างศิลป" ในขณะนั้น ที่เข้าร่วมการชุมนุมตั้งแต่วันแรกที่หน้ารัฐสภาฯ ตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2535 กูกินนอนหน้ารัฐสภาจนถึงเดือน พฤษภาคมที่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จนเกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ในวันที่ 17-18 พฤษภาคมปี 2535 เหตุการณ์รุนแรง กูก็ไม่เคยกลัวตาย! กูติดคุก 3วัน และสุดท้าย! พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 ทรงมอบความสามัคคีให้คนทุกฝ่าย นั้นคือสิ่งที่กูได้รู้และตระหนักถึงความสำคัญของการมีสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เรารัก ให้เรารู้จักสามัคคีและให้อภัย เหตุการณ์ชาติบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยเรื่อยมา จนถึงวันที่ 3 กรกฎาคม2540 วันปล่อยค่าเงินบาทลอยตัว คนไทย ได้รู้ซึ้งถึงคำว่า เสรีภาพทางการเงินมากจนเกินไป จนแทบสิ้นชาติจากทุนนิยมสามานย์ แล้วประชาธิปไตยก็นำพาประเทศเข้าสู่ระบอบทักษิณหรือ ระบอบเผด็จการรัฐสภา คือทุนนิยมสามานย์เพื่อการผูกขาดประเทศสร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยอย่างถึงที่สุด กูจึงต้องไปสมัครลงเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเขตในปี 2549 เพื่อทำงานการเมืองท้องถิ่นสู้กับระบอบทักษิณ แม้ส่วนตัวจะไม่ได้เกลียดครอบครัวตระกูลชินวัตรเป็นการส่วนตัว แต่กูก็ต้องสู้เพื่อขับเคลื่อนการทำงาน ส่วนเล็กๆที่มีผลกระทบกับฐานเสียงของระบอบเผด็จการรัฐสภาในระดับชาติถึง2สมัยในการเลือกตั้งและอีกหลายๆครั้งในการสู้กับการเมืองระดับชาติ ทุกครั้งที่กูเคลื่อนไหวกูไม่เคยแพ้! เพราะกูสู้ด้วยใจ ไม่ใช่เพราะเงินหรืออำนาจ! จนกระทั่งวันนี้ กูต้องกลับมาอีก กลับมาครั้งนี้มึงจะได้รู้ซึ้ง ว่านักร้องยุค90'sอย่างกูมีประสิทธิภาพมากกว่าที่พวกมึงคิดนัก จงสำเหนียกตัวเองไว้ด้วย อย่าดูถูกดูแคลนคนที่เค้าปกป้องชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ เค้าทำดีกว่ามึงเยอะ โดยมิได้หวังผลตอบแทนใดๆ อย่างที่มึงคิด!